ดร. พรเทพ พรประภา

บริษัท สยามกลการ จำกัด เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจของเมืองไทยที่ก่อตั้งมากว่า 50 ปี มีธุรกิจในเครือกว่า 50 บริษัท แต่ละบริษัทอยู่ในระดับผู้นำของแต่ละแขนงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ นิสสัน/จีเอสแบทเตอรี/เครื่องปรับอากาศ ไดกิน/เครื่องดนตรี ยามาฮา รวมถึงธุรกิจอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายบริษัท โดยธุรกิจหลักของ สยามกลการ ฯส่วนใหญ่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรม ที่มีนักธุรกิจมืออาชีพอย่าง ดร. พรเทพ พรประภา เป็นผู้กุมบังเหียนและบริหารงานมากว่า 10 ปี นอกจากนี้ สยามกลการ ฯ ยังมีธุรกิจอีกสาขาหนึ่งที่เป็นที่รู้จักและถูกกล่าวขานกันมานานนอกเหนือจากธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ นั่นก็คือ สยามดนตรียามาฮาโรงเรียนดนตรีสยามกลการ สถาบันดนตรียามาฮา ซึ่งดำเนินธุรกิจมากว่า 38 ปี โดยล่าสุด ดร. พรเทพพรประภา บอสส์ใหญ่แห่งสยามกลการ ฯ หันกลับมาสู่ถนนสายดนตรีอีกครั้งเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจเครื่องดนตรี ยามาฮา และโรงเรียนดนตรีสยามกลการสถาบันดนตรียามาฮา หลังจากมุ่งทำตลาดรถยนต์ นิสสัน จนติดอันดับ 3 ในเมืองไทย "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษ ดร. พรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามนิสสันออโตโมบิล จำกัด ฟอร์มูลา : เพราะอะไรถึงหันมาสนใจธุรกิจเกี่ยวกับดนตรี ? พรเทพ : สยามดนตรียามาฮา จัดตั้งมา 38 ปี ซึ่งในอดีตผมเคยดูแลเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นธุรกิจที่การแข่งขันไม่รุนแรง เพราะว่า ยามาฮา เป็นชื่อที่รู้จักกันทั่วโลกแต่ที่หันมาสนใจในธุรกิจดนตรีเนื่องจากช่วงหลังได้โอนงานธุรกิจรถยนต์ให้กับ พรพงษ์ ดูแลและขณะเดียวกันผมคิดว่าธุรกิจการศึกษาดนตรี และโรงเรียนดนตรีนั้นเป็นธุรกิจที่ใหญ่มากประกอบกับเมืองไทยเราธุรกิจดนตรีได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วเรียกว่าปรับตัวมาแบบทันโลก มีทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นดนตรี แจซซ์ พอพ และรอค มีหมด ผมก็เลยสนใจและกลับมาดูธุรกิจดนตรีอีกครั้งหนึ่ง ฟอร์มูลา : ในส่วนของธุรกิจแบ่งสายงานปฏิบัติอย่างไร ? พรเทพ : 1. ฝ่ายพรเทพ : สถาบันดนตรี ยามาฮา มีหน้าที่ดูแลงานหลักสูตรการเรียนการสอน และตำราต่างๆรวมถึงการผลิตและฝึกอบรมครูผู้สอนและกิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอนต่างๆ 2. ฝ่ายขายสินค้าคีบอร์ด ซึ่งประกอบด้วย เพียโน อีเลคโทน คลาวิโนวา ยอดขายคิดเป็น 31.6 %มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 60-70 % 3. ฝ่ายสินค้า คอมโบ และ พีเอ ประกอบด้วย กีตาร์ เครื่องเป่ากลอง ตัวปรับแต่งสัญญาณ เครื่องขยายเสียง ลำโพง ทั้งระบบ ดิจิทอล และอนาลอก ยอดขายคิดเป็น 31.7 % มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 40 % 4. ฝ่ายขายสินค้า แบนด์ อินสตูเมนท์ประกอบด้วยเครื่องเป่า และเพอร์คัสชัน สำหรับวงดุริยางค์ ยอดขายคิดเป็น 9.1 % มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30 % 5. ฝ่ายขายสินค้า ออดิโอ หรือ โฮมเธียเตอร์เป็นเครื่องเสียงสำหรับฟังในบ้าน ยอดขายคิดเป็น 25.2 % มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25 % และ 6. ฝ่ายบริการ เป็นศูนย์ซ่อม และอะไหล่เครื่องเสียง และดนตรีทุกชนิด ฟอร์มูลา : ส่วนโรงเรียนดนตรีปีหน้าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ? พรเทพ : มีแผนที่จะขยายโรงเรียนดนตรีสยามกลการ สถาบันดนตรียามาฮา เพิ่มขึ้นอีก 10 แห่งเน้นในเขตกรุงเทพ ฯ โดยในปัจจุบันมีอยู่แล้ว 70 แห่ง ฟอร์มูลา : กิจกรรมส่งเสริมเยาวชนด้านดนตรีที่โดดเด่นที่สุดของโรงเรียนดนตรีสยามกลการสถาบันดนตรียามาฮา คืออะไร ? พรเทพ : การประกวดวงโยธวาทิตนักเรียนแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 8ถือว่าเป็นงานใหญ่สำหรับเด็กนักเรียนแต่ละโรงเรียนที่มีการฝึกฝนทักษะ การเล่นดนตรีเป็นหมู่คณะโดยในปีที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้าประกวดถึง 36 โรงเรียน ส่วนอีกงานหนึ่งคือ ยามาฮา ไทยแลนด์ มิวสิค เฟสติวอล 2004 (YAMAHA THAILAND MUSIC FESTIVAL 2004) เป็นการรวบรวมเด็กที่มีความสามารถในด้าน อีเลคโทน เพียโน กีตาร์มาแสดงความสามารถบนเวที ยามาฮา ทีเชอร์ส คอนเสิร์ท (YAMAHA TEACHERS CONCERT) เป็นผลงานการแสดงของครูสอนวิชาดนตรีที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน การประกวดวงดนตรีเยาวชน ยามาฮาลูกทุ่งคอนเทสต์ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้สนใจดนตรีลูกทุ่งจากโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ ยามาฮา ไทย เจเอซี (YAMAYA THAI JAC) เป็นการแสดงความสามารถของเด็กในด้านการแต่งเพลง และในปี 2548 จะเป็นเจ้าภาพจัดงาน เอเชีย โอเชียเนย์ โจโอซี (ASIA OCEANAY JOC) ที่มีนักเรียนจากต่างประเทศเข้าร่วม เช่น นิวซีแลนด์ออสเตรเลีย จีน เป็นต้น ยามาฮา เอเชีย บีท (YAMAHA ASIAN BEAT) เป็นการประกวดวงสตริงเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งทีประเทศไต้หวัน ฟอร์มูลาฟฟฟอฟฟอร์มูลา : เมื่อเข้ามาดูธุรกิจดนตรีเต็มตัวแล้ว คุณแบ่งเวลาสำหรับการบริหารงานอื่นๆ อย่างไร ? พรเทพ : ธุรกิจต่างๆ ที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่นั้นจะมีผู้ดูแลในแต่ละสายงานอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ปล่อยไปเลย จะมีการประชุมกันทุกเดือน ฟอร์มูลา : ทำไมคุณจึงวางมือจากธุรกิจรถยนต์ ? พรเทพ : ผมว่าธุรกิจรถยนต์แน่นแล้ว ปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 3 ของตลาดมีความมั่นคงและการบริหารก็มีคนดูแล และผมก็ไม่ได้ทิ้งยังมีการติดตามตลาดอย่างต่อเนื่องและเพื่อรักษาการเป็นผู้นำในตลาดก็ไม่ควรปล่อยให้อยู่นิ่งควรที่จะจัดกิจกรรมให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าปล่อยอาจเสียตำแหน่งการเป็นผู้นำเมื่อถึงเวลานั้นจะกลับมาสร้างใหม่ก็ค่อนข้างยาก ฟอร์มูลา : ทำไมคุณจึงมั่นใจว่าอันดับ 3 ของ นิสสัน จะไม่ตกไปกว่านี้ ? พรเทพ : ผมคิดว่าการวางแผนการตลาด และกลยุทธ์ที่วางไว้จะทำให้ นิสสัน สามารถรักษาอันดับที่ 3ในตลาดรถยนต์ในเมืองไทยต่อไปได้และมองว่าคู่แข่งในปัจจุบันไม่มีใครที่จะมาชิงตำแหน่งนี้ไปได้อย่างแน่นอน ฟอร์มูลา : ถ้าพูดเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์กับดนตรี ธุรกิจไหนทำรายได้มากกว่ากัน ? พรเทพ : ถ้าจะพูดถึงรายได้ต้องมองทั้งกลุ่ม เพราะปัจจุบันธุรกิจค่อนข้างประสบความสำเร็จรถยนต์ก็สามารถมีรายได้ต่อไป การสร้างดนตรีให้ใหญ่ขึ้นถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับสยามกลการ ฯเหมือนกับบริษัทในเครือต่างๆ ที่สามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง แต่ปีนี้จะเน้นมากคือ ดนตรีเพราะที่ผ่านมา ธุรกิจอื่นๆ ก็สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นตัวอย่าง แอร์ไดกิน เดิมอยู่ในอันดับ 4-5 ของตลาด ปีที่แล้วขึ้นมาอยู่อันดับ 2 และปีนี้คาดว่าจะอยู่ในอันดับ 2 อีกเช่นกัน ต่อมาก็คือ ลิฟท์ ฮิตาชิที่ปัจจุบันมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ส่วนแบทเตอรี จีเอสซึ่งเป็นเจ้าตลาดอยู่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 52 % ฉะนั้นจึงต้องพยายามขยายให้ใหญ่ขึ้น ชอคอับ คายาบา บริษัทก็เป็นผู้นำตลาดอยู่ นั่นคือธุรกิจที่บริษัทเป็นผู้นำอยู่ก็จะต้องรักษาให้เป็นผู้นำต่อไป สำหรับตลับลูกปืน เอนเอสเคปัจจุบันอยู่ในอันดับ 4 ของตลาด แต่เป้าหมายของบริษัทคือเป็นผู้นำ ส่วนในเรื่องของดนตรีเป็นการศึกษาที่สื่อได้และรัฐบาลชุดใหม่ก็มีนโยบายให้เด็กสนใจการเล่นกีฬาและดนตรีเพิ่มขึ้นและผมก็คิดว่ากีฬากับดนตรีเป็นสิ่งที่จะส่งเสริมเยาวชนได้ซึ่งถ้าเทียบในเซาธ์อีสต์เอเชียนั้นเมืองไทยยังล้าหลังกว่าเพื่อนบ้านมาก เช่น ประเทศอินโดนีเซียดนตรีเป็นวิชาบังคับ มาเลเซียก็หันมาสนใจดนตรีกันมากขึ้น และถ้าวันหนึ่งดนตรีเข้าไปในโรงเรียนเหมือนกับต่างประเทศ นักเรียนก็คงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข และสำคัญที่สุดที่ผมมองว่าปัจจุบันกีฬาในเมืองไทยมาแรง เพราะมีนักกีฬาตัวอย่าง อย่างเช่น ภราดรแต่ดนตรียังไม่เคยมีแชมพ์ด้านใดเลยผมคิดว่าสักวันหนึ่งจะสนับสนุนให้มีนักดนตรีคนไทยที่ทั่วโลกยอมรับ ฟอร์มูลา : นักเรียนในโรงเรียนปัจจุบันนี้มีความสามารถพอที่จะสนับสนุนให้เป็นที่ยอมรับระดับโลกหรือไม่ ? พรเทพ : ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกอยู่ เนื่องจากปัจจุบัน โรงเรียนดนตรีสยามกลการสถาบันดนตรียามาฮา กำลังอยู่ในช่วงการปรับปรุงยกระดับ ไม่ว่าจะเป็น ครู นักเรียนซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในกรุงเทพ ฯ หลายแห่งผลิตครูสอนดนตรี ซึ่งในปัจจุบันปัญหาที่พบคือนักศึกษาที่จบการศึกษาด้านดนตรีได้รับเงินเดือนน้อย จึงไม่ค่อยมีใครสนใจเรียน ทางบริษัทจึงได้มีการปรับเงินเดือนครูเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการยกระดับครู ฟอร์มูลา : ในส่วนของธุรกิจรถยนต์ คุณคิดว่าปีนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ? พรเทพ : ธุรกิจรถยนต์ในปี 2546 คงจะไม่โตเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งผมถือว่าเป็นการเติบโตที่เร็วมากแต่สำหรับปีนี้คงจะมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 500,000 กว่าคัน ฟอร์มูลา : คุณคิดว่าตลาดรถประเภทใดจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น ? พรเทพ :ตลาดรถพิคอัพก็ยังคงอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถเก๋งก็ยังคงเติบโตอยู่เหตุผลที่ตลาดเติบโตขึ้นนั้นมีผลมาจากเศรษฐกิจดีขึ้น และผู้บริโภคมีความจำเป็นเพิ่มขึ้นอย่างเช่นรถพิคอัพ มีความจำเป็นในด้านการขนส่ง การเกษตร ส่วนรถใหม่ในปีนี้ นิสสัน จะมีรุ่นใหม่ๆในตลาดอย่างแน่นอน