แล่นไปในสายน้ำ
FAIRLINE TARGA 40
เพราะยักษ์ใหญ่อย่าง SUNSEEKER ไม่ได้มีความสนใจในเรือเล็ก ที่มีขนาดไม่ถึง 55 ฟุต ทำให้ตลาดสปอร์ทครูเซอร์ขนาด 40 ฟุต ยังมีที่ว่างอยู่บ้าง ในขณะที่ PRINCESS V40 ยังคงเป็นตัวเลือกเรือครูสขนาดกะทัดรัดที่น่าสนใจ แต่เพราะเป็นโมเดลที่ออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2017 ทั้งดีไซจน์ และการใช้งานจึงดูเรียบง่าย โดยเฉพาะบริเวณดาดฟ้าที่ดูธรรมดาจนน่าเบื่อ FAIRLINE จึงเล็งเห็นว่า เวลานี้เป็นช่วงเหมาะสมที่สุดในการปรับเปลี่ยนมาตรฐานใหม่ ด้วยเรือ TARGA ที่รวมเอาพื้นที่ดาดฟ้า ความสามารถในการล่องเรือ ความยืดหยุ่น และคุณภาพเข้าไว้ด้วยกันอย่างน่าทึ่ง
คุณคงเคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนแล้ว แต่พอเรามาถึงท่าเรือที่ลมพัดแรงใน IPSWICH ด้วยจิตใจที่ผสมปนเประหว่างความเป็นกลางทางวิชาชีพ กับความกระหายใคร่รู้ การออกแบบอันน่าทึ่งของเรือลำนี้ ก็ทำให้เราประทับใจได้จริงๆ
หัวเรือทรงมน และเรียบคล้ายแนวตั้ง ถูกเสริมด้วยโลโกเรืองแสงที่ติดตั้งบนแถบสแตนเลสส์ ด้านบนมีเส้นขนาน 2 เส้นที่ล้อมรอบซันแพดของดาดฟ้าหน้าเรือ ซึ่งตกแต่งด้วยไฟ LED สีม่วงที่ซ่อนอยู่อีกที ตัวเรือมีหน้าต่างที่ลึก และยาว การที่ฮาร์ดทอพด้านหลังถูกออกแบบมาให้ไม่เห็นเสา ก็ช่วยเสริมเสน่ห์ของตัวเรือในภาพรวมได้เป็นอย่างดี สรุปแล้ว แม้ว่ามันจะถูกออกแบบให้เป็นเรือสปอร์ทครูเซอร์ขนาด 40 ฟุต แต่ก็พูดได้เต็มปาก ว่า มันเป็นเรือที่สวยงามดูดีที่สุด เท่าที่จะจินตนาการได้แล้ว
พื้นที่ดาดฟ้า เทียบเท่าเรือขนาดใหญ่
ความกว้าง 13 ฟุต ซึ่งคิดเป็นประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวรวม ทำให้พื้นที่ดาดฟ้าค่อนข้างกว้างขวาง แถมยังทอดยาวไปจนถึงด้านหน้าของตัวเรือ ทั้งดาดฟ้าหน้าเรือ และห้องหัวเรือจึงมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ส่วนดาดฟ้าด้านข้าง จะค่อยๆ แคบลง โดยเฉพาะบริเวณด้านหน้า ทำให้สามารถขยายพื้นที่ใช้สอยภายในได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังปลอดภัย เพราะมีการติดตั้งจุดจับที่เพียงพอ และทางเดินก็เป็นแบบระนาบเดียว ไม่มีสิ่งกีดขวาง เนื่องจากหมุดยึดถูกติดตั้งไว้บริเวณด้านนอกของราวกั้น และเมื่อคุณเดินไปถึงดาดฟ้าหน้าเรือ ก็จะรู้สึกทึ่งในความกว้างใหญ่ของมันแน่นอน
ด้วยโต๊ะแบบซ่อน ที่นั่งด้านหลังที่ปรับเปลี่ยนได้ และระเบียงที่สามารถพับลงได้ ทำให้พื้นที่บริเวณดาดฟ้าเปิดกว้าง
แม้จะดูเรียบง่าย แต่มีพนักพิงแบบยกขึ้นได้ และม้านั่งที่ปรับเปลี่ยนได้ ติดตั้งไว้กับเตียงอาบแดด
มีพื้นที่มากพอสำหรับ 4 คนบนเก้าอี้อาบแดดตรงกลาง และยังมีสิ่งพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าพอใจ เช่น พนักพิงที่สามารถปรับตำแหน่งได้หลายระดับ และโซฟาสำหรับสองคนหันหน้าไปข้างหน้า ซึ่งโผล่ออกมาจากขอบหน้าเตียงอาบแดด เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมในการวางเท้าบนราวจับ และเพลิดเพลินกับไวน์สักแก้วในบรรยากาศเงียบสงบ
ทางด้านท้ายเรือ บริเวณห้องนักบินกลับโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของขนาดที่ใหญ่โต และวิธีการใช้พื้นที่ โดยที่นั่งส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านซ้ายของเรือ ส่วนท้ายของดาดฟ้าจะถูกแบ่งโดยชุดเก้าอี้อาบแดดแบบสมมาตรที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นม้านั่งได้ การออกแบบนี้ช่วยให้มีทางเดินตรงกลางที่เปิดโล่ง ทำให้สามารถเข้าถึงจากพแลทฟอร์มด้านท้ายเรือได้อย่างสะดวกโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง พื้นที่นั่งรับประทานอาหารหลักทางซ้ายยังเพิ่มพื้นที่ดาดฟ้าด้วยโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้อย่างสมบูรณ์ โดยจัดเก็บไว้หลังพนักพิงอย่างเรียบร้อยโดยไม่เสียพื้นที่ หรือมีชิ้นส่วนเสริม
บาร์เปียกที่ออกแบบอย่างเรียบร้อย ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่นั่งรับประทานอาหารด้านซ้าย และที่นั่งเสริมที่ดูสวยงาม
ในแง่ของการออกแบบ พื้นที่ และคุณภาพของการตกแต่ง เลาน์จ์ด้านล่าง จัดว่าอยู่ในระดับเฟิร์สต์คลาสส์
อย่างไรก็ตาม จุดที่โดดเด่นที่สุด น่าจะหนีไม่พ้นท้ายเรือ โดยฝั่งซ้ายซ่อนเรือยางขนาด 2.3 ม. ที่พองลมเต็มที่ พร้อมด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้า จุดชาร์จ และเครื่องอัดลม นอกจากนี้ ยังมีฝาภายในแบบถอดได้ เพื่อให้ช่องเว้ารูปตัว V บนดาดฟ้าไม่ขัดขวางการเข้าถึงเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายเมื่อต้องการการบำรุงรักษา ส่วนที่นั่งด้านขวาใช้พนักพิงที่สามารถพลิกกลับได้ เพื่อสร้างที่นั่งแบบหันไปข้างหน้า หรือเลาน์จ์หันหลัง เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากระเบียงข้างที่พับลงได้ แถมพนักพิงยังสามารถตั้งให้หันออกไปทางดาดฟ้า ที่ขยายออกไปสู่ผืนน้ำได้
จากจุดนี้ เมื่อคุณเคลื่อนตัวไปด้านหน้า จะพบกับบาร์เปียกที่กราบขวา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งช่องน้ำแข็งระบายน้ำคู่ที่อยู่ด้านหน้าของอ่างล้างจาน และเตาย่าง ส่วนบริเวณกราบซ้าย ตรงข้ามกับห้องบังคับเรือ ก็ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว โดยขอบหน้าของที่นั่งรับประทานอาหารจะถูกยกขึ้น เพื่อเพิ่มที่นั่ง และพื้นที่ใช้สอยด้านล่าง ให้มากกว่าเรือลำอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
TARGA 40 มาพร้อมห้องด้านหน้าสำหรับเจ้าของเรือ ห้องกลางที่มีเตียงคู่ ซึ่งสามารถปรับรวมเป็นเตียงเดี่ยวได้ และห้องน้ำ 1 ห้องที่มีห้องอาบน้ำแยกต่างหาก แม้จะมีพื้นที่มากพอในห้องนั่งเล่นแบบเปิด ที่จริงแล้วเอามาสร้างห้องโดยสารเตียงเดี่ยวเพิ่มตรงกราบขวาได้ แต่ FAIRLINE ไม่สนใจจะทำแบบนั้น เพราะไม่ต้องการแข่งขันกับ TARGA 45 ซึ่งเป็นรุ่นที่ใหญ่กว่า ดังนั้น หากคุณต้องการล่องเรือกับเพื่อนๆ 6 คน คุณอาจต้องลงทุนเพิ่มอีก 7,950 ปอนด์ เพื่อซื้อโต๊ะพับเสริมที่สามารถแปลงที่นั่งรับประทานอาหารให้กลายเป็นเตียงหลังที่ 3 ได้
พูดกันตามตรง หากคุณเดินลงไปบริเวณห้องพัก เราเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้คุณสนใจ ไม่ใช่เรื่องจำนวนที่นอน แต่เป็นความประทับใจในการจัดการพื้นที่ โดยห้องนั่งเล่น และห้องครัวแบบเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกกว้างขวาง โต๊ะรับประทานอาหารด้านกราบขวาก็ใหญ่พอจะนั่งทานกันได้ 5-6 คน และด้วยการออกแบบแผงฟิวส์ และหน้าจอแสดงข้อมูลให้ถูกซ่อนไว้อย่างเรียบร้อยหลังแผง และฝาปิด ก็เสริมให้ห้องพักดูสะอาดเรียบร้อย ซึ่งเป็นจุดเด่นไม่แพ้ความกว้างขวางเลยทีเดียว ตรงข้ามกัน คือ ห้องครัวด้านกราบซ้าย ซึ่งติดกับส่วนท้ายของห้องน้ำ ที่ออกแบบได้น่าประทับใจเช่นกัน มีเคาน์เตอร์ยกระดับเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของ พร้อมเตาไฟฟ้า และเตาอบคอมบิ ตู้เย็นขนาดใหญ่ และพื้นที่เก็บของเหนือศีรษะมากมาย หน้าต่างด้านท้ายก็มากพอจะให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาเพื่อรักษาบรรยากาศการล่องเรือ ดังนั้น เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง หรือถึงเวลานอน คุณก็สามารถลงมาด้านล่างได้ โดยไม่รู้สึกว่าถูกลดทอนความสะดวกสบายแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของเรือครูสที่ดี
สำหรับการตกแต่งภายใน ตัวเลือกการเคลือบผิววอลนัทเงา ซึ่งยังคงได้รับความนิยมในเรือ FAIRLINE ประมาณ 80 % อาจให้ความรู้สึกเหมือนเรือยอชท์แบบดั้งเดิม แต่แน่นอนว่ายังมีตัวเลือกการตกแต่งด้วยไม้โอคสีอ่อนในแบบด้าน และซาตินสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์นอร์ดิคสมัยใหม่ และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การใช้ไม้ลายเส้น เนื้อผ้าที่มีสีอ่อน ผิวสัมผัสที่หลากหลาย และการจัดแสงที่ชาญฉลาดของ FAIRLINE ก็ทำให้การใช้ผิวเคลือบโทนมืดนี้ ให้ความรู้สึกประทับใจอย่างน่าประหลาด
ความสนุกสุดยอด ในทุกย่านความเร็ว
ด้วยน้ำหนักรวมมากกว่า 13 ตัน เรือที่สร้างอย่างแข็งแรง และติดตั้งทุก อย่างครบครันนี้ จึงไม่ถูกนับเป็นเรือเบา และด้วยการมีตัวเลือกเครื่องยนต์สูงสุด เป็นดีเซลคู่ 380 แรงม้า เมื่อคุณเร่งเครื่อง สิ่งที่คุณจะได้สัมผัส คือการเคลื่อนที่ในลักษณะของเรือครูส มากกว่าเรือสปอร์ทที่เบา การเร่งผ่านความเร็ว 9-12 นอท จะเพิ่มอัตราการใช้น้ำมันจาก 2.7 เป็น 5.7 ลิตร/ไมล์ แต่คุณสามารถแก้ไขการเอียงด้านหน้าของเรือขณะเร่งเครื่องได้ง่ายๆ เพียงปรับแทบลงประมาณ 20 % เมื่อควบคุมเรือแบบนี้ การเร่งจะรวดเร็ว ราบเรียบ และน่าพอใจ และเมื่อคุณไปถึงความเร็วเกิน 22 นอท ประสบการณ์ก็จะยิ่งดีขึ้นอีก
ห้องครัวซ่อนตู้เย็นขนาดใหญ่ เตาอบคอมบิ เตาเหนี่ยวนำ และอ่างล้างจานที่มีฝาปิดซึ่งสามารถใช้เป็นเขียงได้
ด้านกราบขวาของห้องโดยสารกลางสามารถเลือกติดตั้งตู้เก็บของ หรือโซฟาได้
ทีวีติดผนังสามารถหมุนให้หันหาเตียงได้
ห้องพักด้านหน้ามีเตียงยกสูงพร้อมที่เก็บของมากมาย และมีพื้นที่เหนือศีรษะมากกว่าที่คาดไว้
ห้องน้ำเพียงห้องเดียวในเรือ แม้จะไม่กว้างขวางนัก แต่ก็ชดเชยด้วยพื้นที่ใช้งานที่มีคุณค่าในจุดอื่นๆ ของเรือ
ตัวเรือมีรูปทรงที่สมมาตร และสมบูรณ์ ทำให้ควบคุมทิศทางได้ดี ส่วนประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงดีขึ้น เป็น 4-5 ลิตร/ไมล์ และการควบคุมเรือก็สนุกสนานมาก คุณจะรู้สึกถึงการเอียงอย่างทันทีเมื่อหมุนพวงมาลัย ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความมั่นใจมากขึ้น แต่จะยังทำให้คุณรู้สึกอยากเล่น และลองควบคุมเรือมากขึ้นอีกด้วย
ในวันที่เราทดสอบ ต้องเจอกับลมแรงระดับ 6 ดังนั้น การปรับแทบต่างๆ จึงต้องใช้การทำงานพอสมควร เนื่องจากเรือมีขนาดค่อนข้างสั้น และสูง แต่เพราะแทบเหล่านี้ได้รับการติดตั้งมาอย่างดี ทำให้สามารถตอบสนองได้รวดเร็ว และอีกสิ่งที่ทำให้การควบคุมเรือเหล่านี้ง่ายขึ้น คงหนีไม่พ้น ทัศนวิสัยอันดีเยี่ยมจากตำแหน่งควบคุม ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศแบบใด นอกจากกระจกบานโตที่สามารถเป็นชิ้นเดียวแล้ว ยังมีหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ที่ถึงแม้จะเปิด/ปิดได้ช้า แต่ก็ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการเลี้ยว หากคุณรู้สึกว่ามุมมองที่มียังไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติด้านความเรียบง่ายในการใช้งานจริง ก็หาได้ถูกละเลย ตัวเรือมีหน้าต่างที่เลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ด้าน ส่วนพื้นที่หัวเรือก็มากพอให้คุณสามารถปรับอิริยาบถได้อย่างเหมาะสม แถมยังยกแผงควบคุมทั้งหมดขึ้นได้ด้วยบานพับ ซึ่งช่วยให้เข้าถึงระบบสายไฟต่างๆ ได้โดยไม่ต้องลงไปด้านล่าง ด้านการจัดวาง และการติดป้ายกำกับของสายไฟต่างๆก็ถูกออกแบบอย่างประณีต และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานอย่างที่สุด และเช่นเดียวกับที่อื่นๆ บนเรือ สิ่งที่น่ายินดี คือ ทุกพื้นผิวไฟเบอร์กลาสภายในได้รับการเคลือบอย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้ขอบแหลมคม หรือเศษไฟเบอร์กลาสส์ บาดนิ้วมือของคุณเวลาเอื้อมเข้าไปในพื้นที่ส่วนลึกของห้องเครื่องยนต์
“แม้จะมีพื้นที่มากมายสำหรับการใช้งานตอนกลางวัน และรูปลักษณ์ที่สวยงามน่าชม FAIRLINE 40 ก็ยังเหมาะกับการใช้ล่องยาวๆ เพื่อเพลิดเพลินกับช่วงเวลาทั้งกลางวัน และกลางคืน”
ในแง่ของการปรับแต่ง และประสิทธิภาพ เรือรุ่นนี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในช่วงความเร็วระหว่าง 25-34 นอท
เช่นเดียวกับเรือประเภทเดียวกัน TARGA 40 จะมีเสียงดังเล็กน้อย วัดได้ 83 เดซิเบลที่ความเร็ว 10 นอท เพิ่มขึ้นเป็น 86 เดซิเบลที่ความเร็ว 13 นอท และอยู่ที่ระดับนี้ตลอดช่วงความเร็ว 24-32 นอท ก่อนที่จะสูงสุดที่ 89 เดซิเบล แม้จะมีเสียงเครื่องยนต์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรือที่ขับสนุกลำนี้ยังคงให้ความรู้สึกที่ประณีต และสะดวกสบายอย่างดีเยี่ยม ด้วยความแข็งแรงของโครงสร้างที่ไม่มีการสั่นสะเทือน และช่องเว้าด้านข้างของโครงสร้างส่วนบน ที่ไม่เพียงแต่ดูเท่ แต่ยังช่วยลดความปั่นป่วนของแรงดันต่ำบริเวณส่วนท้ายของห้องโดยสาร ทำให้แม้แต่คนที่นั่งอยู่บนม้านั่งท้ายเรือก็ยังปลอดภัยจากละอองน้ำ และไอเสีย เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในตำแหน่งบังคับเรือ
คำตัดสิน
FAIRLINE TARGA 40 นับว่าราคาค่อนข้างสูงในตลาดเรือกลุ่มเดียวกัน และราคาจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก หากคุณต้องการจะเสริมสเปคเพิ่มเติมเข้าไป โดยอุปกรณ์เสริมอย่างระเบียง BEACH CLUB และแท่นท้ายเรือแบบจมลงน้ำได้นั้น มีราคาสูงถึงเกือบ 30,000 ปอนด์/ชิ้น ซึ่งคุณอาจจะต้องจ่ายเพิ่มจากราคาพื้นฐานถึง 50 % ก่อนที่เรือจะพร้อมใช้งาน และผู้คนส่วนใหญ่ก็มักมองว่า การซื้อเรือโดยไม่มี “อุปกรณ์เสริม” เหล่านี้ เป็นการประหยัดที่ไม่คุ้มค่า แต่ TARGA 40 ใหม่นั้น มีประสิทธิภาพสูง และน่าพึงพอใจในหลายๆ ด้าน จนถึงขนาดที่ว่าป้ายราคาหนึ่งล้านปอนด์ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ของเรือทดสอบ ยังนับเป็นราคาที่คุ้มแสนคุ้ม เพราะมันถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต และสวยงาม มีพื้นที่กว้างขวางบนดาดฟ้า และห้องพักที่น่าประทับใจ แถมการออกแบบยังเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เบี่ยงเบนสู่ความแปลกใหม่จนสูญเสียประโยชน์ในการใช้งานจริง ยิ่งกว่านั้น เรายังสามารถการันตีได้ว่า เรือควบคุมได้ง่าย และตอบสนองได้อย่างน่าประหลาดใจลำนี้ ยังขับสนุกมากๆ แน่นอนว่า SQUADRON 58 ที่ได้รับรางวัลของ FAIRLINE ยังคงได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งก็สมควรแล้ว แต่ถ้าความทะเยอทะยาน หรือข้อจำกัดด้านงบประมาณของคุณไม่มากมายเกินกว่า 40 ฟุต ขอให้รู้ไว้ว่า TARGA 40 ใหม่ คือตัวเลือกที่จะเติมเต็มหัวใจคุณได้อย่างแท้จริง
“เรือลำนี้ควบคุมได้ง่าย และตอบสนองได้ดี ทำให้การขับขี่สนุกมาก”
ทุกสิ่งที่สำคัญถูกจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบที่ด้านขวาของคุณ
แผงควบคุมแบบบานพับ: แผงควบคุมทั้งหมดสามารถยกขึ้นได้ ช่วยให้เข้าถึงระบบสายไฟได้สะดวก
ซันรูฟ: ซันรูฟขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการเลี้ยวได้ดี
ความร้อน: คงจะดีถ้าเห็นช่องระบายความร้อนลดลงถึงระดับข้อเท้า
เข้าถึงได้ง่าย ช่องใต้ช่องเก็บของ ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครื่องยนต์ได้
อานด้านข้าง ที่นั่งแบบหันหน้าไปทางด้านข้างเป็นส่วนหนึ่งของออพชันเสริมบริเวณระเบียง
ได้ทั้งกิน และนอน โต๊ะอาหารที่สามารถแปลงเป็นที่นอนได้
ดาดฟ้าแคบ ดาดฟ้าถูกออกแบบมาให้ปราศจากพื้นที่เหลือทิ้ง เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย