Fiat Chrysler เจรจากับ Hyundai

 

รายงานข่าวจากอิตาลี ระบุคำให้สัมภาษณ์ของ Sergio Marchionne ซีอีโอของค่าย Fiat Chrysler ซึ่งยอมรับว่ากำลังอยู่ในขั้นการเจรจาเป็นหุ้นส่วนทางเทคนิค กับค่าย Hyundai Motor จากเกาหลีใต้ แต่ยังไม่มีแผนงานที่จะควบรวมระหว่างบริษัท

ค่าย Fiat Chrysler เป็นค่ายที่นักข่าวจ้องมองว่าจะมีการควบรวมกับค่ายรถยนต์เจ้าใดหรือเปล่า หลังจากเคยมีความพยายามที่จะควบรวมกับค่ายยักษ์ใหญ่ GM จากสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อปี 2558 และมีรายงานข่าวว่า มีค่ายรถยนต์ที่สนใจการควบรวมนี้ จาก Greatwall ประเทศจีน และ Hyundai เกาหลีใต้ “เราซื้อชิ้นส่วนจาก Hyundai อยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะสามารถมีข้อตกลงด้านอื่นเพิ่มได้หรือไม่ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบส่งกำลัง และเครื่องยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน” Sergio Marchionne ให้สัมภาษณ์ พร้อมเสริมว่า “แต่ยังไม่มีประกาศใดๆ ในตอนนี้” เมื่อถูกถามว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการนำไปสู่การควบรวมได้หรือไม่ เขาตอบทันที “ผมว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น” ค่าย Fiat Chrysler กำลังมองหาเทคโนโลยี หรือความร่วมมือกันในการผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิง ที่จะมาทั้งเทคโนโลยีรถไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้กับรถยนต์ในเครือ ในยุคที่เครื่องยนต์เชื้อเพลิงจากฟอสซิล เริ่มเสื่อมความนิยม Sergio Marchionne ซีอีโอ วัย 65 ปี ที่จะหมดอายุการทำงานในเดือนเมษายน 2562 กำลังร่างแผนงานทางธุรกิจจนถึงปี 2565 ที่จะต้องนำเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้นกลางปีหน้า โดยจะแบ่งการทำงานของธุรกิจในเครือออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก คือ Magneti Marelli ผู้ผลิตชิ้นส่วนด้านไฟส่องสว่าง, เครื่องยนต์, อุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์, ระบบส่งกำลัง และ ระบบไอเสีย ส่วนที่ 2 ที่จะแยกการทำงาน คือ ผู้ผลิตหุ่นยนต์ Comau “เพื่อให้ Comau สามารถพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และหุ่นยนต์ ได้โดยสะดวก” และส่วนที่ 3 คือ การผลิตรถยนต์ Sergio Marchionne กล่าวว่า เขาต้องการให้การแบ่งการทำงานของธุรกิจ ให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรในการแยกการทำงานครั้งนี้ จะต้องนำเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือแม้แต่จะต้องเพิ่มเงินลงทุน ก็ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อให้เป็นผู้ตัดสิน” การแยกตัวทางธุรกิจครั้งนี้ จะช่วยให้กระแสการเงินภายในบริษัท คล่องตัวมากขึ้นภายในปีหน้า ขณะเดียวกัน ค่าย Alfa Romeo ก็มีแผนงานที่จะหวนคืนสู่สนามแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน เพื่อช่วยยกระดับการยอมรับของผู้บริโภค ถึงความแรงของรถยนต์ที่สามารถลงแข่งขัน ฟอร์มูลา วัน ได้ หลังจากที่ยอดขายร่วงลงอย่างมากในศตวรรษที่ผ่านมา เพราะไม่มีการส่งเสริมด้านมอเตอร์สปอร์ทมากเท่าที่ควร