ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถพลังไฟฟ้าอีกครั้งหนึ่ง ด้วยผลงานใหม่ของค่าย JEEP (จีพ) ผู้ผลิตรถกิจกรรมกลางแจ้งรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 1943 และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์รวม 14 ยี่ห้อ ที่รวมอยู่ในอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของ STELLANTIS BV (สเตลแลนทิส บีวี) กลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อต้นปี 2021 จากการรวมตัวกันของกลุ่มบริษัทรถยนต์ต่างสัญชาติ 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม FCA หรือ FIAT CHRYSLER AUTOMOBILE (เฟียต ไครสเลอร์ ออโทโมบิล) ของอิตาลี และสหรัฐอเมริกา กับกลุ่ม GROUPE PSA (กรุป เปแอสอา) ของฝรั่งเศส
ชื่อรุ่น WAGONEER (แวกอเนียร์) ไม่ใช่ชื่อใหม่ ค่าย JEEP เคยใช้ชื่อนี้มาก่อนแล้ว กับรถหลายรุ่นที่ผลิตจำหน่ายระหว่างปี 1962-1993 ในยุคนั้นเป็นที่ทราบกันดีในสหรัฐอเมริกาว่า WAGONEER คือ ชื่อของรถกิจกรรมกลางแจ้งระดับ “พรีเมียม” และเชื่อถือได้ในคุณภาพ อย่างไรก็ตาม หลังจากห่างหายจากสายการผลิตไปนานเกือบ 3 ทศวรรษ เมื่อเดือนมีนาคม 2021 นี่เอง ชื่อนี้ก็ถูกกล่าวขานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อค่าย JEEP สร้างข่าวใหญ่ โดยการเปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่น พร้อมกับป้ายชื่อ JEEP WAGONEER (จีพ แวกอเนียร์) และ JEEP GRAND WAGONEER (จีพ กแรนด์ แวกอเนียร์)
JEEP WAGONEER เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ ในตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 5.453 ม. กว้าง 2.124 ม. และสูง 1.964-2.025 ม. ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อนทุกล้อ ด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน 293 กิโลวัตต์/392 แรงม้า หรือ 313 กิโลวัตต์/420 แรงม้า
JEEP GRAND WAGONEER ก็เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ ในตัวถังเดียวกันกับรถ JEEP WAGONEER แต่ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดโตกว่า และแรงกว่า คือ เครื่องเบนซิน 351 กิโลวัตต์/471 แรงม้า หรือ 381 กิโลวัตต์/510 แรงม้า
ส่วน JEEP WAGONEER S (จีพ แวกอเนียร์ เอส) ที่กำลังอวดรูปโฉมอยู่นี้ เป็นรถยุคใหม่แบบที่ 3 และเป็นรถขนาดเล็กกว่ารถ 2 แบบแรก เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมปีมังกรไฟ และมีกำหนดเริ่มการจำหน่ายทั้งในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาในช่วงครึ่งหลังของปี ที่น่าสนใจ และน่าติดตามก็คือ เป็นรถที่ผู้ผลิตยืนยันแล้วว่า ตั้งใจจะให้เป็น GLOBAL CAR (โกลบอล คาร์) คือ รถที่มีจำหน่ายทั่วโลก
เป็น ELECTRIC MID-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV (อีเลคทริค มิด-ไซซ์ ลักชัวรี ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งระดับหรูขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า ในตัวถังที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง โดยใช้พแลทฟอร์มสำหรับรถพลังไฟฟ้าที่ STELLANTIS BV เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า STLA PLATFORM เป็นตัวถังยาว 4.886 ม. กว้าง 1.900 ม. และสูง 1.645 ม. ที่รูปลักษณ์ส่วนท้ายดูคล้ายรถเก๋งตรวจการณ์ มีน้ำหนักรถพร้อมขับ 2,570 กก. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.29 คือ ต่ำกว่ารถแบบใดๆ ที่ค่ายนี้ผลิตทั้งในอดีต และปัจจุบัน เมื่อมองจากภายนอก จุดที่ดูแปลกตามาก คือ แผงกระจังหน้า ที่ออกแบบเป็น 7 ช่อง เหมือนรถร่วมค่ายแบบอื่นๆ แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนรถแบบอื่นๆ เป็นการออกแบบโดย “คิดนอกกรอบ” แท้จริง
ห้องโดยสารที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน ก็ตกแต่งหรูหรา และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก สมกับเป็นรถระดับ “พรีเมียม” มีชุดเครื่องเสียง McINTOSH (แมคอินทอช) 1,160 วัตต์ ที่ใช้ลำโพง 19 ตัว ห้องเก็บของท้ายรถก็จุถึง 866 ลิตร
ระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังรวม 447 กิโลวัตต์/600 แรงม้า แรงบิดรวม 837 นิวทันเมตร/85.4 กก.ม. ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี LITHIUM-ION ขนาด 400 โวลท์ 100.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระบบเกียร์จังหวะเดียว สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. และคาดหมายว่าเมื่อชาร์จไฟเต็มรถจะวิ่งได้ไกลกว่า 300 ไมล์ หรือ 480 กม.
ราคา MSRP ของรถที่จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาพร้อมกับป้ายชื่อ JEEP WAGONEER S LAUNCH EDITION (จีพ แวกอเนียร์ เอส ลอนช์ เอดิชัน) เริ่มต้นที่ 70,795 เหรียญ หรือประมาณ 2.55 ล้านบาทไทย
รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง ขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ
มิติตัวถัง 4.886x1.900x1.645 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.29
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด 447 กิโลวัตต์/600 แรงม้า แบทเตอรี 100.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
ราคาในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ 70,795 เหรียญ (ประมาณ 2.55 ล้านบาทไทย)