แล่นไปในสายน้ำ
X SHORE EELEX 8000
เรามาทำความรู้จักกับ X SHORE EELEX 8000 เรือสปอร์ทไฟฟ้าที่ได้นำไปทดสอบ แบบจัดเต็ม ดูสิว่ามันสามารถเทียบเคียงกับเรือคู่แข่งที่ใช้น้ำมันได้หรือไม่ ?
เรื่อง/ภาพ : HUGO ANDREAE
ดูเพิ่มเติมได้ที่ mby.com/elex8
KONRAD BERGSTORM ก่อตั้งในปี 2012 โดยผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสัญชาติสวีเดน เพื่อผลิต และพัฒนาเรือสปอร์ทที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าออกจำหน่ายเป็นรายแรกของโลก
จากเป้าหมายแรก คือ การสร้างเรือไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ที่มีความเร็วสูงสุด 40 นอท แล่นได้ระยะทางสูงสุด 50 ไมล์ทะเล ที่ความเร็ว 25 นอท ได้ถูกเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุด 30 นอท หรือมากกว่า แล่นได้ไกลสุด 100 ไมล์ทะเล ที่สำคัญ คือ X SHORE EELEX 8000 (เอกซ์ โชรี อีเลกซ์ 8000)ได้รับคำสั่งซื้อกว่า 80 ออร์เดอร์
และผลิตแล้วเสร็จ 41 ลำ เพื่อพิสูจน์ว่า สามารถแข่งขันกับเรือเครื่องยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงได้
เรือที่เราใช้ทดสอบเป็นของสโมสรเรือท้องถิ่น AGAPI (อกาปี) ตัวเรือ และเพลาไม่ได้ใหม่เอี่ยม ดังนั้น อย่าลืมนึกถึงข้อนี้เวลาอ่านบททดสอบ และตารางประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม จากการใช้งาน โดยสมาชิกของสโมสรมาร่วมปีแล้วพบว่า มันไม่ใช่เรือที่เปราะบาง แต่ทนทาน สามารถใช้งานได้ดี ซึ่งไม่ต่างจากเรือทั่วไป
สไตล์สแกนดิเนเวีย
ไม่ได้บอกว่า มันให้ความรู้สึกเหมือนเรือสปอร์ทลำอื่น แต่ตรงกันข้าม เรือสไตล์นี้มีคำอธิบายดีที่สุดว่า ทันสมัย และมีประโยชน์ รูปทรงเรือค่อนข้างสูง, หัวตัดเป็นแนวตั้งสุดทันสมัย จมูกแบนเป็นรูปสามเหลี่ยมที่โดดเด่น ขอบเรือมีส่วนหักลงเล็กน้อยทอดยาวไปถึงท้ายเรือ สีเอิร์ธโทนสะท้อนความเป็นสแกนดิเนเวีย ซึ่งสีมาตรฐานจะเป็นสีครีม “แซนดี” แบบเรือที่เราทดสอบ และยังมีสีเขียว “มอสส์” และสีน้ำตาล “กาแฟ” ส่วน T-TOP เป็นสีดำเงา เฟอร์นิเจอร์แบบแยกส่วนติดตั้งบนรางไปจนถึงบริเวณหัวเรือ ทำให้คุณเลือกโมดูลที่แตกต่างกันได้ ตั้งแต่เก้าอี้นั่งไปจนถึงชั้นวางอุปกรณ์ดำน้ำ สามารถปรับตำแหน่งติดตั้ง หรือนำออกเพื่อวางจักรยาน เรือแคนู หรืออุปกรณ์อื่นๆ นับเป็นไอเดียที่ชาญฉลาดเพื่อให้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่การติดตั้งที่ต้องถอดนอทเข้า/ออก แทนสลักแบบสปริงโหลดแบบธรรมดา หรือพนักพิงแบบพลิกกลับอาจทำให้เจ้าของไม่อยากใช้งานมันบ่อยนัก
ฟีเจอร์เด่น ได้แก่ พื้นไม้คอร์คที่ผลิตขึ้นใหม่ ฝาครอบ (ส่วนหลังกว้างพอที่จะนั่งได้) สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่ดูดี นุ่มนวล, จับถนัดมือ และให้ความรู้สึกเย็นเมื่อสัมผัสเท่านั้น พวกมันยังง่ายต่อการซ่อมแซม น้ำหนักเบา และทนทานกว่าไม้สัก มันทำขึ้นโดยบดไม้ค๊อกเป็นเม็ด จากนั้นนำไปอบไอน้ำ และมัดให้เป็นรูปทรงต่างๆ
ตัวเรือรูปทรงตัววีตามปกติที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย มีร่องเห็นชัด และอุโมงค์สำหรับใบพัดที่ขับเคลื่อนด้วยเพลา ซึ่งสร้างจากกระบวนการสกัดสารประกอบเคมี แม้จะมีแผนเปลี่ยนไปใช้ FLAX FIBERS และ BIO-RESIN ในอนาคตก็ตาม
แบทเตอรี KRIESEL 63KWH 2 ก้อนถูกติดตั้งอยู่ในพื้นที่เก็บแบบปิดที่ด้านหลังของบริเวณท้ายเรือ เพื่อควบคุมให้น้ำหนักน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่เครื่องยนต์ BRUSA 225KW (ประมาณ 300 แรงม้า) และชุดควบคุมถูกติดตั้งในส่วนที่แยกออกมาทางด้านหน้า และง่ายต่อการเข้าถึง ทุกส่วนที่กล่าวมาถูกเชื่อมต่อกับจอแสดงผล 24 นิ้วของ GARMIN พร้อมซอฟท์แวร์ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่ออ่านสถานะของแบทเตอรี, การใช้ไฟในปัจจุบัน และระยะที่คาดว่าจะเดินทางไปได้เหมือนจิกซอว์ชิ้นสุดท้าย คือ นาฬิกา GARMIN MARQ และแอพพลิเคชัน X-SHORE ที่ตัดสายไฟระโยงระยางทั้งหมดออกไป และทำให้คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลสำคัญในช่วงที่ไม่ได้อยู่ในเรือได้ครบถ้วน
ความประทับใจในการขับขี่
อุปกรณ์ต่างๆ ใน EELEX ไม่ต่างกับเรือที่ใช้น้ำมัน คันเร่งเป็นแป้นหมุนวงกลมติดตั้งในแนวตั้งด้านขวาของคอนโซลกลาง ซึ่งไม่ว่าจะหมุนไปด้านหน้า หรือหลังก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม มีไว้เพื่อควบคุมที่ดีกว่าในสภาพอากาศที่เลวร้าย และลดการกระแทกจากอุบัติเหตุของคันเร่งแบบปกติให้น้อยลง แต่จากการทดสอบโดยไม่ได้ตั้งใจ บอกเลยว่า มันไม่ได้ช่วยลดการกระแทกสักเท่าไร
สองอย่างที่สร้างความประทับใจให้เราในทันที คือ ความเงียบ และความราบรื่นในขณะทำความเร็วต่ำ และการเร่งความเร็วสูงสุดมากขึ้น อย่างแรกนั้นพอจะเดาได้อยู่แล้ว มันมีประโยชน์มากสำหรับผู้โดยสารทุกคนบนเรือ
การที่เราไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงน้ำปะทะตัวเรือนั้นเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ
และที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่านั้น คือ ความไวในการตอบสนองของคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าจะให้แรงขับสูงสุดทันทีที่หมุนคันเร่งสุด ในขณะที่เครื่องยนต์สันดาปจะต้องค่อยๆ ทำรอบไปเรื่อยๆ ก่อนจะถึงความเร็วสูงสุด
ผลสรุป คือ การเร่งความเร็วในช่วงแรกจะมีแรงกระแทก แต่จะค่อยๆ หายไปหลังจากที่ความเร็วเพิ่มขึ้น ในการเร่งความเร็วต่อเนื่องไปกับเรือเครื่องยนต์ RIB ที่ใช้น้ำมันของเรานั้น EELEX ทำความเร็วตีนต้นได้ดีกว่า ก่อนจะถูกแซงในภายหลัง นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับกีฬาโต้คลื่นบนผิวน้ำ และนักสกีน้ำที่ชื่นชอบการลากจูงอันทรงพลัง และแรงดีดที่จะพาอุปกรณ์กีฬาผาดโผนลอยขึ้นไปบนอากาศด้วยพลังของแบทเตอรี
นอกจากกีฬาสุดขั้วทั้งสองอย่างนี้ X SHORE ก็ไม่ได้ดี หรือแย่ไปกว่าเรือสปอร์ทลำอื่นแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเสียงลมปะทะ, เสียงเครื่องยนต์, การกัดกร่อนของใบพัด การกระแทกของตัวเรือ เครื่องยนต์ไฟฟ้าจะได้เปรียบกว่าในช่วงความเร็วสูง ทว่าการตอบสนองของคันเร่งที่ฉับไวกลับรู้สึกไม่ชัดเจนมากเท่าที่ผู้ผลิตต้องการ หางเสือที่มีขนาดเล็กทำให้การเริ่มเลี้ยวสะดุด แทนที่จะส่งทิศทางของแรงขับเคลื่อนไปด้านข้าง หรือท้ายเรือทันที จึงไม่สามารถเข้าโค้งได้เฉียบขาด และเนียนเท่าเรือสปอร์ทลำเล็ก
อย่างไรก็ตาม เรือลำนี้ขับง่าย เพราะมีตัวขับเคลื่อนดันที่บริเวณหัวเรือเพื่อช่วยรับมือกับอุปสรรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเรือขับเคลื่อนเพลาเดียว มันให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง น่าประทับใจ, ตีคลื่นแรง และส่งละอองน้ำไปด้านข้างอย่างไม่สม่ำเสมอ ครั้งหนึ่งเราทดลองขับแบบกระแทกน้ำอย่างจังที่ด้านหัวเรือ พยายามทำความเร็วสูงสุด แต่ตัวเรือ และ T-TOP ก็ผ่านมาได้โดยไม่เกิดความเสียหายใดๆ บนน่านน้ำเรียบๆ เราสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 30 นอทพอดี
เรือสปอร์ทสุดหรู
เราลองวัดผลการใช้กระแสไฟที่ความเร็ว 200 รตน. และคำนวณว่าจะสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางเท่าไรเมื่อแบทเตอรีขนาด 126KWH ถูกชาร์จเต็ม และเหลือไฟสำรองไว้ 10 % ที่ระดับนี้ คอมพิวเตอร์จะลดความเร็วอัตโนมัติเข้าสู่โหมดประหยัดไฟ เพื่อต่อระยะให้คุณอีก 5-10 ไมล์ทะเล เพื่อกลับไปให้ถึงท่าเรือ
จากการทดสอบ คุณน่าจะล่องเรือที่ความเร็ว 5 นอท ได้เป็นระยะ 96 ไมล์ทะเล (ถ้ากระแสลม และคลื่นเอื้ออำนวย) หรือความเร็ว 19 นอทเป็นระยะทาง 39 ไมล์ทะเล น่าแปลก นอกเหนือจากความเร็วทั้งสองที่กล่าว ระยะทางอาจลดน้อยลงถึงต่ำกว่า 25 ไมล์ทะเลได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะแรงดันน้ำที่มากเกินไปขณะเรือกระทบน้ำ หรือเกิดจากแรงต้านที่มากเกินไปเมื่อความเร็วสูงขึ้น แน่นอนว่า ในความเป็นจริง ไม่มีใครขับที่ความเร็วเท่าเดิมได้ตลอดเวลา และประสิทธิภาพของแบทเตอรีนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับตัวแปรจำนวนหนึ่งด้วย แต่ก็เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่า คำโฆษณาของ X SHORE สามารถพิสูจน์ได้จากตัวเลขเหล่านี้ เวลาที่ใช้ในการชาร์จแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ 1.5 ชม. จากการใช้ DC ซูเพอร์ชาร์จไปจนถึง 12-14 ชม. จากการใช้สายชาร์จเรือมาตรฐาน 16A แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะปล่อยชาร์จไว้ข้ามคืน ดังนั้น พวกเขามักจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วยพลังงาน “เต็มถัง” เสมอ (ต่างกับเรือน้ำมันส่วนใหญ่)
ในทำนองเดียวกัน ถึงแม้ช่วงเวลาการล่องเรือด้วยความเร็วที่ระยะทาง 20-40 ไมล์ทะเล จะฟังดูเป็นมาตรฐานของเรือสปอร์ทที่ใช้น้ำมันทั่วไป แต่ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่จะออกเรือแล่นไปด้วยความเร็ว 20 นอทไปที่อ่าวใกล้เคียง, วนรอบๆ นิดหน่อย หรือลงไปพิคนิค หาที่เล่นกีฬาทางน้ำ แล้วก็กลับบ้านเท่านั้น โดยรวมแล้วเป็นระยะทางไม่ถึง 10-15 ไมล์ทะเล ที่ความเร็วดังกล่าว หรืออาจจะอีก 5-10 ไมล์ทะเล ที่ความเร็ว 6-7 นอท
นั่นเป็นวิธีที่เราใช้เรือประมาณ 90 % ของเวลาทั้งหมด ซึ่งมันทำหน้าที่ได้ดี หรืออาจจะดีกว่าเรือที่ใช้น้ำมันในบางกรณี คำถามที่ใหญ่กว่านั้น คือ คุณพร้อมจะทิ้งความสามารถที่ทำให้เรือไปได้ไกล และเร็วกว่าในตอนที่อยากจะได้มันหรือไม่ ?
สรุป
เราไม่ใช่แฟนตัวยงของเรือแบบเปิด และราคาเริ่มต้นที่ 250,000 ยูโร ก็หนักเอาการ แต่ X SHORE ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ยุคสมัยของเรือไฟฟ้ามาถึงแล้ว ทำให้เป็นราคาที่เรายอมจ่ายได้เพื่อแลกกับต้นทุนของเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า, การล่องเรือที่เงียบสงบ ไร้เสียง และลดการปล่อยมลพิษขณะใช้งาน
พื้นเรือไม้คอร์คด้านบนของกราบเรือที่ยึดเกาะ และนั่งสบาย พื้นที่เก็บของจำนวนมากที่บริเวณหัวเรือ
ท้องเรือที่ชัดเจน และกราบเรือสูง ทำให้การเดินราบรื่น
ดาดฟ้าเรือลึก ทำให้การเดินไปไหนมาไหนนั้นสะดวกสบาย
จอภาพสีเขียว หน้าจอใหญ่ขนาด 24 นิ้ว ของ GARMIN ให้ข้อมูลสำคัญ และมีการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง
คันเร่งแบบแป้นหมุนที่ด้านขวาของพวงมาลัยเป็นไอเดียที่ดี แต่ก็อาจหมุนไปโดนโดยไม่ได้ตั้งใจ
รางบนดาดฟ้าสามารถเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์, กลับด้านหรือถอดได้อิสระ
รอกเชือกที่ถูกตัดออก และยกมาด้านใน ทำให้คุณสามารถนั่งบนกราบเรือได้อย่างอิสระ ที่ยึดบังโคลนแบบ CLIP-ON และตัวหนีบปรับได้ ซึ่งทำให้ลูกเรือที่ไม่มีประสบการณ์ก็ใช้งานได้
ท้ายเรือแบบเปิด ทำให้สิ่งของที่ไม่ได้ยึดไว้ อาจไหลตกทะเลได้ โชคดีที่บนเรือมีพื้นที่เก็บของเป็นจำนวนมาก
ข้อมูลจำเพาะ
ความยาวรวม 26 ฟุต 2 นิ้ว (8 ม.)
กว้าง 8 ฟุต 6 นิ้ว (2.6 ม.)
กินน้ำลึก 2 ฟุต 7 นิ้ว (0.8 ม.)
ระวางขับน้ํา 2,600 กก.
ความจุแบทเตอรี 126 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เวลาชาร์จ 6 ชม. ที่ 32A
RCD C สำหรับ 10 ท่าน
ผู้ออกแบบ X SHORE
ราคา และตัวเลือก
ราคาเริ่มต้น 249,000 ยูโร ไม่รวม VAT
เลือกสีตัวเรือ เริ่มต้น 8,500 ยูโร
โซฟา 2 ตัว และโต๊ะ 11,000 ยูโร
นาฬิกา GARMIN ในห้องกัปตัน 2,500 ยูโร
สมรรถนะ
เครื่องยนต์ทดสอบ มอเตอร์ไฟฟ้าไร้แปรง BRUSA 225 กิโลวัตต์ 300 แรงม้า @1,600 รตน. และแบทเตอรี KREISEL ขนาด 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง 2 ก้อน
ABOUT THE AUTHOR
M
MOTOR BOAT
ภาพโดย : MOTOR BOATนิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2565
คอลัมน์ Online : แล่นไปในสายน้ำ
คำค้นหา