มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
ในช่วงเวลาสี่ห้าวันที่คณะของเราเดินทางไปทำข่าว INTERNATIONALE AUTOMOBIL-AUSSTELLUNG
(IAA) หรือ "มหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท" ในเยอรมนี เรื่องหนึ่งที่เราพูดคุยกัน แม้ว่ายังไม่สู้จะแน่ใจนัก
ว่าเหตุการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างที่เราพูดหรือเปล่า ก็คือ อีกสองปีข้างหน้า คือในปี 2005 เราจะเดิน
ทางไปฟรังค์ฟวร์ทเป็นครั้งสุดท้าย (โดยมีข้อแม้ว่าคนใดคนหนึ่งในกลุ่มของเราต้องไม่สูญหายไปจากโลกซะ
ก่อน) แล้วสองปีหลังจากนั้น คือในปี 2007 เราคงจะต้องเดินทางไปที่เมืองอื่นๆ เพราะในปีนั้น IAA จะ
ย้ายไปจัดกันที่เมืองอื่นซึ่งไม่ใช่ฟรังค์ฟวร์ท เป็นเมืองอะไร ? ตอนนี้ยังไม่มีใครตอบได้ แม้แต่ผู้จัดงานเอง
เรื่องนี้ไม่ได้คุยหรืออำกันเล่นๆ แต่มันมีที่มาที่ไป
INTERNATIONALE AUTOMOBIL-AUSSTELLUNG ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า "งานแสดงยานยนต์นานาชาติ"
อุบัติขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1897 คือเมื่อ 106 ปีที่ผ่านมา สถานที่จัดงานครั้งนั้น คือ โรงแรม บริสตอล
(HOTEL BRISTOL) ซึ่งอยู่ในกรุงเบร์ลิน ความสำเร็จของงานครั้งดังกล่าว นำมาซึ่งงานครั้งที่ 2 ครั้งที่
3 เรื่อยมาจนถึงครั้งที่ 13 หรือสรุปอย่างสั้นๆได้ว่า ระหว่างปี 1897 จนถึงปี 1911 มีการจัดงานนี้ในกรุง
เบร์ลินเป็นประจำทุกปี บางปีมีครั้งเดียว บางปีมีสองครั้ง ก่อนที่จะหยุดไปนานถึงสิบปีเพราะเกิดสงคราม
ปี 1921 หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง IAA ก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง เป็นงานครั้งที่ 14 สถานที่จัดงานยังอยู่
ในกรุงเบร์ลินเช่นเดิม และจัดต่อเนื่องกันมาจนถึงปี 1939 เป็นครั้งที่ 29 แล้วก็ต้องหยุดไปอีกเพราะเกิด
สงครามโลกครั้งที่สอง สามปีช่วงหลังสงคราม คือ ปี 1947-1949 IAA ย้ายสถานที่จัดจากกรุงเบร์ลิน
ไปจัดกันที่เมือง ฮันโนเฟร์ (HANNOVER) พร้อมๆ กับงานแสดงสินค้านำเข้า
สองปีหลังจากนั้นคือในปี 1951 ปูมประวัติของ IAA บันทึกไว้ว่า เป็นปีแรกที่มีการจัดงานที่นครฟรังค์ฟวร์ท
โดยจัดกันในเดือนเมษายน และมีผู้เข้าชมงานสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 570,000 คน ที่น่าแปลกและยังค้นไม่
พบว่าด้วยสาเหตุอันใดก็คือ เพียงหกเดือนหลังจากนั้นคือในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ก็มีงาน IAA ขึ้นอีกครั้ง
หนึ่งที่กรุงเบร์ลิน นับเป็นงานครั้งที่ 34
หลังงานที่เบร์ลินครั้งนั้น ก็มีการตกลงกันใหม่ โดยเห็นพ้องต้องกันให้ใช้ศูนย์แสดงสินค้าของนครฟรังค์ฟวร์ท
เป็นที่จัดงานอย่างถาวร โดยจัดปีเว้นปี และเป็นเช่นนั้นจนถึงปี 1989 ก็มีการตกลงกันใหม่ เพราะเริ่มจะ
รู้สึกกันแล้วว่าสถานที่จัดงานในฟรังค์ฟวร์ทแคบเกิน โดยกำหนดให้แยกงาน IAA เป็นสองงาน คือในปี
ที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ จะเป็นงาน IAA สำหรับรถยนต์นั่ง และจัดที่ฟรังค์ฟวร์ท ส่วนปีคริสต์ศักราชที่ลงท้ายด้วยเลขคู่
เป็นงาน IAA สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ และจัดที่ฮันโนเฟร์ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจนถึงงานครั้งที่ 60 ในปีนี้
ตามข่าวที่ตีพิมพ์ในนิตยสารรถยนต์หลายๆ ฉบับของยุโรป สี่ปีข้างหน้านี้ คือในปี 2007 IAA อาจจะมีการ
เปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งในเรื่องสถานที่จัดงาน เพราะเริ่มจะมีความรู้สึกกันอีกแล้วว่า ฟรังค์ฟวร์ทแคบเกินไป
ตามข่าวที่ว่านี้ มีหลายเมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ โคโลนญ์ มิวนิค ดุสเซลดอร์ฟ และแน่นอน ที่ขาดไม่ได้
คือ ฮันโนเฟร์ เมืองสุดท้ายนี้ออกจะได้เปรียบอยู่ไม่น้อย เพราะจัดงาน IAA สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์อยู่
แล้ว แถมสถานที่จัดงานก็กว้างขวาง คือมีพื้นที่ประมาณหนึ่งล้านตารางเมตร หรือมากกว่าสามเท่าตัวของพื้น
ที่จัดงานในฟรังค์ฟวร์ท ก็คงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง จึงจะรู้ว่าย้ายหรือไม่ย้าย ? ถ้าย้าย จะย้ายไปที่ไหน ?
เดือนที่แล้ว พาเดินชมแต่ละฮอลล์ และบอกไปหมดแล้วว่าผู้ผลิตแต่ละรายมีทีเด็ดอะไรบ้าง เดือนนี้ทำตาม
สัญญา เลือกรถแนวคิดคันเจ๋งๆ มาให้ชมรวมสิบคัน มีทั้งรถยุโรปและรถญี่ปุ่น เชิญพลิกไปอ่านได้เลยครับ
เมร์เซเดส-เบนซ์ วิชัน ซีแอลเอส
MERCEDES-BENZ VISION CLS รถแนวคิด ซึ่งเป็นต้นแบบของรถ ซีดาน-คูเป ซีรีส์ใหม่ ที่คาดกันว่าค่าย
ดาวสามแฉกจะนำออกสู่ตลาดในปี 2004 เพื่อสู้กับกับรถ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-6 (BMW 6-SERIES) และ
แจกวาร์ เอกซ์เค 8 (JAGUAR XK8) ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกที่งานนี้ และเรียกความสนใจจากผู้คน
ได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่ารถสปอร์ทซูเพอร์คาร์ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอลอาร์ แมคลาเรน (MERCEDES-BENZ
SLR McLAREN) ซึ่งเป็น "ไข่แดง" ของงานนี้
ออกแบบและพัฒนาโดยขอหยิบขอยืมชิ้นส่วนหลายชิ้นจากรถ อี-คลาสส์ (E-CLASS) และตำแหน่งในตลาดจะ
แทรกอยู่ตรงกลางระหว่างรถคูเป ซีแอลเค-คลาสส์ (CLK-CLASS) และ ซีแอล-คลาสส์ (CL-CLASS)
ตัวถังซึ่งยาว 4.110 ม. กว้าง 1.850 ม. และสูง 1.390 ม. มีประตูข้างเปิดไปทางเดียวกันเหมือนรถเก๋ง
ทั่วๆไป ไม่ใช่เปิดแยกออกจากกันโดยไม่มีเสากลางตามสมัยนิยม แต่เป็นประตูที่ไม่มีกรอบ และเสาค้ำยัน
กลางถูกพรางตาจนดูเหมือนกับไม่มี
แหล่งข่าววงในยืนยันว่า รถที่ออกจำหน่าย จะมีหน้าตาและรูปทรงองค์เหมือนรถแนวคิดคันนี้ แต่จะมีราย
ละเอียดเปลี่ยนแปลงไปบ้างในหลายๆ จุด จะมีทั้งแบบขับล้อหลังและขับสี่ล้อ และจะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้
อย่างหลากหลายทั้งเครื่องเบนซินและดีเซล
เอาดี เลอ มองส์ กวัตตโร
AUDI LE MANS QUATTRO ผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นหนึ่งของค่าย "สี่ห่วง" ซึ่งปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรก
ที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถคูเปสองที่นั่งขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นต้นแบบของรถสปอร์ท
ระดับ "ซูเพอร์คาร์" ที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาด เพื่อสู้กับยอดรถซูเพอร์คาร์อย่าง แฟร์รารี เอนโซ (FERRARI
ENZO) และ โพร์เช คาร์เรรา จีที (PORSCHE CARRERA GT) ซึ่งออกจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว
ตัวถังทรงหยดน้ำตา ยาว 4.370 ม. กว้าง 1.900 ม. และสูง 1.250 ม.ทำจากอลูมิเนียมและคาร์บอน
ไฟเบอร์ จึงมีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ชิ้นส่วนหลายชิ้น รวมทั้งเครื่องยนต์ DOHC วี 10 สูบ 40 วาล์ว 4,961
ซีซี ขอหยิบขอยืมจากรถสปอร์ทในเครือข่าย คือ ลัมโบร์กินี กัลญาร์โด (LAMBORGHINI GALLARDO) แต่
เพิ่มเทอร์โบเข้าไปหนึ่งคู่ ทำให้กำลังสูงสุดเพิ่มจาก 500 เป็น 610 แรงม้า ตัวเลขความเร็วทั้งตีนต้นตีน
ปลาย เห็นแล้วหนาว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 345 กม./ชม.
ฟอร์ด วีโซส
FORD VISOS ผลงานอวดฝีมือของทีมออกแบบ ฟอร์ด ยุโรป ซึ่งมี คริส เบิร์ด (CHRIS BIRD) เป็นผู้นำ
ทีม เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ทคูเปสี่ที่นั่งขับสี่ล้อ ที่เพียบไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคก้าวล้ำนำสมัย
ตัวถังมีรายละเอียดในหลายๆ จุดโดยเฉพาะส่วนท้าย ที่เห็นแล้วชวนให้นึกถึงผลงานของ ฟอร์ด ที่เคยโด่งดัง
ในอดีต คือ ฟอร์ด คาปรี (FORD CAPRI) และไม่ต้องมองหากระจกมองข้าง เพราะไม่มี กระจกมองข้าง
ทั้งสองด้านถูกแทนที่ด้วยกล้อง ซึ่งนอกจากจะทำให้มองเห็นรถคันหลังได้สะดวกแล้ว ยังมีลักษณะการทำงาน
ที่เรียกว่า BLIND SPOT DETECTOR ซึ่งช่วยเตือนเมื่อเห็นว่าไม่ปลอดภัยที่จะแซงรถคันหน้าหรือเปลี่ยนเลน
และกล้องมองข้างที่ว่านี้จะพับตัวเข้าไปซ่อนอยู่ในตัวถัง ทันทีที่จอดรถและดับเครื่องยนต์
ห้องโดยสารติดตั้งคอมพิวเตอร์แบบแลพทอพ ซึ่งใช้ปรับการทำงานของระบบต่างๆได้มากมาย รวมทั้งปรับ
เก้าอี้ที่นั่ง ปรับความแข็งของระบบรองรับ ปรับสมดุลของห้ามล้อ และปรับการทำงานขอเครื่องยนต์
ซีตรอง เซ-แอร์เลาจ์น์
CITROEN C-AIRLOUNGE รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถยนต์นั่งระดับหรู ซึ่งเป็นต้นแบบของรถอนุกรมใหม่
คือ ซีตรอง เซซิกซ์ (CITROEN C6) ที่คาดกันว่า ค่าย "จ่าโท" จะนำออกสู่ตลาดในปี 2005 นี้
ตัวถังยาว 4.880 ม. กว้าง 1.930 ม. และสูง 1.580 ม. ออกแบบได้ลื่นลม เพราะมีค่าสัมประสิทธิ์แรง
ต้านอากาศแค่ 0.26 แต่มีหน้าตาและรูปทรงองค์เอวเหมาะจะเป็น MPV หรือ รถอเนกประสงค์ มากกว่า
เป็นรถซาลูนสี่ประตู แถมระบบการติดตั้งเก้าอี้ที่นั่งในห้องโดยสารก็ทำเหมือนรถอเนกประสงค์ คือในสภาพ
ปกติจะมีเก้าอี้ที่นั่งห้าตัว แต่เก้าอี้ตัวที่ห้าสามารถปรับให้นอนราบไปกับพื้นได้ในชั่วพริบตาด้วยการกดปุ่ม
นอกจากระบบปรับที่นั่งดังกล่าวแล้ว ห้องโดยสารของรถแนวคิดคันนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน
ในรถตลาดคันใดๆ นั่นคือ การเปลี่ยนแสงสีภายในห้องโดยสารได้ตามใจชอบ ด้วยใยแก้วนำแสงและวีดีโอ
โพรเจคเตอร์ กับระบบมัลทิมีเดียแบบไร้สายเชื่อมสัญญาณ ที่มีฟังค์ชันการทำงานหลากหลายอย่างคาดไม่ถึง
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา และบริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ