พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ฟอร์มูลา : คาดว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้จะเป็นอย่างไร ? พงษ์ศักดิ์ : อุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกต่ำกว่าปีที่แล้ว แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น เพราะมีเรื่องการท่องเที่ยวเข้ามา กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยภาพรวมคาดว่ายอดขายของปีนี้น่าจะอยู่ที่ 850,000 คัน แต่รถยนต์ไฟฟ้ายังมีสัดส่วนน้อยมาก คาดว่าจะมียอดอยู่ที่ 40,000- 50,000 คัน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งราวๆ 5 % ของตลาดรถยนต์โดยรวม ผมมองว่า การที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในระดับสูง ภาครัฐจำเป็นต้องให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง มาตรการที่ให้ในรอบถัดไป ควรจะน้อยกว่ารอบแรกเพื่อความเป็นธรรมของผู้เข้าร่วมโครงการทุกราย และเชื่อว่าหากไม่มีการสนับสนุน จะทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดระดับลงอย่างมีนัยสำคัญ รถยนต์ไฟฟ้าของ MG (เอมจี) มีจำหน่ายทั้งสิ้น 4 รุ่น ได้แก่ MG4 (เอมจี 4) MG ZS EV (เอมจี เซดเอส อีวี) MG ES (เอมจี อีเอส) และ MG MAXUS 9 (เอมจี แมกซัส 9) ซึ่งเป็นรถที่นำเข้ามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากสิ้นสุดมาตรการส่งเสริมการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ MG จะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศ และรถที่นำเข้าจะไม่ได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐ ดังนั้น จำนวนรุ่นรถที่ทำตลาดจะลดลง เหลือเพียงไม่กี่รุ่น   ฟอร์มูลา : MG วางเป้าหมายยอดขายไว้เท่าไร ? พงษ์ศักดิ์ : ปีนี้ MG ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 40,000-50,000 คัน แม้ผ่านไป 4 เดือน ยอดขายจะยังต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย แต่ช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดันยอดขายให้เติบโตได้จากการแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด ที่เปิดเผยได้คือ MG CYBERSTER (เอมจี ไซเบอร์สเตอร์) ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาในปี 2567 หรืออาจจะเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้มากถึง 700 คัน   ฟอร์มูลา : การผลักดันยอดขาย วางกลยุทธ์ไว้อย่างไร ? พงษ์ศักดิ์ : เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้พโรโมชันในการผลักดันยอดขาย แต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการอนุมัติสินเชื่อ โดยพยายามคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพมากขึ้น   ฟอร์มูลา : มองเรื่องการสร้างบแรนด์ไว้อย่างไร ? พงษ์ศักดิ์ : เน้นการนำรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยที่ผ่านมาได้แนะนำ MAXUS 9 ถือว่าเป็นโมเดลการสร้างบแรนด์ นอกจากนี้เป็นเรื่องของ ดีเลอร์ที่จะต้องปรับปรุงการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า ทำให้บแรนด์แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพทั้งด้านการขาย และการบริการที่ดี สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า   ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีดีเลอร์กี่แห่ง ? พงษ์ศักดิ์ : ขณะนี้มีอยู่มากกว่า 150 แห่ง แต่ก็อาจเพิ่ม หรือลดตามเศรษฐกิจ MG มีควมเข้มงวดเรื่องมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังมีการขยายสถานีชาร์จในส่วนของดีเลอร์ให้มากยิ่งขึ้น ขณะนี้มีเกือบ 100 แห่ง และยังมีการขยายเพิ่มในส่วนของสถานีบริการน้ำมันบางจาก ที่คาดว่าปีนี้จะขยายครอบคลุม 50 แห่ง   ฟอร์มูลา : โรงงานแบทเตอรีจะพร้อมดำเนินการเมื่อไร ? พงษ์ศักดิ์ : MG ลงทุนมูลค่า 500 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานพัฒนาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ โดยมีพื้นที่สำหรับโรงงานแบทเตอรี ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี สำหรับผลิตแบทเตอรีเซลล์แพค เพื่อรองรับแผนฮับ ผลิต และประกอบรถยนต์ไฟฟ้า MG ในประเทศไทย ซึ่งในปี 2567 ต้องเริ่มผลิตเพื่อชดเชยกับการนำเข้ามาขายก่อน ซึ่งถ้าไม่ทันปี 2567 ก็มีเงื่อนไขผลิตชดเชยในอัตรา 1:1.5 ดังนั้น จึงต้องรีบดำเนินการ โรงงานแบทเตอรีของ MG จะเป็นโรงงานประกอบ และบรรจุ ไม่ใช่โรงงานผลิต เนื่องจากการผลิตตัวเซลล์จะต้องใช้งบประมาณลงทุนสูงมาก และต้องมีเทคโนโลยีทันสมัย แต่โรงงานแห่งนี้แค่บรรจุเซลล์แพค ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมปีนี้