ระเบียงรถใหม่
LAMBORGHINI REVUELTO รถสปอร์ทตรากระทิง ติดตั้งระบบขับไฮบริดชนิดต้องเสียบ
เนื้อหาที่นำมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นเรื่องราวของรถใหม่ ค่าตัวแพง รวม 4 รุ่น 4 โมเดล เป็นรถสุดหรูที่หากมีใครนำเข้ามาซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย (อย่าลืมตัว ย) ในบ้านเรา และกำหนดค่าตัวเป็นเงินบาท รับรองว่าต้องใช้ตัวเลขไม่น้อยกว่า 8 หลัก เป็นรถ 3 สัญชาติ คือ รถอิตาลี รถอังกฤษ กับรถเยอรมนี มีทั้งรถสปอร์ทระดับ “ซูเพอร์คาร์” รถสปอร์ทเปิดประทุน รถเก๋งซีดานตัวถังยาวเกือบ 5 เมตรครึ่ง และรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
เริ่มกันที่รถสปอร์ท “กระทิงดุ” ติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI REVUELTO (ลัมโบร์กินี เรบูเอลโต) ซึ่งก็เหมือนรถสปอร์ทโมเดลอื่นๆ ของค่ายนี้ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ที่ตั้งชื่อรุ่นตามชื่อวัวกระทิงอันมีชื่อเสียงของสเปน เฉพาะรถโมเดลล่าสุดนี้ เป็นวัวกร ะทิงนักสู้ที่โด่งดังมากเมื่อปี 1880
เป็นรถที่ค่าย “กระทิงดุ” ซึ่งประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายรถสปอร์ทระดับ “ซูเพอร์คาร์” มาตั้งแต่ปี 1963 เพิ่งเปิดตัวแบบออนไลน์เมื่อวันพุธที่ 29 มีนาคม 2023 และกำลังจะบรรจุเข้าสู่สายการผลิตซึ่งอยู่ในเมืองมะกะโรนี แทนที่รถรุ่นเดิม คือ LAMBORGHINI AVENTADOR (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์) ซึ่งอยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 1 ทศวรรษ คือ ตั้งแต่ปี 2011 และขายทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 12,000 คัน ทั้งรถคูเปหลังคาแข็ง/ประตูขากรรไกรซึ่งติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR COUPE (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ คูเป) และรถเปิดประทุน/ประตูขากรรไกรซึ่งติดป้ายชื่อ LAMBORGHINI AVENTADOR ROADSTER (ลัมโบร์กินี อเวนตาโดร์ โรดสเตอร์)
นับเป็นรถที่ทรงความสำคัญเป็นอย่างมาก รวมทั้งเป็นรถที่เปรียบเทียบได้ว่า เป็นประตูบานใหญ่ที่เปิดทางให้ค่ายนี้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของรถพลังไฟฟ้าได้อย่างสง่าผ่าเผย เหมือนคำพังเพยที่ชอบพูดว่า มาช้าดีกว่าไม่มา เพราะนี่คือ รถติดตั้งระบบขับ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี แบบแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน 60 ปีของค่าย “กระทิงดุ”
ตัวถัง 2 ประตู 2 ที่นั่ง ซึ่งวัดได้ยาว 4.947 ม. กว้าง 2.033 ม. และสูง 1.160 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.779 ม. มีช่วงล้อหน้า/ล้อหลัง 1.720/1.701 ม. มีน้ำหนักรถเปล่า 1,772 กก. และส่งน้ำหนักลงสู่ล้อในอัตรา หน้า 44/หลัง 56 เป็นผลงานรังสรรค์ของ MITJA BORKERT (มิทจา โบร์เคิร์ท) นักออกแบบชาวเยอรมัน วัยครึ่งศตวรรษ ที่รับตำแหน่งนายใหญ่ด้านการออกแบบของค่ายนี้มาตั้งแต่ปี 2016 ตัวถังภายนอกซึ่งเห็นที่ไหนก็รู้กันว่าเป็นรถสปอร์ท “กระทิงดุ” มีรายละเอียดอยู่มากมายที่วิจารณ์กันในยุโรป ว่าเหมือนกับนำสิ่งดีๆ ในรถรุ่นเก่าๆ มารวมกันไว้ในรถรุ่นใหม่ แต่ก็มีอยู่หลายจุดที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ไฟแอลดีขนาดเล็กที่ซ่อนตัวจนมองแทบไม่เห็น กับดวงโคมไฟหน้ารูปตัว Y สำหรับการวิ่งกลางวัน
เป็นตัวถังซึ่งเกือบทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ยกเว้นเพียงบางชิ้น เช่น โครงสร้างกันกระแทกส่วนหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และวัสดุผสม (ครั้งแรกในโลกที่ใช้กับ ROAD CAR หรือรถที่วิ่งได้ตามท้องถนนอย่างถูกกฎหมาย) ประตูข้างซึ่งเปิด/ปิดแบบขากรรไกรทำจากอลูมิเนียม และกันชนหน้า/กันชนหลัง ทำจาก THERMOPLASTIC (เทอร์โมพลาสติค) กล่าวโดยสรุป เป็นตัวถังที่มี TORSIONAL STIFFNESS (ทอร์ชันแนล สติฟฟ์เนสส์) หรือค่าความแข็งเกร็งต่อแรงบิด สูงกว่าตัวถังของรถรุ่นเดิมถึงร้อยละ 25 แต่น้ำหนักเบากว่า ส่วนห้องโดยสารก็ดูไฮเทค และให้ความรู้สึกว่ากว้างขวางนั่งสบายกว่ารถรุ่นก่อนๆ
ส่วนระบบขับไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กที่ใช้ในรถรุ่นนี้ เป็นระบบที่เพิ่งออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่และตั้งรหัสชื่อ0ว่า LB744 มีโครงสร้างและลักษณะการทำงานไม่เหมือนกับรถไฮบริดแบบใดๆ ที่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อน เป็นระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินหายใจอากาศธรรมดา วี 12 สูบ 6,498.5 ซีซี ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ชุด ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ และแบทเตอรี LITHIUM-ION (ลิเธียม-ไอออน) ขนาดความจุ 3.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ได้กำลังรวมสูงสุด 746 กิโลวัตต์/1,015 แรงม้า คือ ทรงพลังกว่ารถทุกรุ่น ทุกแบบที่ค่ายนี้เคยทำทั้งในอดีตและปัจจุบัน
เครื่องยนต์ วี 12 สูบ ที่ว่านี้ เป็นเครื่องวางกลางลำที่เพิ่งออกแบบขึ้นใหม่ (รหัสเครื่องยนต์ L545) มีน้ำหนักตัวเพียง 218 กก. ให้กำลังสูงสุด 607 กิโลวัตต์/825 แรงม้า ที่ 9,250 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 725 นิวทัน-เมตร/74.0 กก.-ม. จุดสำคัญและน่าทึ่งมาก คือ มี SPECIFIC POWER (สเปซิฟิค เพาเวอร์) หรือตัวเลขกำลังจำเพาะ ที่สูงถึง 127 แรงม้า/ลิตร คือ สูงกว่าเครื่องยนต์ วี 12 สูบ แบบใดๆ ในประวัติศาสตร์ของค่ายนี้
มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ เป็นมอเตอร์ขนาด 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า ซึ่ง 2 ชุด ใช้ขับล้อคู่หน้า และอีก 1 ชุด รวมอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ ส่วนแบทเตอรี ซึ่งยาว 1.550 ม. กว้าง 0.301 ม. สูง 0.240 ม.และติดตั้งอยู่ในอุโมงค์กลาง ก็เป็นแบทเตอรีซึ่งให้กำลังจำเพาะสูง (4,500 วัตต์/กก.) สามารถชาร์จไฟจากภายนอกโดยใช้เวลา 30 นาที กับชาร์จภายในโดยตรงด้วยเครื่องยนต์และระบบห้ามล้อโดยใช้เวลาเพียง 6 นาที เมื่อชาร์จไฟเต็มรถจะวิ่ง (ขับล้อหน้า) ด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกลประมาณ 10 กก.
กลไกอื่นๆ ประกอบด้วย ระบบรองรับแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นทั้งหน้าและหลัง พวงมาลัยผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า ห้ามล้อหน้าจาน 410x38 มม./หลังจาน 390x32 มม. ล้อหน้าขนาด 20 นิ้ว/ล้อหลังขนาด 21 นิ้ว ใช้ยางซึ่งวิ่งต่อไปได้แม้ยางรั่ว คือ ยาง POTENZA SPORT RUNFLAT ขนาด ล้อหน้า 265/35 ZR20 ล้อหลัง 345/30 ZR21
ตัวเลขความเร็วเห็นแล้วน้ำตาซึมน้ำลายไหล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 2.5 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใช้เวลาไม่ถึง 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุดไม่ระบุตัวเลขชัดเจน บอกแต่เพียงว่า สูงกว่า 350 กม./ชม.
ขณะบอกเล่าเรื่องราวอยู่นี้ ซึ่งเป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ยังไม่การยืนยันค่าตัวที่ชัดเจน แต่เชื่อได้เลยว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 400,000 ยูโร หรือประมาณ 15.0 ล้านบาทไทย ซึ่งเป็นค่าตัวของรถรุ่นก่อน จะเริ่มการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีกระต่าย และเริ่มการส่งมอบรถในไตรมาสสุดท้าย ที่เป็นเรื่องดีและน่ายินดีของค่าย “กระทิงดุ” ก็คือ มีการยืนยันว่า รถที่จะผลิตในช่วง 2 ปีแรก มีผู้สั่งซื้อไปหมดแล้ว
LAMBORGHINI REVUELTO
รถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ ขับทุกล้อด้วยระบบไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ
มิติตัวถัง 4.947x2.033x1.160 ม. ห้องโดยสาร 2 ที่นั่ง น้ำหนักรถเปล่า 1,772 กก.
เครื่องเบนซิน วี 12 สูบ 6,498.5 ซีซี+มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ชุด+เกียร์คลัทช์คู่ 8 จังหวะ
กำลังรวมสูงสุด 746 กิโลวัตต์/1015 แรงม้า (เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด สูงกว่า 350 กม./ชม.
เรื่องโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2566
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/452583