วิถีตลาดรถยนต์
เกือบแล้ว
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2025/2024
ตลาดโดยรวม -0.5 %
รถยนต์นั่ง -5.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +10.1 %
กระบะ 1 ตัน -6.6 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +36.5 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-มีนาคม 2025/2024
ตลาดโดยรวม -6.5 %
รถยนต์นั่ง -11.2 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +0.6 %
กระบะ 1 ตัน -11.6 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +36.4 %
เดือนมีนาคม เดือนสุดท้ายของไตรมาสแรกปี 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง เกือบพลิกฟื้นกลับมาเป็นบวกได้เป็นครั้งแรก หลังจากติดลบมานาน ส่วนสำคัญอย่างมากในความเกือบทำสำเร็จ มาจากการจัดงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมคาบเกี่ยวไปจนถึงต้นเดือนเมษายน โดยงานในปีนี้มีจุดเด่น คือ กองทัพรถยนต์รุ่นใหม่จากประเทศจีน ที่กวาดยอดจองเป็นกอบเป็นกำ ยอดรวมของรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ถูกจับจองเป็นเจ้าของเมื่อสิ้นสุดงานปาเข้าไปเกือบ 80,000 คันเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ยอดจองรถยนต์ใหม่เริ่มกระเตื้องขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมแล้ว เพราะค่ายรถยนต์มีการออกพโรโมชันพิเศษ บอกกล่าวแก่ลูกค้าว่า ใช้พโรโมชันเดียวกับในงาน ผลพวงจากยอดจองรถยนต์ใหม่ ส่งผลดีต่อตัวเลขยอดจำหน่ายในเดือนเมษายน และเดือนต่อไปอีกด้วย หลังจากมีการส่งมอบรถยนต์ที่ถูกสั่งจองไว้
สำหรับเดือนมีนาคม 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวมทั้งตลาด 55,798 คัน ลดน้อยลงจากเดือนมีนาคม 2567 เพียง 0.5 % หรือลดลงเพียง 301 คันเท่านั้น 3 ค่ายยักษ์ใหญ่รถยนต์ญี่ปุ่น ยังคงยึดหัวแถวไว้ได้โดยค่าย TOYOTA (โตโยตา) มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 21,575 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 เพียง 7 คัน แทบจะไม่แตกต่าง ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 38.7 % ตามด้วยค่าย HONDA (ฮอนดา) 7,909 คัน ขาดหายไป 310 คัน หรือลดลงเพียง 3.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 14.2 % ต่อด้วยค่าย ISUZU (อีซูซุ) 7,320 คัน ลดลง 1,541 คัน หรือลดลง 17.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.1 % ยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ค่าย BYD (บีวายดี) อยู่ในอันดับ 4 มียอดจำหน่าย 3,204 คัน เพิ่มขึ้นจากมีนาคม 2567 ถึง 2,072 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 183.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.7 % และค่าย MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) ทำยอดจำหน่ายได้ 2,823 คัน ลดลง 189 คัน หรือลดลงจากเดือนมีนาคมปีก่อน 6.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.1 %
ไตรมาสแรกของปี 2568 รถยนต์ใหม่ป้ายแดง มียอดจำหน่ายสะสมรวมทั้งสิ้น 153,193 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 อยู่ 10,563 คัน หรือลดลง 6.5 % รถยนต์ใหม่ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุดในไตรมาสแรกของปี ประกอบด้วย TOYOTA 57,683 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพียง 1,127 คัน หรือลดลง 1.9 % ส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสแรกอยู่ที่ 37.7 % HONDA 21,369 คัน ลดลง 3,735 คัน หรือลดลง 14.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.9 % ISUZU 20,289 คัน ลดลง 4,155 คัน หรือลดลง 17.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.2 % BYD 9,984 คัน ลดลงเพียง 63 คัน หรือลดลง 0.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.5 % และ MITSUBISHI 7,099 คัน ลดลง 488 คัน หรือลดลง 6.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.6 %
ตลาดรถพิคอัพ เดือนมีนาคม 2568 รถพิคอัพสายเลือดบูชิโดกลับมาอยู่ในตำแหน่ง TOP 5 พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้พิคอัพสายเลือดมังกรสอดแทรกเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเดือนมีนาคม 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 18,355 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 ไม่มากเท่าไรเพียง 1,293 คัน หรือลดลง 6.6 % พิคอัพ 5 บแรนด์ขวัญใจผู้บริโภค ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA 8,491 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ขาดหายไปเพียง 138 คัน หรือหายไป 1.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567 ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 46.3 % อันดับ 2 ISUZU 6,429 คัน ลดลง 1,436 คัน หรือลดลง 18.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.0 % อันดับ 3 FORD (ฟอร์ด) พิคอัพพันธุ์แกร่งสายเลือดพญาอินทรีย์ มียอดจำหน่าย 1,734 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2567 เพียง 10 คันเท่านั้น หรือลดลงเพียง 0.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.4 % อันดับ 4 MITSUBISHI 1,381 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา 409 คัน หรือเพิ่มขึ้น 42.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.5 % และอันดับ 5 NISSAN (นิสสัน) 187 คัน ลดลง 138 คัน หรือลดลง 42.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.0 %
ไตรมาสแรกของปี 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถพิคอัพสะสม 49,862 คัน ลดลงจากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว 6,563 คัน หรือลดลง 11.6 % ค่ายที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA 22,069 คัน ลดลงจากไตรมาสแรกปีที่แล้ว 3,179 คัน หรือลดลง 12.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 44.3 % อันดับ 2 ISUZU 18,034 คัน ลดลง 3,447 คัน หรือลดลง 16.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.2 % อันดับ 3 FORD 4,934 คัน ลดลง 997 คัน หรือลดลง 6.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.9 % อันดับ 4 MITSUBISHI 3,665 คัน เพิ่มขึ้น 1,041 คัน หรือเพิ่มขึ้น 39.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.4 % และอันดับ 5 NISSAN 550 คัน ลดลง 322 คัน หรือลดลง 36.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.1 % และอันดับ 6 ค่าย MG (เอมจี) พิคอัพเลือดมังกร หายใจรดต้นคอด้วยตัวเลขที่ห่างกันเพียง 60 กว่าคันเท่านั้น
ส่วนตลาดรถเอสยูวี เดือนมีนาคม 2568 มียอดจำหน่ายรวมเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2567 ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 11,971 คัน เพิ่มขึ้น 1,098 คัน หรือเพิ่มขึ้น 10.1 % และรถเอสยูวีของค่าย TOYOTA ยังคงเป็นทางเลือกอันดับแรกของผู้ที่ต้องการใช้รถเอสยูวี ทำตัวเลขยอดจำหน่ายได้ 4,794 คัน น่าเสียดายที่เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่น้อยลงจากเดือนมีนาคมปีที่แล้ว 708 คัน หรือลดลง 12.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 40.0 % อันดับ 2 ค่าย HONDA ทำได้ 3,880 คัน เพิ่มขึ้น 530 คัน หรือเพิ่มขึ้น 15.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.4 % อันดับ 3 ค่าย BYD 1,758 คัน เพิ่มขึ้นถึง 1,517 คัน หรือเพิ่มขึ้น 629.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 14.7 % อันดับ 4 ค่าย CHANGAN (ฉางอัน) 472 คัน เพิ่มขึ้น 77 คัน หรือเพิ่มขึ้น 19.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 3.9 % และอันดับ 5 ค่าย MAZDA (มาซดา) 300 คัน ลดลง 41 คัน หรือลดลง 12.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.5 %
ไตรมาสแรกของปี 2568 เทียบกับปี 2567 ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 33,119 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 185 คัน หรือเพิ่มขึ้น 0.6 % และมาดู TOP 5 รถเอสยูวียอดนิยมไตรมาสแรกปี 2568 ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA 12,660 คัน ลดลง 2,096 คัน หรือลดลง 14.2 % ส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสแรก 38.2 % อันดับ 2 HONDA 10,485 คัน ลดลง 421 คัน หรือลดลง 3.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 31.7 % อันดับ 3 BYD 5,816 คัน เพิ่มขึ้น 3,744 คัน หรือเพิ่มขึ้น 180.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 17.6 % อันดับ 4 CHANGAN 1,443 คัน เพิ่มขึ้น 717 คัน หรือเพิ่มขึ้น 98.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.4 % และอันดับ 5 MAZDA 702 คัน ลดลง 312 คัน หรือลดลง 30.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.1 %
ส่วนรถเพื่อการพาณิชย์อื่นๆ เดือนมีนาคม 2568 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 4,418 คัน เพิ่มขึ้น 1,182 คัน หรือเพิ่มขึ้น 36.5 % เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567 ไตรมาสแรกของปี 2568 ตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมอยู่ที่ 11,978 คัน เพิ่มขึ้น 3,196 คัน หรือเพิ่มขึ้น 36.4 % เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2567 ทั้งนี้เดือนมีนาคม 2568 มีการจดทะเบียนรถเอสยูวี และรถพิคอัพรวมกันที่ 32,111 คัน ลดลง 3,251 คัน หรือลดลง 9.2 % เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567