GM ผลิตรถไฟฟ้าเพิ่ม เพื่อทดลองระบบไร้คนขับ

 

General Motors ประกาศเพิ่มจำนวนรถที่ใช้ในการทดลองเรื่องยานยนต์ไร้คนขับ โดยผลิตจากสายการผลิตของโรงงาน เพิ่มอีก 130 คัน ซึ่งนับเป็นจำนวนการผลิตที่มากที่สุดขณะนี้ โดยเป็นรถไฟฟ้า Chevrolet Bolt EV จากโรงงานใน Orion Township มิชิแกน

กระบวนการผลิตจากสายการผลิตตามปกติของโรงงาน เริ่มมาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยรถที่ผลิตทั้งหมด จะนำมาเข้ากลุ่มรถยนต์ที่ใช้ในการทดสอบโครงการยานยนต์ไร้คนขับ ที่ปัจจุบันมีอยู่แล้ว 50 คัน เพื่อช่วยเร่งในการหาข้อมูลจากการทดสอบ ข้อมูลตัวเลข และรายละเอียดที่ต้องการให้ได้เร็วที่สุด โดยจะวิ่งทดสอบในท้องถนนปกติ ในซานฟรานซิสโก อริโซนา และมิชิแกน "เพื่อให้ได้ข้อมูลรายละเอียดของยานยนต์ไร้คนขับเร็วที่สุด เราจำเป็นต้องใช้รถในการทดลองจำนวนมาก" Kyle Vogt หัวหน้าแผนกควบคุมการทดสอบ การขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ Cruise Automation ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของระบบยานยนต์ไร้คนขับ ซึ่ง GM ซื้อมาเมื่อปี 2559 ด้วยมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 35 พันล้านบาท นับถึงปัจจุบัน GM เป็นค่ายรถยนต์ที่มีรถไว้ใช้ในการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับที่มากที่สุดในโลก แม้แต่ค่าย Waymo ในโครงการยานยนต์ไร้คนขับของ Google ที่เพิ่มจำนวน Chrysler Pacifica Hybrid  อีก 100 คัน กำหนดในเดือนธันวาคมนี้ โดยที่บริษัทเองก็เริ่มลดการใช้รถขนาดเล็กรุ่นแรกที่ใช้ทดสอบ พร้อมเตรียมเพิ่มจำนวนรถรุ่นดังกล่าวอีก 500 คัน เริ่มการประกอบนับจากเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา สำหรับค่าย Ford ก็มียานยนต์ไร้คนขับ เพื่อการค้นคว้าวิ่งอยู่บนท้องถนนแล้ว 30 คัน และวางแผนจะเพิ่มจำนวนเป็น 90 คัน ภายในปลายปี 2560 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทดลองของโรงงาน Flat Rock ในดีทรอยท์ มูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ราว 2,450 ล้านบาท ที่รวมค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงสายการผลิต ให้สามารถประกอบยานยนต์ไร้คนขับ ระดับ 4 ได้ในอนาคต "แผนงานของ GM จะแนะนำเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการ แบ่งกันขับขี่ หรือ Ride-Sharing ในเมืองใหญ่ๆ ของอเมริกา"  Mary Barra  ซีอีโอ กล่าวกับพนักงานโรงงาน ถึงแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ "เราเชื่อว่ายานยนต์ไร้คนขับ จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อกิโลเมตรได้เป็นอย่างมาก อันจะทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเดินทางโดยใช้บริการของเรา ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับธุรกิจของเราเช่นกัน" รถยนต์ที่ผลิตเพื่อโครงการยานยนต์ไร้คนขับนี้ จะติดตั้งระบบเซนเซอร์มากกว่า 40 จุด เพื่อตรวจสอบสภาพโดยรอบของตัวรถ รวมทั้งระบบ ลิดาร์, เรดาร์ และกล้องวีดีโอ