รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ มีรถสายเลือดซามูไรรวมอยู่ด้วย 2 แบบ แบบแรกที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้ เป็นผลงานของยักษ์ใหญ่ TOYOTA MOTOR CORPORATION (โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธที่ 12 มีนาคม 2025 เป็นรถญี่ปุ่นที่ไม่ได้ผลิตในญี่ปุ่น และคาดว่าจะไม่มีจำหน่ายญี่ปุ่น
TOYOTA C-HR (โตโยตา ซี-เอชอาร์) เป็นชื่อของ SUBCOMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ที่ยักษ์ใหญ่เมืองปลาดิบผลิตจำหน่ายทั้งใน และนอกประเทศไปแล้วรวม 2 รุ่น รถรุ่นแรกซึ่งมีการผลิตทั้งในญี่ปุ่นในสาธารณรัฐประชาชนจีนในตุรเคีย และในประเทศไทย เริ่มการจำหน่ายเมื่อปลายปี 2016 มีขนาดตัวถัง ยาว 4.360 ม. กว้าง 1.795 ม. และสูง 1.555-1.565 ม. มีทั้งรถขับเคลื่อนล้อหน้า รถขับเคลื่อนทุกล้อ มีทั้งรถติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน รถไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ รถรุ่นดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแบบ “ยกหน้า” ไปครั้งหนึ่งเมื่อปลายปี 2019 และยุติการผลิตเมื่อปลายปี 2023
TOYOTA C-HR ที่จำหน่ายปัจจุบัน เป็นรถรุ่นที่ 2 เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 และเริ่มการผลิตในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ฐานการผลิตมีแห่งเดียว คื อโรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง SAKARYA ในตุร เคีย เป็นรถยาว 4.362 ม. กว้าง 1.832 ม. และสูง 1.558-1.564 ม. ซึ่งมีขายในหลายประเทศของยุโรป แต่ไม่มีขายในญี่ปุ่น เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งมีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ ระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ กับระบบขับ PLUG-IN HYBRID หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ
ส่วน TOYOTA C-HR+ (โตโยตา ซี-เอชอาร์+) ที่กำลังนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังนี้ ไม่ใช่รถรุ่นที่ 3 แต่เป็นรถแบบพิเศษ ที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับตลาดยุโรป เป็นรถผลิตในยุโรป และคาดว่าจะไม่มีการนำเข้าไปจำหน่ายในญี่ปุ่น
เป็น FULLY ELECTRIC COMPACT CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ในตัวถังยาว 4.520 ม. กว้าง 1.870 ม. และสูง 1.595 ม. ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยใช้พแลทฟอร์มสำหรับรถพลังไฟฟ้าที่ค่ายเพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า E-TNGA PLATFORM มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง และมีห้องเก็บของท้ายรถที่จุถึง 416 ลิตร
เมื่อเริ่มการจำหน่ายตอนปลายปีงูเล็กนี้ จะมีทั้งรถขับเคลื่อนล้อหน้า และรถขับเคลื่อนทุกล้อ จะมีทั้งรถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และรถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ส่วนแบทเตอรี LITHIUM-ION ที่ใช้ ก็จะให้เลือกทั้งขนาดความจุ 57.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง และขนาดความจุ 77.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง
รถขับเคลื่อนล้อหน้า จะมีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ (1) แบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 123 กิโลวัตต์/167 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 57.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที และตั้งเป้าว่าจะวิ่งได้ไกล 455 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม (2) แบบใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 165 กิโลวัตต์/224 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 77.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งการอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.4 วินาที และตั้งเป้าว่าจะวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม
ส่วนรถขับเคลื่อนทุกล้อ มีระบบขับแบบเดียว เป็นระบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ให้กำลังรวม 252 กิโลวัตต์/343 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีขนาดความจุ 77.0 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. สามารถทำได้ใน 5.2 วินาที และตั้งเป้าว่าจะวิ่งได้ไกล 525 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม
TOYOTA C-HR+
บทความแนะนำ