LOTUS (โลทัส) รถสปอร์ทสายเลือดผู้ดี เริ่มกิจการในอังกฤษเมื่อปี 1952 ภายใต้ชื่อ LOTUS ENGINEERING COMPANY ผู้ก่อตั้งกิจการ คือ COLIN CHAPMAN (คอลิน แชพแมน) อัจฉริยบุคคล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการรถยนต์ และรถแข่งระดับโลก ส่วนเจ้าของกิจการปัจจุบัน คือ ZHEJIANG GEELY HOLDING GROUP แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ผลิตรถยี่ห้อ GEELY สำหรับ LOTUS EMEYA (โลทัส เอมียา) เป็นรถไฟฟ้าแบบที่ 2 ของค่าย โดยใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้น และระบบขับเคลื่อนร่วมกับ LOTUS ELETRE (โลทัส เอเลตเรอ) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีพลังไฟฟ้า ที่เปิดตัวไปก่อน ส่วนความคิดเห็นของทีมนักออกแบบกับรถรุ่นนี้จะเป็นอย่างไร เชิญติดตาม
ภัทรกิติ์: รูปร่างของรถคันนี้ ถ้าไม่เห็นของจริงจะคิดถึงสเกลรถไม่ออก เพราะเป็นรถที่ใหญ่มาก แต่มีการดีไซจ์นเพื่อพรางสเกล ทำให้รูปทรงดูกระชับปราดเปรียว ด้วยการใช้ล้อขนาดใหญ่ 21 นิ้ว ซึ่งเป็นแนวทางของรถไฟฟ้าส่วนใหญ่ยุคปัจจุบัน เพราะพื้นรถอย่างเดียวก็หนามากแล้ว
LOTUS EMEYA คือ ซูเพอร์คาร์ 4 ประตู ที่ดูอลังการ และสวยงามมาก ภายนอกผมไม่รู้จะไปหักคะแนนตรงไหน สวยทุกมิติ ลงตัวทุกสัดส่วน ถือเป็นงานดีไซจ์นที่สวยหมดจด ยุคปัจจุบัน ในกลุ่มรถไฟฟ้า เรื่องการออกแบบถือว่าเปิดกว้างมาก และ LOTUS เพิ่มเติมความคิดสร้างสรรค์ไปในรถไฟฟ้าของค่ายได้อย่างลงตัว
อภิชาติ: เส้นสายต่างๆ ของรถคันนี้ออกแบบมาในทรงนิยม กราฟิคฟรอนท์ที่บริเวณด้านหน้าทำได้ดี มีคาแรคเตอร์ชัดเจน และผมมองว่า LOTUS กำลังมองหา DESIGN LANGUAGE เพราะตอนนี้พวกเขามีเงินทุนเยอะพอที่จะดีไซจ์นโมเดลใหม่ๆ ออกมาได้ พร้อมกับมีโรงงานประกอบรองรับ เราต้องรอดูแนวทางที่น่าสนใจจากค่ายนี้ ซึ่งคาดว่าจะตามออกมาเรื่อยๆ
งานออกแบบของ LOTUS EMEYA เด่นที่ล้อแมกขนาดใหญ่เต็มซุ้มล้อ คาแรคเตอร์ตัวรถสอดรับกันอย่างลงตัว กระโปรงหน้ามีโลโกเด่น รองรับกับพื้นผิวส่วนล่าง มุมมองด้านข้างใช้การพ่นสีดำ เพื่อให้ตัวรถดูบางลง รูปทรงมีความสปอร์ทตั้งแต่หัวจรดท้าย พร้อมเส้นสายที่กลมกลืน ขณะที่ไฟท้ายออกแบบได้ดี และดูแพง
ภัทรกิติ์: ภายในห้องโดยสารเป็น LANGUAGE เดียวกับรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ นั่นคือ LOTUS ELETRE โดยเป็นไปตามสมัยนิยม คือ มีจอแสดงผลตรงกลางขนาดใหญ่ กับจอแสดงผลขนาดเล็กบริเวณผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมจอที่ประตูทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อใช้แสดงผลของกล้องข้างที่ติดตั้งแทนกระจกมองข้างแบบดั้งเดิม โดยรวมแล้ว ห้องโดยสารมีความเรียบง่ายตามยุคสมัยของรถไฟฟ้า ไม่ได้มีความว้าวเท่าไหร่นัก ส่วนเบาะนั่งที่ผมเคยมีโอกาสทดลองนั่ง ให้ความรู้สึกแบบโอบล้อม ไม่โปร่งสบายเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป เบาะแข็งมาก เป็นรถลักชัวรีที่เบาะนั่งไม่สบาย ให้ความรู้สึกเหมือนเบาะซูเพอร์คาร์มากกว่า
อภิชาติ: ภายในห้องโดยสารมีรูปแบบที่เรียบง่าย แต่ทุกอย่างก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว
ภัทรกิติ์: รถคันนี้ให้มาพร้อม ทั้งความสวยงาม และสมรรถนะ ภายนอกสุดทุกด้านลงตัวทุกสัดส่วน รูปร่างแบบนี้จะอยู่กับเราไปได้อีกนาน
อภิชาติ: น่าตื่นตาตื่นใจ สวยงามลงตัว ให้อารมณ์ความเป็นซูเพอร์คาร์อย่างชัดเจน ทั้งภายใน และภายนอก