HONDA PROLOGUE (ฮอนดา พโรลอก) เอสยูวีขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ใช้โครงสร้างฐานล่างสำหรับรถ EV โดยเฉพาะที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับ GM (เจเนอรัล มอเตอร์ส) 1 ใน 3 ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา โดยใช้พแลทฟอร์มแบบ ULTIUM BATTERY ซึ่งใช้งานร่วมกับ CHEVROLET EQUINOX EV (เชฟโรเลต์ อีควินอกซ์ อีวี), BLAZER EV (บเลเซอร์ อีวี) และ SILVERADO EV (ซิลเวอร์ราโด อีวี)
HONDA PROLOGUE ออกแบบโดย HONDA DESIGN STUDIO ในเมืองลอสแองเจลิส มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า CR-V (ซีอาร์-วี) ใกล้เคียงกับ HONDA PASSPORT (ฮอนดา พาสสปอร์ท) มิติตัวรถยาว 4,877 มม. กว้าง 1,989 มม. และสูง 1,643 มม. ระยะฐานล้อ 3,094 มม. ยาวกว่า CR-V ประมาณ 8 นิ้ว ให้ความคล่องตัวในการใช้งาน การออกแบบรถ อยู่ในรูปทรงกล่อง เน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งาน กระจังด้านหน้าสไตล์รถ EV ชุดไฟหน้า และไฟด้านท้ายแบบ LED โดยด้านหน้ามีไฟตัดหมอกติดตั้งอยู่ด้านล่าง หลังคาแก้วแบบ PANORAMIC เสริมความสปอร์ ทด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3
ภายในห้องโดยสาร มีเนื้อที่ 136.9 ลบ. ฟุต การออกแบบแผงคอนโซลสไตล์เดียวกับ HONDA CIVIC (ฮอนดา ซีวิค), ACCORD (แอคคอร์ด) รวมทั้ง CR-V รุ่นใหม่ในยุคนี้ บริเวณคอนโซลกลางติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 11 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 11.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO แบบไร้สาย นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบ GOOGLE BUILT-IN เพื่อใช้บริการต่างๆ ของ GOOGLE ได้อย่างสะดวก เช่น GOOGLE MAPS และสามารถดาวน์โหลดแอพต่างๆ ผ่าน GOOGLE PLAY ประตูบานท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม รอบทิศทางจาก BOSE มาพร้อมลำโพง 12 ตัว พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังกว้างขวางถึง 714 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มพื้นที่เป็น 1,634 ลิตร นอกจากนี้ HONDA ได้ออกแบบให้มีพื้นที่จัดเก็บเพิ่มอีก 14 ลิตร โดยซ่อนอยู่ใต้พื้นห้องเก็บของด้านท้ายรถ
อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารจะแตกต่างกันใน 3 รุ่นย่อย ในรุ่นเริ่มต้น EX (อีเอกซ์) จะติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า, เบาะนั่งมาพร้อมระบบอุ่นเบาะ, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 โซน ฯลฯ ขณะที่รุ่น TOURING (ทัวริง) จะถูกเพิ่มเติมด้วยเบาะนั่งผู้ขับขี่ที่มีระบบบันทึกตำแหน่ง, เซนเซอร์กะระยะหน้า-หลัง, กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ฯลฯ ส่วนรุ่น ELITE (เอลีท) ซึ่งเป็นรุ่นทอพจะเพิ่มเติมด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง, ระบบระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า, โหมดการขับขี่แบบ SPORT ที่จะช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ คันเร่งและพวงมาลัยมีการตอบสนองที่รวดเร็วมากขึ้น มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว (2 รุ่นล่างจะติดตั้งล้อขนาด 19 นิ้ว)
ด้านระบบความปลอดภัย มีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ HONDA SENSING มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานกับรถทุกรุ่น
แบทเตอรี แบบลิเธียม-ไอออน มีความจุ 85 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ไกลสุด 483 กม./ชาร์จ รองรับการชาร์จไฟแบบ DC (กระแสตรง) ด้วยกำลังไฟสูงสุด 155 กิโลวัตต์ การชาร์จเพียงแค่ 10 นาทีจะช่วยให้รถขับขี่ต่อไปได้อีกราว 104 กม.
HONDA PROLOGUE ในรุ่น EX และ TOURING จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 33.6 กก.-ม. ส่วนในรุ่นทอพ ELITE จะเพิ่มมอเตอร์ที่ด้านหลัง เพื่อรองรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (ALL-WHEEL DRIVE) โดยให้กำลังสูงสุดรวมถึง 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 53.6 กก.-ม.
HONDA เน้นขายรุ่น PROLOGUE ในตลาดอเมริกาเหนือเป็นหลัก โดยจะเริ่มจำหน่ายในปี 2024 เป็นต้นไป ยังไม่มีแผนที่จะนำเข้ามาผลิต หรือจำหน่ายในตลาดอาเซียน ในเมืองไทยคงต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะเข้ามาจำหน่ายหรือไม่ ? ซึ่งคงต้องเหนื่อยไม่น้อยกับบรรดาคู่แข่งรถไฟฟ้าจากค่ายจีน ที่มีหลากหลายยี่ห้อในปัจจุบัน
คุณรู้หรือไม่ ?
HONDA ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะผลิตรถไฟฟ้า 100 % ให้ครบทั้งหมด 30 รุ่น ในปี 2030 โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,000,000 คัน
บทความแนะนำ