ปิดฉากการต้อนรับนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และคณะรัฐบาลชุดใหม่ ด้วย McLAREN 750S (แมคลาเรน 750 เอส) ผลงานใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์เมืองผู้ดี ซึ่งก่อร่างสร้างตัวจากสนามแข่งรถฟอร์มูลา-1 ชิงแชมพ์โลก ก่อนผันตัวมาเอาดีและทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ จากการผลิตรถสปอร์ท เพื่อจำหน่ายให้แก่คนรักรถกระเป๋าหนัก ที่เงินถึงและต้องใจถึงด้วย
เป็นโมเดลล่าสุดของกลุ่มรถสปอร์ท 2 ที่นั่ง ที่ค่าย McLAREN (แมคลาเรน) ตั้งชื่อว่า ULTIMATE-SERIES (อัลทิเมท-ซีรีส์) ก่อนการปรากฏตัวของรถรุ่นใหม่นี้ กลุ่มรถดังกล่าวประกอบด้วยรถรวม 7 โมเดล คือ McLAREN 600LT (รถคูเป 441 กิโลวัตต์/600 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 328 กม./ชม.) McLAREN 600LT SPIDER (รถเปิดประทุน 441 กิโลวัตต์/600 แรงม้า 324 กม./ชม.) McLAREN 620R (รถคูเป 456 กิโลวัตต์/620 แรงม้า 322 กม./ชม.) McLAREN 675LT (รถคูเป 496 กิโลวัตต์/675 แรงม้า) McLAREN 675LT SPIDER (รถเปิดประทุน 496 กิโลวัตต์/675 แรงม้า 330 กม./ชม.) McLAREN 720S (รถคูเป 529 กิโลวัตต์/720 แรงม้า 341 กม./ชม.) และ McLAREN 720S SPIDER (รถเปิดประทุน 529 กิโลวัตต์/720 แรงม้า 341 กม./ชม.)
McLAREN 750S (แมคลาเรน 750 เอส) ที่ว่านี้ เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธที่ 26 เมษายน 2023 และเริ่มเปิดรับการสั่งจองในวันเดียวกัน ส่วนการส่งมอบรถจะเริ่มกระทำในเดือนกันยายนปีเดียวกัน เป็นรถที่บรรจุเข้าสู่สายการผลิต แทนที่รถคูเป McLAREN 720S (แมคลาเรน 720 เอส) กับรถเปิดประทุน McLAREN 720S SPIDER (แมคลาเรน 720 เอส สไปเดอร์) ที่เริ่มออกโชว์รูมเมื่อปี 2017 และเป็นรถขายดีที่สุดของค่ายนี้ ในวันเปิดตัวมีคำประกาศยืนยันด้วยว่า NEWS 750S IS THE LIGHTEST AND MOST POWERFUL SERIES-PRODUCTION MCLAREN หรือ “750 เอส รุ่นใหม่นี้ คือ รถ McLAREN ผลิตจำหน่ายในลักษณะซีรีส์ ที่เบาที่สุดและทรงพลังที่สุด”
เช่นเดียวกับรถรุ่นเดิมที่มาแทนที่ รถรุ่นใหม่นี้มีให้เลือก 2 แบบ คือ รถ 2 ประตูคูเป 2 ที่นั่ง ประตูปีกนก ซึ่งติดป้ายชื่อ McLAREN 750 S (แมคลาเรน 750 เอส) กับรถ 2 ประตูเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ประตูปีกนก ซึ่งติดป้ายชื่อ McLAREN 750S SPIDER (แมคลาเรน 750 เอส สไปเดอร์) ทั้งคู่เป็นรถเบาสุดๆ ดังที่กล่าวข้างต้น เพราะใช้วิธีการมากมายเพื่อลดน้ำหนักตัว เช่น กะทะล้ออัลลอยและคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนัก 13.8 กก. เก้าอี้ที่นั่งแบบรถแข่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยลดน้ำหนักได้ถึง 17.5 กก. ฯลฯ ผลลัพธ์ คือ รถคูเปมีน้ำหนักรถเปล่าแค่ 1,277 กก. และมีน้ำหนักตัวพร้อมขับ 1,389 กก. เมื่อวัดตามมาตรฐาน DIN ของเยอรมนี คือ เบากว่ารถรุ่นเดิมถึง 30 กก. ส่วนรถเปิดประทุนหนักขึ้นนิดหน่อยเป็น 1,326 กก. และ 1,438 กก.
ไม่อาจกล่าวได้ว่า เป็นรถรุ่นใหม่แท้ๆ ที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด และน่าจะใกล้เคียงกว่าหากบอกว่า เป็นรถรุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดจากรถรุ่นเดิม และมีสิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมประมาณร้อยละ 30 สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมนี้ มีทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวถังทั้งภายนอกภายในซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยสายตา และส่วนที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์กลไกซึ่งก็เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกันเมื่ออ่าน SPECIFICATION หรือข้อมูลจำเพาะ
มีขนาดตัวถังเท่ากันในทุกมิติ คือ ยาว 4.569 ม. เท่ากัน กว้าง 1.930 ม. เท่ากัน สูง 1.196 ม. เท่ากัน ช่วงฐานล้อก็ยาว 2.670 ม. เท่ากัน ที่ต่างกันก็คือน้ำหนักตัวดังที่กล่าวแล้วข้างต้น ที่สมควรบอกกล่าวกันด้วยก็คือ รถคูเปมีที่เก็บของตรงหน้ารถซึ่งจุ 150 ลิตร กับตรงท้ายรถซึ่งจุ 210 ลิตร ส่วนรถเปิดประทุน ที่เก็บของตรงหน้ารถจุ 150 ลิตรเหมือนกัน แต่ตรงท้ายรถมีเพียง 58 ลิตร เพราะต้องเสียพื้นที่ในการเก็บประทุนหลังคา ประทุนหลังคาที่ว่านี้เป็นประทุนแบบแข็ง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า RHT (RETRACTABLE HARD TOP) การเปิดและปิดประทุนกระทำได้โดยการกดปุ่มขณะรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. การเปิดประทุนแต่ละครั้งใช้เวลาไม่ถึง 11 วินาที เป็นประทุนหลังคาที่ออกแบบได้ดี มีส่วนที่เป็นช่องแสงอยู่มาก ทำให้ห้องโดยสารดูปลอดโปร่งแม้ในยามที่ปิดประทุน
ทั้งรถคูเป และรถเปิดประทุน ติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกับรถรุ่นเดิม คือ เครื่องทวินเทอร์โบเบนซิน DOHC วี 8 สูบ 90 องศา ความจุ 3,994 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ M840T) แต่ปรับแต่งใหม่จนกำลังสูงสุดเพิ่มจาก 529 กิโลวัตต์/720 แรงม้า เป็น 552 กิโลวัตต์/750 แรงม้า คือ เพิ่มขึ้น 22 กิโลวัตต์/30 แรงม้า หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เป็น LONGITUDINAL MID-ENGINE หรือเครื่องยนต์วางกลางลำตามยาว ที่สามารถมองเห็นได้ขณะนั่งอยู่ในรถ เพราะมีส่วนหนึ่งของชั้นเก็บของท้ายรถที่ทำเป็นช่องกระจก 2 ชั้น สามารถมองทะลุยังส่วนบนของเครื่องยนต์ได้ ระบบเกียร์เพื่อส่งทอดกำลังสู่ล้อคู่หลังยังเหมือนเดิม คือ เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ SSG (SEQUENTIAL SHIFT GEARBOX) ส่วนโหมดการขับมีให้เลือก 3 แบบ คือ COMFORT-SPORT-TRACK
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทั้งรถคูเปและรถเปิดประทุนทำได้ในเวลาแค่ 2.8 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. รถคูเปทำได้ใน 7.2 วินาที รถเปิดประทุน 7.3 วินาที อัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. รถคูเปทำได้ใน 19.8 วินาที รถเปิดประทุน 20.4 วินาที ความเร็วสูงสุด คือ 332 กม./ชม. เท่ากันทั้งรถคูเปและรถเปิดประทุน ในกรณีของการทำให้รถหยุด การห้ามล้อจาก 200-0 กม./ชม. ทั้งคู่ทำได้ในระยะทาง 113 ม. ส่วนการห้ามล้อจาก 100-0 กม./ชม. ทั้งคู่ก็ทำได้ในระยะทางแค่ 30.0 ม.เท่านั้นเอง
ราคาที่ซื้อขายกันในเกาะอังกฤษ ยังหาตัวเลขของผู้ผลิตไม่ได้ หากยึดตามความคาดหมายของนิตยสารรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ คือ AUTOCAR (ออโทคาร์) ก็บอกได้ว่า ค่าตัวของรถคูเปน่าจะเริ่มต้นที่ 250,000 ปอนด์อังกฤษ หรือเท่ากับประมาณ 11.3 ล้านบาทไทย คือ เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 จากรถรุ่นก่อน
McLAREN 750S
รถสปอร์ทคูเป “ซูเพอร์คาร์” วางเครื่องกลางลำ/ขับเคลื่อนล้อหลัง
มิติตัวถัง 4.569x1.930x1.196 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,277 กก.
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซิน วี 8 สูบ 3,994 ซีซี 552 กิโลวัตต์/750 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ SSG
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 332 กม./ชม.
McLAREN 750S SPIDER
รถสปอร์ทเปิดประทุน “ซูเพอร์คาร์” วางเครื่องกลางลำ/ขับเคลื่อนล้อหลัง
มิติตัวถัง 4.569x1.930x1.196 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,326 กก.
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซิน วี 8 สูบ 3,994 ซีซี 552 กิโลวัตต์/750 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ SSG
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 332 กม./ชม.