วิถีตลาดรถยนต์
เลข "7" นำโชค ตลาดรถส่อแววฟื้นตัว !
เป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก สำหรับเดือนกรกฎาคมปีนี้ ที่มาพร้อมกับมหัศจรรย์เลข 7 มีทั้งเด็กที่คลอดบน
รถแทกซี ทะเบียน 7777 แถมหวยรัฐบาลงวดปลายเดือนเลขท้าย 2 ตัวที่ออก ยังเป็น 77 เล่นเอาคอหวยได้เฮ คลายเครียดหลังจากโดนรับประทานไปหลายต่อหลายงวด และเดือนที่ 7 ของปีนี้เองที่ตัวเลขยอดจำหน่ายรถส่อแววว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านไป ตลาดลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 3.9 % ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ปีนี้มียอดจำหน่ายที่ดีกว่า 1.0 % โดยที่ยอดจำหน่ายเดือนกรกฎาคมปี 2550 อยู่ที่ 51,158 คัน แบ่งออกเป็น
รถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ 27,899 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 54.3 % โดย โตโยตา ไฮลักซ์ วีโก ยังครองความเป็นพิคอัพขวัญใจมหาชนอย่างเหนียวแน่น ยึดครองความเป็นหมายเลข 1 ของตลาดอย่างต่อเนื่อง จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 13,329 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 47.8 % ทิ้งห่างคู่รักคู่รส อีซูซุ ที่จำใจรับตำแหน่งหมายเลข 2 ด้วยยอดจำหน่าย 9,407 คัน รับส่วนแบ่งตลาด 33.7 % หมายเลข 3 ของตลาดตกเป็นของ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 1,743 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 6.2 % ส่วนอันดับ 4 เป็น มิตซูบิชิ ทไรทัน 1,217 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.4 % และอันดับ 5 ในเดือนนี้เป็นของ ฟอร์ด เรนเจอร์ 842 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 3.0 % และในบรรดารถพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่มีจำหน่ายอยู่ขณะนี้ มีเพียง นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา เท่านั้นที่เมื่อเปรียบเทียบยอดจำหน่าย
กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วมียอดจำหน่ายที่เพิ่มสูงมากขึ้น นอกนั้นปรับตัวลดลงทั้งสิ้น โดย นิส
สัน มียอดจำหน่ายที่สูงถึง 71.2 % ทั้งนี้ทั้งนั้นความน่าจะเป็นเกิดจากในช่วงเวลานั้น นิสสัน ฟรอนเทียร์ อยู่ในช่วงรอการปรับเปลี่ยนโมเดลมาเป็น ฟรอนเทียร์ นาวารา พิคอัพ 6 เกียร์คันแรกของเมืองไทย ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ก็ใช้เวลาอยู่ในตลาดพอสมควรแล้ว
ส่วนพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่แตกไลน์เป็นทางเลือกสำหรับแฟนพิคอัพขาลุย จากรุ่นขับเคลื่อน
2 ล้อ ที่ปัจจุบันมีในแบบยกสูงทรงเดียวกับขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือกใช้กันเกือบครบทุกยี่ห้อ มียอดจำหน่ายรวมกันในเดือนนี้ที่ 2,241คัน จำหน่ายได้มากกว่าเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 229 คัน หรือ 11.4 % บรรดาพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเดือนนี้ ยังคงไล่เรียงกันมาคล้ายกับประเภทขับเคลื่อน 2 ล้อ จะมีเปลี่ยนแปลงก็ในอันดับที่ 5 โดย เชฟโรเลต์ พลิกแซง ฟอร์ด ขึ้นมาจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 91 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 4.1 %นอกนั้นอันดับเหมือนกันไม่เปลี่ยนแปลง โตโยตา นำโด่งด้วยยอดจำหน่าย 1,360 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 60.7 % อันดับ 2 เป็น อีซูซุ 428 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.1 % อันดับ 3 ได้แก่ นิสสัน จำหน่ายได้ 174 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 7.8 %
และอันดับ 4 ตกเป็นของ มิตซูบิชิ ที่จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 98 คัน มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 4.4 % แต่สิ่งที่เป็น
ความแตกต่างตรงกันข้ามกับตลาดพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ ได้แก่ ยอดจำหน่ายที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วของทุกยี่ห้อ ยกเว้น มิตซูบิชิ ยี่ห้อเดียวใน 5 อันดับแรกที่ปรับตัวลดลง สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากเป็นช่วงเวลาของการปล่อยไลน์โพรดัคท์ ออกสู่ตลาดของแต่ละยี่ห้อนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ตลาดรถพิคอัพ ทั้งประเภทขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ คงจะต้องทวีองศาความร้อนแรงในการแข่งขัน เตรียมแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด เพราะเกือบทุกยี่ห้อต่างงัดแคมเปญเด็ดโพรโมชันได้ใจ ออกมากระตุ้นกำลังซื้อกันอย่างพร้อมเพรียง โดย โตโยตา ทุ่มงบประมาณจัดงาน วีโก แฮพพีเดย์ สเปเชียล ที่ อิมแพคท์ เมืองทองธานี และอีก 34 จังหวัดทั่วประเทศ มีทั้งดาราและขวัญใจแฟนเพลงเพื่อชีวิต คาราบาว มาร่วมสร้างสีสันให้กับงาน แถมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่จองรถในงาน ขณะที่ อีซูซุ จัดมหกรรม อีซูซุ ครั้งที่ 2 หลังจากติดอกติดใจกับยอดจองครึ่งวัน 1 พันกว่าคันในการจัดงานครั้งแรก กลางเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
ส่วน นิสสัน ที่เป็นเบอร์ 3 ของตลาดในเวลานี้ ไม่ต้องไปจัดงานอะไรให้ใหญ่โต นอกจากจัดโรดโชว์ทั่ว
ประเทศ แล้วใครสนใจ นิสสัน ฟรอนเทียร์ นาวารา ก็สืบเท้าเข้าโชว์รูมเลือกรับข้อเสนอพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยต่ำ, ดาวน์ต่ำ, ผ่อนเริ่มต้นน้อยๆ ไม่ถึง 1 หมื่นบาท/เดือน แล้วยังแถมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งให้อีก 1 ปี คำนวณงบประมาณของตัวเองแล้วจดปากกาเซ็นใบจองได้เลย สำหรับ ฟอร์ด ยักษ์ใหญ่ทุนหนาจากสหรัฐอเมริกา นำดีเลอร์ทั่วประเทศ โชว์ศักยภาพความมั่นใจในคุณภาพรถและบริการเกินร้อย จัดแคมเปญ ฟอร์ด กล้าท้า
กล้าให้ เพียงแค่มาลองขับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แล้วถ้าภายใน 7 วัน ยังไปซื้อรถกระบะยี่ห้ออื่น ฟอร์ด ให้ไปเลยคูปองเติมน้ำมันมูลค่า 2,000 บาท ขณะที่ มิตซูบิชิ ทไรทัน มีข้อเสนอพิเศษให้เช่นกัน เมื่อจองรถหรือเพียงแค่ไปทดลองขับ ก็ได้รับของที่ระลึก และลุ้นรับโชคทองอีกต่างหาก ในส่วนของรถพิคอัพรุ่นใหม่มี มาซดา บีที-50 ไฮ-เรเซอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ที่ทุ่มงบประมาณไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ในด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การสร้างภาพยนตร์โฆษณาที่แตกต่าง รวมไปถึงการจัดกิจกรรมการตลาด สรุปว่าทุกยี่ห้อที่ค้าขายรถพิคอัพ ต่างประกาศแนวรุกกันอย่างเต็มที่ จะขาดก็แต่ค่าย เชฟโรเลต์ ที่ยังเงียบ ดูทีท่าอยู่ ส่วนผลที่ออกมาจะคุ้มกับงบประมาณที่ทุ่มเทหรือไม่ ? เดี๋ยวรู้กัน
สำหรับตลาดรถนั่งส่วนบุคคลป้ายแดง เป็นอีกตลาดหนึ่งที่ยอดจำหน่ายปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับ
เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยจำหน่ายรวมกันทุกยี่ห้อได้ทั้งสิ้น 14,586 คัน เติบโตสูงขึ้น 6.1 % โตโยตา ยังรั้งบัลลังก์แชมพ์ ด้วยความหลากหลายของโมเดลที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ทำยอดจำหน่ายรวมได้ 7,835 คัน คิดเป็น 53.7 % ของตลาดทั้งหมด ตามมาเป็นอันดับ 2 คือ ค่าย ฮอนดา ที่โมเดลใหญ่สุด แอคคอร์ด เริ่มมีกระแสของการเปลี่ยนแปลงเล็ดลอดออกมาแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ โตโยตา แคมรี จนเกินไป หากเป็นจริงไม่เกินสิ้นปีนี้ คงได้เห็นรูปโฉมกันอย่างเต็มตา ฮอนดา จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 4,710 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 32.3 % อันดับ 3 เป็นของ นิสสัน ที่นอกจากจะมี "คุณปลื้ม" มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับ ทิอิดา แล้ว ยังได้มือดีด้านการจำหน่ายรถจากบแรนด์หรู มาคุมด้านการขายอีกด้วย จำหน่ายได้ 561 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 3.8 % ส่วนอันดับ 4 เป็น เชฟโรเลต์ ซึ่งเสริมสวยเพิ่มเสน่ห์ให้กับ ออพทรา จำหน่ายทั้ง อาวีโอ และออพทรา ได้ 510 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 3.5 % และมาซดา 3 ทั้งใหม่และเก่าจำหน่ายรวมกันได้ 292 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 2.0 %
ส่วนตลาดรถกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเอสยูวี ยังมีการเติบโตต่อเนื่องต่อไป ทำยอดจำหน่ายรวมกันได้
2,633 คัน เติบโตขึ้น 25.8 % เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โตโยตา จำหน่ายได้มากที่สุด เป็นอันดับ 1 ด้วยยอด 1,090 คัน ตามด้วย ฮอนดา 696 คัน อีซูซุ 370 คัน เชฟโรเลต์ 254 คัน และฟอร์ด 109 คัน
ส่วนตลาดรถอเนกประสงค์ หรือเอมพีวี ยังเป็นตลาดที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เดือนกรกฎาคมปีนี้
ลดลง 22.5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่จะเพิ่มหรือลดตลาดก็ยังเป็นของ โตโยตา เหมือนเดิม เดือนนี้ โตโยตา จำหน่ายได้ 400 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 72.5 % อันดับ 2 เป็นของ มิตซูบิชิ ที่อยู่ในบัญชีจะมีการไมเนอร์เชนจ์ ช่วงปลายปีจำหน่ายได้ 97 คัน อันดับ 3 เป็นของ เกีย จำหน่ายได้ 28 คัน อันดับ 4 เป็น ซูซูกิ จำหน่ายได้ 17 คัน และอันดับ 5 ซังยง จำหน่ายได้ 10 คัน
ยอดจำหน่ายรถรวมทุกประเภท มกราคม-กรกฎาคม 343,672 คัน ลดลง 10.8 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ 189,398 คัน ลดลง 13.9 %
พิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ 13,106 คัน ลดลง 27.6 %
รถนั่งส่วนบุคคล 93,686 คัน ลดลง 8.8 %
รถเอสยูวี 19,846 คัน เพิ่มขึ้น 11.7 %
รถเอมพีวี 4,931 คัน ลดลง 22.4 %
และรถประเภทอื่น ๆ 22,705 คัน เพิ่มขึ้น 10.9 %
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/77362