สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
VOLVO (โวลโว) บแรนด์รถหรูจากสวีเดน เดินเกมสู้ตลาดรถยนต์ไทย ด้วยเจตนารมณ์ชัดเจนในการมอบอิสระให้แก่ผู้ใช้ตามแนวคิด FOR LIFE. TO GIVE PEOPLE FREEDOM TO MOVE IN A PERSONAL. SUSTANABLE AND SAFE WAY. “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ฟอร์มูลา : คุณมองว่าสถานการณ์รถยนต์ในปี 2567 เป็นอย่างไร ?
คริส : ปีนี้ตลาดรถยนต์ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นรายใหญ่ จะเห็นว่าสัดส่วนยอดขายของตลาดรวมลดลงไป 25 % ในขณะที่มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเข้ามาเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อตลาดรถยนต์โดยรวม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความไม่แน่นอน และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของธุรกิจปัจจุบัน และแน่นอนว่า VOLVO ก็ไม่สามารถควบคุมองค์ประกอบเหล่านี้ได้
ดังนั้น เพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ธุรกิจ VOLVO จึงจำเป็นต้องปรับให้รวดเร็ว มีความยืดหยุ่น เพื่อปรับตัวตามตลาด ปรับตัวตามสิ่งที่เกิดขึ้น นับเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นองค์ประกอบในการเผชิญกับสภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่างปัจจุบัน
ฟอร์มูลา : VOLVO ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในประเทศไทย ?
คริส : บแรนด์ VOLVO อยู่คู่กับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกมายาวนานกว่า 97 ปี สำหรับในประเทศไทย ปีนี้เป็นปีที่ 51 ที่ วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ดำเนินกิจการในประเทศ การที่สามารถอยู่มานานขนาดนี้ได้ นับเป็นความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ตลาดโลก และในประเทศไทย
ฟอร์มูลา : คุณวางนโยบาย และทิศทางการตลาดไว้อย่างไรบ้าง ?
คริส : ในการบริหารธุรกิจ หากพบอุปสรรคที่อยู่นอกเหนือการควบคุม สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้ คือ การปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายอย่างชัดเจน และใช้เป้าหมายนั้นเป็นเครื่องมือช่วยนำทาง องค์กรของเราเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัว พวกเราคิด, ปรับตัว และมีการตัดสินใจในทิศทางเดียวกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถจัดการทรัพยากรต่างๆ ที่เรามีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นอกจากนี้ เป้าหมายยังเป็นเครื่องช่วยนำทางว่าสิ่งใดจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ และสิ่งใดที่เราควรหลีกเลี่ยง ซึ่งบริษัทของเราก็ได้พิสูจน์แล้วจากหลากหลายสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า เราสามารถจัดการกับความท้าทายได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ธุรกิจไม่ใช่เกมของความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเกมของการสร้างความก้าวหน้า ซึ่ง วอลโว่ คาร์ (ประเทสไทย)ฯ กำลังก้าวหน้า โดยความก้าวหน้าของเราแสดงออกผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทักษะของทีมงาน และที่สำคัญ คือ ผ่านผลิตภัณฑ์ นั่นก็คือ รถยนต์ VOLVO
ฟอร์มูลา : คุณมีแผนงานอย่างไร ในการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ?
คริส : VOLVO คือ บแรนด์ที่มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนเสมอมาในการมอบอิสระให้ผู้ใช้รถยนต์ VOLVO ทั้งในแง่ของการทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ยั่งยืนขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้น ตามคำกล่าวของบแรนด์ที่ว่า FOR LIFE. TO GIVE PEOPLE FREEDOM TO MOVE IN A PERSONAL.SUSTAINABLE AND SAFE WAY. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ VOLVO มุ่งพัฒนามาตลอดระยะเวลาเกือบ 100 ปี เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่ง VOLVO ยังคงมุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงมากอย่างในปัจจุบัน ผู้บริโภคต่างมีตัวเลือกมากมาย ว่าจะซื้ออะไร และซื้อที่ไหน อย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่หันมาเลือกซื้อสินค้าจากบแรนด์ที่มีค่านิยมตรงกับความเชื่อของตนเอง ปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อ VOLVO เพราะเพียงแค่ตัวรถเท่านั้น แต่ผู้บริโภคยังซื้อในตัวตนของบแรนด์ VOLVO และสิ่งที่ VOLVO ยึดมั่นด้วย
นอกจากนี้ วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ยังทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับตัวแทนจำหน่ายของเรา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภค เพื่อ เชี่อมโยงให้ลูกค้าได้รับความประทับใจในการบริการ ทั้งเรื่องการขาย และบริการ โดยขณะนี้ VOLVO มีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยลูกค้าสามารถเข้าไปที่เวบไซท์ https://www.volvocars.com/th-th/ เพื่อซื้อรถ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล จองนัดหมายเพื่อรับบริการ ผ่านช่องทางต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น LINE, FACEBOOK รวมถึง CALL CENTER เพื่อให้การบริการที่สะดวก และรวดเร็วขึ้น
ในด้านผลิตภัณฑ์ VOLVO มีไลน์อัพที่สามารถตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั้งผู้ที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า หรืออาจจะยังต้องการทางเลือกอย่างรถ PLUG-IN HYBRID
ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขัน ?
คริส : เป้าหมายของเรา คือ การเข้าถึงลูกค้าในทุกที่ และทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางช่องดิจิทอล ที่ตัวแทนจำหน่าย หรือที่ VOLVO STUDIO ที่ THE EMSPHERE และ ICONSIAM เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าแบบ OMNICHANNEL หรือการตลาดที่เชื่อมโยงการสื่อสารในแต่ละ พแลทฟอร์มเข้าด้วยกัน เพื่อประสานให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ต่อบแรนด์ได้อย่างเรียบเนียน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบแรนด์กับลูกค้า
นอกจากนี้ VOLVO ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง และแตกต่างของกลุ่มผู้บริโภค เพื่อให้แน่ใจว่า ได้เสนอทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับลูกค้าทุกคน ซึ่งผลการดำเนินการของเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ค่านิยมของบแรนด์ VOLVO มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัย ความยั่งยืน เทคโนโลยีแบบ HUMAN-CENTRIC และการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ
ฟอร์มูลา : กิจกรรมส่งเสริมความแข็งแกร่งของ VOLVO จะเป็น รูปแบบใด ?
คริส : ด้วยประวัติการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นความปลอดภัยมานานเกือบ 100 ปี ความปลอดภัยในชีวิตของผู้คน คือ สิ่งที่ VOLVO คำนึงถึงเป็นอันดับแรกในทุกๆ สิ่งที่เราทำ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์แก่ลูกค้า และแม้จะอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 5 ทศวรรษแล้ว เราก็ยังคงมุ่งมั่นสร้างบแรนด์ในเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง นั่นคือ การสร้างการรับรู้ของบแรนด์ โดยใช้งบการตลาด 70 % ในออนไลน์ และออฟไลน์
การเสริมสร้างการรับรู้บแรนด์ในฐานะรถยนต์ครอบครัว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มพรีเมียม ด้วยจุดขายสำคัญ คือ ความเป็นรถครอบครัว และรถที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง
การนำเสนอผลิตภัณฑ์เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ GEN Z โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคเพื่อพัฒนาแคมเปญ เช่น แคมเปญสำหรับ EX30 (อีเอกซ์ 30) เพื่อรักษาการรับรู้ และความสนใจอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดตัวในเดือนกันยายน 2023
นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ VOLVO EC40 & EX40 FOR EVERY YOU ที่มีธีมหลักในการเฉลิมฉลองความเป็นตัวของตัวเอง และเสนอประสบการณ์แบบ OMNICHANNEL ที่ผู้บริโภคสามารถโต้ตอบ และทดลองสัมผัสประสบการณ์ความเป็นบแรนด์ VOLVO ได้ที่ในโชว์รูม VOLVO STUDIO หรือการจองผ่าน LINE เพียงคลิกเดียว
ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด VOLVO จึงปรับทิศทางเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ?
คริส : วอลโว่ คาร์ ยังเชื่อมั่นว่า รถยนต์ไฟฟ้า คือ อนาคตของอุตสาหกรรม เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในอนาคต โดยมีแผนการลงทุน และแผนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ที่วางไว้อย่างชัดเจนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าว
เราวางแผนสร้างไลน์ผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าให้ครบทุกรุ่นภายในปี พศ. 2573 เพื่อรองรับผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้รถยนยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแผนการดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทก้าวสู่ความเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มตัวตามที่วางแผนไว้ ในเวลาที่ตลาดมีความพร้อม
กรอบระยะเวลาที่เรากำหนดในการเป็นผู้ผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้านั้น อาจจะมีปัจจัยภายนอกที่เราไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้น เราจึงปรับเปลี่ยนแผน โดยยังคงมีการผลิตรถกลุ่มพลัก-อินไฮบริด ควบคู่กับรถยนรต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และความพร้อมของตลาด
ความมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าของเรา ถูกถ่ายทอดผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เป้าหมายในการรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมรถไฟฟ้ายังคงชัดเจน และเรายังคงตั้งเป้าที่จะเป็นบริษัทที่มีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พศ. 2583 เส้นทางการเปลี่ยนสู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบนั้นมีความซับซ้อน เช่นเดียวกับความพร้อมของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน การประยุกต์เพื่อให้ตรงกับสถานการณ์ และการมีความยืดหยุ่น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในธุรกิจ ควบคู่ไปกับการมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนทางสังคม และสิ่งแวดล้อม