ชีวิตอิสระ
คาราวาน อีซูซุ ดีไอ เที่ยวไทย 4 ภาค
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดคาราวานท่องเที่ยวสำหรับลูกค้าพิคอัพ อีซูซุ ทั่วปประเทศโดยใช้ชื่อว่า "คาราวาน อีซูซุ ดีไอ เที่ยวไทย 4 ภาค" ปีที่ 2 ครั้งที่ 1 ภาคเหนือ บนเส้นทางเชียงราย-ดอยอ่างขาง ระยะทางรวมกว่า 200 กิโลเมตร โดยมีวัตถุประสงค์ให้ลูกค้า อีซูซุ ได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของประเทศไทย และได้ทดสอบสมรรถนะของรถ อีซูซุ รวมถึงฝึกทักษะการใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบใช้งานจริงเนื่องจากมีเส้นทางบางช่วงที่ต้องใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นจึงจะผ่านไปได้ ซึ่งในงานนี้ 4 WHEELS ได้มีโอกาสร่วมเดินทางไปด้วย
เช้าวันแรก
นมัสการพระแก้วมรกต
เมื่อคณะสื่อมวลชนกว่า 20 ชีวิต โดยสารเครื่องบินของสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG132 มาถึง ณ สนามบินจังหวัดเชียงราย และอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือเราได้ออกเดินทางต่อไปยังวัดพระแก้ว ริมถนนไตรรัตน์
ตามประวัติวัดนี้เป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกต องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพ ฯ ปัจจุบันชาวเชียงรายได้สร้างพระแก้วมรกตองค์ใหม่ขึ้นมาแทนซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้องค์เดิม
หลังจากที่ได้นมัสการพระแก้วมรกต เพื่อเป็นสิริมงคลและเดินชมบรรยากาศภายในวัดที่สวยงามร่มรื่นแล้ว จึงได้ออกเดินทางต่อ คราวนี้จุดหมายของเราคือพิพิธภัณฑ์อูบคำ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองเชียงราย เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเพราะเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งของที่บ่งบอกถึงความเป็นอยู่ของชนชาติและกษัตริย์ในยุคล้านนาไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ เครื่องแต่งกายในอดีตที่วิจิตรงดงาม มีอายุประมาณ 500-1,000 ปี หรือโบราณวัตถุอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น บัลลังก์กษัตริย์ของเจ้าฟ้าเมืองไตในอดีตเครื่องประดับที่ทำจากเงินนับพันชิ้น ฯลฯ ต้องใช้เวลาเดินชมเป็นชั่วโมงกว่าจะทราบข้อมูลสิ่งของภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครบทุกชิ้น
ช่วงที่สามเราไปเยี่ยมชม วัดร่องขุน ตรงกิโลเมตรที่ 816 ถนนพหลโยธินวัดนี้เป็นวัดเก่าแต่ถูกนำมาสร้างใหม่โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์แม้ว่าปัจจุบันจะยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ตัวพระอุโบสถภายนอกเสร็จไปเพียงร้อยละ 50แต่พระอุโบสถตกแต่งด้วยลวดลายสีขาวมุก รับกับกระจกสีเงินแวววาวเป็นเชิงชั้นลดหลั่นกันไปก็มีความสวยงามแปลกตามาก
เราใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงเต็มเพื่อฟังการบรรยาย แนวคิด การสร้างและตกแต่งวัดแห่งนี้จากอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ก่อนที่จะเดินทางกลับสู่ที่พักซึ่งเป็นโรงแรมในตัวเมืองจังหวัดเชียงรายนั่นเองจบการเดินทางวันแรกด้วยการร่วมรับประทานอาหารค่ำบรรยากาศสบายๆ ที่ร้านกกแก้วบริเวณริมแม่น้ำกก ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อเก็บแรงไว้สำหรับวันรุ่งขึ้น
วันที่สอง
ขับขึ้นดอย อากาศสบายๆ
7 นาฬิกาตรง สื่อมวลชนพร้อมลูกค้ารถ อีซูซุ ทยอยมาชุมนุมและลงทะเบียนกัน ณ บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช พร้อมฟังการบรรยายสรุปเส้นทาง และเทคนิคการใช้เกียร์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจากคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดงาน ก่อนที่จะออกเดินทางในรูปแบบคาราวานมุ่งหน้าสู่ดอยตุง เพื่อชมพระตำหนักสมเด็จย่า ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร
ช่วงแรกในเมืองเชียงรายรถค่อนข้างเยอะเมื่อเริ่มออกนอกเมืองแล้วจึงจัดขบวนคาราวานใหม่อีกครั้งเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึง พระตำหนักดอยตุง และมีเวลาหนึ่งชั่วโมงในการเยี่ยมชมภายในพระตำหนักสมเด็จย่า และชมสีสันความงามของต้นไม้และดอกไม้เมืองหนาว
มื้อกลางวันแวะที่ร้านอาหารคุ้มนายพล บนดอยแม่สลอง คนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนอพยพเราได้ลองอาหารที่ขึ้นชื่อคือ ขาหมู ซุบไก่ดำ ผัดเห็ดหอม รวมทั้งชิมชาที่มีรสชาติกลมกล่อมท่ามกลางอากาศเย็นสบาย
อิ่มท้องกันถ้วนหน้า ขบวนคาราวานเริ่มออกเดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านสันติคีรีที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่อึดใจเพื่อร่วมมอบอุปกรณ์การศึกษาแก่นักเรียนที่ยังขาดแคลนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอยู่อีกมาก
จากนั้นออกเดินทางต่อไปยังดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นจุดหมายที่เราจะไปพักกัน ทางขึ้นดอยลาดชันขึ้นลงสลับกับโค้งค่อนข้างแคบ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ในช่วงนี้ลูกค้า อีซูซุ จะได้สัมผัสกับเส้นทางทุรกันดารสภาพป่าที่สมบูรณ์และการขับรถขึ้นที่สูงทำให้ขบวนคาราวานของเราต้องผจญกับฝนที่ตกลงมาเป็นบางช่วง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ที่มีประสิทธิภาพสูงของรถ อีซูซุ และการติดต่อวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นทำให้เราผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ช่วง 15 กิโลเมตรก่อนถึงดอยอ่างขาง เป็นทางชันและแคบโค้งเยอะหมอกลงจัด มีดินถล่มต้องใช้ความระมัดระวังสูง แต่รถทุกคันผ่านมาได้ด้วยดี
สี่โมงครึ่งพอดีก็มาถึงที่พักของเราคือ รีสอร์ทธรรมชาติอ่างขางจุดเด่นของที่นี่คือนอกจากจะล้อมรอบไปด้วยหุบเขาและบรรยากาศร่มรื่นของบรรดาต้นไม้ป่านานาพันธุ์แล้วห้องพักที่นี่ทุกห้องไม่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศแต่อย่างใดเนื่องจากอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ในช่วงเย็นสบายตลอดทั้งปี
อาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อยลงมาพร้อมกันที่ลอบบีโรงแรม เพื่อร่วมงานเลี้ยงช่วงกลางคืนซึ่งมีอาหารบุฟเฟท์มากมาย ทั้งอาหารพื้นเมือง และอาหารทั่วไปบรรยากาศของงานเป็นไปอย่างครื้นเครง หลังจากที่คุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจกล่าวสรุปถึงเส้นทางที่ผ่านมา พร้อมให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการขับขี่ของผู้เข้าร่วมคาราวานในครั้งนี้เป็นการเล่นเกมส์บนเวที จับฉลากพร้อมแจกของรางวัลมากมาย สลับด้วยการแสดงรำพื้นเมืองในชื่อ "รำหางประทีป" และ "ระบำนกยูง" ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันสุดท้าย
ขากลับแวะสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ช่วงเช้าอุณหภูมิประมาณ 15 องศาเซลเซียส เราขึ้นรถเพื่อไปยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขางชมสวนดอกไม้ และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมถ่ายภาพก่อนจะเดินทางกลับจาก ดอยอ่างขางบนเส้นทางที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นขาลงจากดอย ซึ่งทั้งลาดชันและลื่นแต่รถทุกคันก็สามารถผ่านมาได้โดยสวัสดิภาพ พร้อมเก็บความประทับใจต่างๆ มามากมายไม่ว่าจะเป็นความงดงามของสถานที่ และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของเจ้าหน้าที่
หวังว่าคราวหน้าคงได้มีโอกาสร่วมทริพดีๆ อย่างนี้อีก
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเส้นทางเชียงราย-ดอยอ่างขาง
ดอยตุง
เป็นที่ตั้งของพระตำหนักดอยตุง อยู่ห่างจากตัวเมือง 56 กิโลเมตรจัดเป็นสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพระตำหนักไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวพร้อมหอพระราชประวัติสมเด็จย่า เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันถัดมาไม่ไกลในเส้นทางพระธาตุดอยตุง แยกซ้ายไปอีกประมาณ 7 กม.เป็นที่ตั้งของสวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเทือกเขานางนอนพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ดอกซากุระบานช่วงกลางเดือนมกราคม-มีนาคม
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามดอยต่างๆ ทางภาคเหนือ เลิกการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย อันเป็นสาเหตุให้ป่าไม้และต้นน้ำลำธารของประเทศถูกทำลาย
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีที่ทดลอง ค้นคว้า วิจัยพืชผลเมืองหนาวเพื่อนำผลการทดลองค้นคว้า วิจัย ไปส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขา ใช้พื้นที่ปลูกทดแทนฝิ่นเพื่อชาวไทยภูเขาจะได้ตั้งหลักแหล่งอยู่ที่แน่นอนไม่ต้องอพยพเคลื่อนย้ายไปที่อื่นอันเป็นแนวทางหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และต้นน้ำลำธารสภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ย 17.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเดือนเมษายน 32 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุด -3 องศาเซลเซียส ในเดือนมกราคม พืชเมืองหนาวที่น่าสนใจอาทิ พืชผัก สมุนไพร ไม้ดอกไม้ประดับชาจีน ไม้ผลได้แก่ สาลี่ พีช พลัม กีวีฟรุท ราสพ์เบอร์รี และสตรอเบอร์รี และไม้ดอกไม้ประดับกว่า 50 ชนิด อาทิ กุหลาบสายพันธุ์ต่างๆ บีโกเนีย อาซาเลีย
ABOUT THE AUTHOR
ส
สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์
ภาพโดย : สิทธิพงศ์ วิยาภรณ์นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)