ระเบียงรถใหม่
LAMBORGHINI INVENCIBLE/AUTENTICA สุดยอดรถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ เพื่อการอำลาอาลัย สไตล์ “กระทิงดุ”
เดือนนี้ “ระเบียงรถใหม่” ต้อนรับวันปีใหม่ไทยโบราณ และเทศกาลสงกรานต์ ด้วยรถสปอร์ทระดับ “ซูเพอร์คาร์” ล้วนๆ เป็นรถ 3 สัญชาติ คือ รถอิตาลี รถอังกฤษ และรถอเมริกัน เป็นผลงานของผู้ผลิตรถยนต์ซึ่งคนรักรถทั่วโลกรู้จักกันดี 3 ค่าย คือ LAMBORGHINI (ลัมโบร์กินี) ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) และ CHEVROLET (เชฟโรเลต์)
เปิดระเบียงด้วยผลงานใหม่ล่าสุดของค่าย “กระทิงดุ” คือ รถคูเป LAMBORGHINI INVENCIBLE (ลัมโบร์กินี อินเวนซิเบิล) กับรถเปิดประทุน LAMBORGHINI AUTENTICA (ลัมโบร์กินี เอาเตนติกา) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 นี่เอง
ทั้งคู่เป็นรถสปอร์ทระดับ “ซูเพอร์คาร์” และเป็นรถที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ONE-OFF CAR (วัน-ออฟ คาร์) คือ รถที่ผลิตเพียงครั้งเดียวแล้วเลิกผลิตไปเลย ซึ่งอาจจะมีเพียงคันเดียว (เช่นในกรณีของรถคู่นี้) หรือมากกว่าก็ได้ แต่ไม่ได้ผลิตจำนวนมากๆ เหมือนรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายทั่วๆ ไป ที่สมควรบันทึกไว้ด้วยก็คือ ทั้งคู่เป็นรถที่ค่าย “กระทิงดุ” รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ และแบบเต็มคาราเบล เพื่อเฉลิมฉลองวาระสิ้นสุดของยอดรถสปอร์ทประตูขากรรไกร LAMBORGHINI AVENTADOR (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์) ซึ่งกำลังจะถูกปลดจากสายการผลิต และมีรถรุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถไฮบริดมาแทนที่
ยอดรถสปอร์ทประตูขากรรไกรที่ว่านี้ เป็น ALL WHEEL DRIVE V12 SPORTSCAR (ออลล์ วีล ดไรฟ วี 12 สปอร์ทส์คาร์) หรือ “รถสปอร์ทเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ขับเคลื่อนทุกล้อ” ซึ่งเปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ในสวิทเซอร์แลนด์ เมื่อต้นปี 2011 และเริ่มการจำหน่ายไม่นานหลังจากนั้น ในฐานะตัวตายตัวแทนของรถรุ่นก่อน ซึ่งติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI MURCIELAGO (ลัมโบร์กินี มูร์ซีเอลาโก)
ในช่วงเวลากว่า 1 ทศวรรษที่อยู่ในสายการผลิต LAMBORGHINI AVENTADOR ซึ่งมีทั้งตัวถังคูเป ตัวถังเปิดประทุนแบบ ROADSTER (โรดสเตอร์) และติดตั้งแต่เครื่องยนต์ วี 12 สูบ ไม่มีเครื่องยนต์แบบอื่นๆ ได้แตกลูกแตกหลานเป็นรถโมเดลต่างๆ มากมาย เรียงชื่อรุ่น ชื่อโมเดลได้ยาวเป็นขบวนรถไฟ ล่าสุด คือ ในปี 2023 ซึ่งจะเป็นปีท้ายสุดของรถแบบนี้ มีรถให้เลือกรวม 4 โมเดล คือ AVENTADOR SVJ COUPE/AVENTADOR SVJ ROADSTER (อเวนตาโดร์ เอสวีเจ คูเป/อเวนตาโดร์ เอสวีเจ โรดสเตอร์) ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 48 วาล์ว 6,498 ซีซี 566 กิโลวัตต์/770 แรงม้า และสามารถทำความเร็วสูงสุดระดับ 350 กม./ชม. กับ AVENTADOR LP 780-4 ULTIMAE COUPE/AVENTADOR LP 780-4 ULTIMAE ROADSTER (อเวนตาโดร์ แอลพี 780-4 อูลติมาเอ คูเป/อเวนตาโดร์ แอลพี 780-4 อูลติมาเอ โรดสเตอร์) ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกันกับรถ 2 โมเดลแรก แต่บูสต์กำลังสูงสุดเป็น 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า ตามชื่อโมเดล และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 355 กม./ชม.
ทั้งรถคูเป LAMBORGHINI INVENCIBLE และรถเปิดประทุนโรดสเตอร์ LAMBORGHINI AUTENTICA ไม่ใช่รถที่เริ่มต้นการออกแบบด้วยกระดาษเปล่า หรือหน้าจอเปล่า แต่มีรถ LAMBORGHINI AVENTADOR LP 780-4 ULTIMAE ทั้งตัวถังคูเป และตัวถังเปิดประทุนเป็นพื้นฐาน นอกจากเพื่อเฉลิมฉลองวาระพิเศษดังที่กล่าวแล้วข้างต้น ทั้งคู่ยังเป็นรถที่ CENTRO STILE (เซนตโร สติเล) หรือศูนย์ออกแบบของค่ายนี้รังสรรค์ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายอื่นๆ อีก 2 จุด
จุดแรก คือ เพื่อเป็นที่ระลึกถึง LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO (ลัมโบร์กินี เซสโต เอเลเมนโต) ที่เป็นรถสปอร์ทผลิตจำนวนจำกัดเพียง 10 คัน ซึ่งอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีส ในฝรั่งเศส เมื่อเดือนตุลาคม 2010 และบรรดาผู้คนในวงการยกย่องเชิดชูว่าเป็นผลงานระดับ MASTERPIECE (มาสเตอร์พีศ) ของค่าย “กระทิงดุ” อีกจุด คือ เพื่อแสดงให้ปรากฏว่า จะสามารถพลิกแพลง และใช้ประโยชน์สูงสุดจากพแลทฟอร์มที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะเพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องยนต์ วี 12 สูบ ได้อย่างไร ?
โครงตัวถัง และเปลือกตัวถังเคลือบสีแดง ROSSO EFESTO ของรถคูเป กับโครงตัวถัง และเปลือกตัวถังเคลือบสีเทา GRIGIO TITANS ของรถเปิดประทุน ล้วนทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์มวลเบาแต่แข็งแรง ตัวถังภายนอกที่ดูโดดเด่นสะดุดตา และหาตัวเทียบได้ยาก มีรายละเอียดหลายจุดที่ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจ และมีสไตล์เดียวกันกับรถหลายๆ รุ่นในอดีต ตัวอย่างเช่น ปีกท้ายขนาดใหญ่เหมือนรถ LAMBORGHINI SESTO ELEMENTO ส่วนหน้าของตัวรถได้แบบจากรถ LAMBORGHINI REVENTON (ลัมโบร์กินี เรเวนตัน) และ LAMBORGHINI VENENO (ลัมโบร์กินี เวเนโน) ช่องดักลมหน้าสไตล์เดียวกันกับรถ LAMBORGHINI ESSENZA SCV12 (ลัมโบร์กินี เอสเซนซา เอสซีวี 12)
ภายในห้องโดยสารที่นั่งได้เพียง 2 คน ออกแบบด้วยเส้นสายที่ราบเรียบ แผงหน้าปัดอุปกรณ์ออกแบบให้เป็น MINIMALIST DASHBOARD คือ มีแต่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น สิ่งตกแต่ง และวัสดุบุ วัสดุหุ้มต่างๆ ใช้สีที่สอดรับกับสีตัวถังภายนอก
เป็นรถบังคับเลี้ยวทุกล้อ ที่ติดตั้งอุปกรณ์การขับเหมือนรถซึ่งเป็นที่มา ไม่มีการเสริมแต่งใดๆ คือ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 48 วาล์ว 60 องศา ความจุ 6,498 ซีซี วางเครื่องท้ายตามยาว ให้กำลังสูงสุด 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตร/73.5 กก.-ม. ที่ 6,750 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า คู่หลัง ก็เป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ISR เหมือนรถซึ่งเป็นที่มา
ค่าย “กระทิงดุ” ไม่ได้ระบุตัวเลขความเร็ว แต่นิตยสารรถยนต์รายสัปดาห์ชั้นนำฉบับหนึ่งของยุโรป คือ AUTOCAR กะเก็งว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. คงจะทำได้ในเวลาแค่ 2.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดน่าจะอยู่ที่ระดับ 356 กม./ชม.
LAMBORGHINI INVENCIBLE
รถสปอร์ทคูเประดับ “ซูเพอร์คาร์” ขับเคลื่อนทุกล้อ/บังคับเลี้ยวทุกล้อ
ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1 คัน (ONE-OFF CAR)
เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6,498 ซีซี 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า
วางเครื่องท้ายตามยาว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ISR
0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม. (คาดหมาย)
LAMBORGHINI AUTENTICA
รถสปอร์ทโรดสเตอร์ “ซูเพอร์คาร์” ขับเคลื่อนทุกล้อ/บังคับเลี้ยวทุกล้อ
ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1 คัน (ONE-OFF CAR)
เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6,498 ซีซี 574 กิโลวัตต์/780 แรงม้า
วางเครื่องท้ายตามยาว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ISR
0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม.
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2566
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/445478