ฟื้นแน่หรือ

ไตรมาสแรกของปี ค่ายรถยนต์เริ่มแสดงอาการยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะตัวเลขยอดขายเพียงสามเดือน เพิ่มสูงถึง 40.4 % ขายกันห้าหมื่นกว่าคัน เป็นดัชนีวัดตัวหนึ่งว่า สิ้นปีนี้ควรจะมีโบนัสกันมั่งละ หลังจากใจวาบหวิวแถมด้วยเต้นระส่ำเพราะกลัวซองขาวกันมาหลายปี ขอดีใจออกนอกหน้าเอาไว้ก่อนนะครับ ยิ้มแย้มแจ่มใสอีกเรื่องกับรายงานตัวเลขผลผลิตมวลรวมของ สหรัฐ ฯ ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.7 % สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ มีผลทำให้อัตราการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 6.1 % เป็นแนวโน้มการขยายตัวที่เหนือความคาดหมาย แถมคาดหวังด้วยว่าในปี 2545 นี้ เศรษฐกิจของ สหรัฐ ฯ จะสามารถขยายตัวได้ถึง 3 % อย่างไรก็ดี ตัวเลขผลกำไรสุทธิของบริษัทใน สหรัฐ ฯ ช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ลดลงถึง 10 % นับเป็นตัวเลขที่เกือบจะต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี สะท้อนให้เห็นว่าแม้เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม แต่การลงทุนในภาคธุรกิจยังคงรีรอที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น นั่นก็คือผลกระทบที่จะเกิดกับไทยแลนด์แดนสยามของเรา แต่พี่ใหญ่อาการดี พี่ไทยก็น่าจะดีขึ้นมาหน่อยก็แล้วกันละน่า ผ่านเรื่องดีใจกันแล้ว มาเรื่องสัพเพเหระกะของเราดีกว่า ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติหน่อยนะครับ พอเริ่มเขียนภาษาต่างประเทศแล้ว ให้คันไม้คันมือ...ร้อนวิชา...อยากเขียนต่อ ยิ่ง ครม. ชุดนี้ ท่านมีแต่คนจบสูงๆ กันทั้งนั้น ลองดูนะครับว่าคำแปลของทางราชการถูกต้องเที่ยงตรงหรือเปล่า แผนแม่บทแห่งชาติ NATIONAL MASTER PLAN เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ STRATEGIC DELIVERY TARGET ข้อตกลงการให้บริการสาธารณะ PUBLIC SERVICE AGREEMENT : PSA ความสำคัญในการจัดการ DEMAND SIDE MANAGEMENT อันนี้ไม่น่าจะถูกนะครับ หน่วยงานรับผิดชอบ COMPETENT AUTHORITY : CA กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ IT POLICY FRAMEWORK ดรรชนีผลสัมฤทธิ์ทางเทคโนโลยี TECHNOLOGY ACHIEVEMENT INDEX อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ความรู้เป็นพื้นฐาน KNOWLEDGE-BASED INDUSTRIES พอได้เรื่องมั่งไหมครับ เพราะท่านเล่าเรียนกันมาสูงๆ ทั้งนั้น ทำใจเชื่อประกาศทางราชการเอาไว้ก่อนนะครับ ลำดับถัดไปเป็นความเห็นบางส่วนจากภาคธุรกิจ โดย หอการค้าไทยที่เชื่อว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะเติบโตเล็กน้อย แต่โดยรวมจะมีการกระจายงบประมาณลงสู่ท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีแนวทางในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังเป็นปัญหา NPL คาราคาซัง ทำให้ต้องรวมแบงค์เข้าด้วยกันอีก ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศที่จะมากระทบ เริ่มเรื่องเอาไว้ด้วยเศรษฐกิจ สหรัฐ ฯ แต่ก็ต้องไม่ลืมดู ญี่ปุ่น และจีน ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นเหตุใหญ่ให้เศรษฐกิจของโลกชะลอตัวลง รวมทั้งปัจจัยของความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก แหม ท่านก็พูดกว้างดีจังครับ ที่แน่ๆ คือ เป้าหมายการขายรถยนต์ในปีนี้ ท่านเชื่อว่าจะขายได้เกินสามแสนคัน ที่นี่ขอยกมือสนับสนุนเรื่องสุดท้ายครับ ยกเว้นว่าจะมีกรณีพิเศษพิสดารอะไรขึ้นมาเสียก่อน เรื่องถัดไปเกี่ยวข้องกับคนกรุงเทพ ฯ ที่ยังต้องพึ่งพาบริการรถโดยสารประจำทาง เรียกว่ารู้ไว้ก็ดี ปัจจุบัน ขสมก. เป็นหนี้ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์โดยสาร 1,912 ล้านบาท และเป็นหนี้ค่าน้ำมันกับ ปตท. 3,749 ล้านบาท บวกด้วยค่าดอกเบี้ยค้างจ่าย 403 ล้านบาท ต้องมาร้องขอกระทรวงการคลัง ให้ช่วยค้ำประกันเงินกู้ เพื่อเอาไปชำระหนี้สินเหล่านี้ แปลกดีนะฮะ เมืองสารขัณฑ์นี่ เอกชนเขาทำดีมีรายได้ก็ไปแย่งเขามาทำ ทำไปก็ขาดทุนไป แล้วก็ไปกู้เงินมาใช้หนี้เก่า ปัญหาภายในคาราคาซัง หมักหมมโชยกลิ่นออกมาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่มีใครคิดแก้ไข ปล่อยให้หมักเอาไว้อย่างนั้นแหละ แล้วก็ต้องมาตามแก้ปัญหารถตู้ปรับอากาศวิ่งทับเส้นทางรถเมล์ แปลกครับ แปลกดี เรื่องสุดท้าย มาจากที่ประชุม ครม. ท่านเห็นชอบในหลักการว่า การใช้โทรศัพท์สำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในขณะที่รถเคลื่อนที่ โดยใช้อุปกรณ์ซึ่งผู้ขับขี่ สามารถพูดหรือใช้โทรศัพท์ได้โดยไม่ต้องจับหรือถือโทรศัพท์ ภาษาราชการท่านพูดเสียยาวเชียว ภาษาชาวบ้านเขาพูดสั้นนิดเดียว แฮนด์ฟรีครับ การไม่ใช้เจ้าอุปกรณ์ที่ว่า คือถือโทรศัพท์พูดโดยตรงอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ อาจเกิดอุบัติเหตุ และอาจทำให้ผู้อื่นเป็นอันตรายหรือถึงแก่ชีวิตได้ คือ ครม. ท่านเห็นด้วยว่าให้ใช้แฮนด์ฟรีได้ แต่ก็ยังต้องร่างเอกสาร ส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อน เมืองสารขัณฑ์นี่ท่านถนัดกันนักนะฮะ ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากนี่ เหมือนเมื่อตอนจะประกาศใช้เข็มขัดนิรภัยนั่นแหละฮะ เงื้อง่าราคาแพงกันเป็นปี กว่าจะลงดาบได้ เรื่องนี้มันสำคัญสำหรับชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินอยู่เฉย ๆ อาจถูกหวยได้โดยไม่ต้องซื้อ เพราะเจ้าตัวที่ว่ามานี่แหละ ท่านก็ยังโยกโย้โยเยกับเรื่องความปลอดภัยของราษฎรของท่าน สนุกดีนะฮะ ไม่เป็นลูกหลานของท่านบ้างก็แล้วไป