ในงานแนะนำ Proton Saga ไมเนอร์เชนจ์ ปี 2562 เมื่อเร็วๆ นี้ Dr. Li Chunrong กล่าวขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันพัฒนาสายการผลิตให้เป็นไปตามแผนงาน นั่นคือ เป้าหมายที่จะทำให้บริษัทกลับมามีผลกำไร เพื่อให้เป็นบริษัทอันดับ 1 ในมาเลเชีย และเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของอาเซียนจากการที่ Zhejiang Geely Holding Group เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น Proton และสามารถเริ่มการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ X70 จากโครงสร้างพื้นฐานของ Geely รวมทั้งการไมเนอร์เชนจ์ รุ่น Iriz, Persona, Exora และ Saga ได้มีการปรับปรุงสายการผลิตอย่างขนานใหญ่ ซีอีโอ Proton ระบุว่า การปรับปรุงคุณภาพนับเป็นงานที่ยากมาก “แต่ภายใต้ความช่วยเหลือของ Geely เมื่อ 22 เดือนก่อน ค่าคะแนนความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการผลิตของเราสูงถึง 6,388 คะแนน ปัจจุบัน เราสามารถลดค่าคะแนนเหลือเพียง 1,329 คะแนน ด้วยการเปรียบเทียบกับ Geely, Volvo ที่เรายังสามารถปรับปรุงให้ดีเพิ่มขึ้นได้อีก” จากการสำรวจ Proton’s Global Customer Product Audit (GCPA) ช่วงก่อนเดือนธันวาคม 2560 ค่าคะแนนความเสียหายอยู่ที่ 6,388 คะแนน จนปัจจุบันนี้ ค่าคะแนนความเสียหายลดเหลือเพียง 1,329 คะแนน โดยตั้งเป้าที่จะทำให้เหลือเพียง 1,100 คะแนน ภายในปี 2562 ขณะที่ค่าคะแนนความเสียหายจากการประกอบของ Volvo มีเพียง 850 คะแนนเท่านั้น การคิดคะแนนความเสียหายของ Proton ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเทียบเคียงกับคะแนนของ Geely ในปี 2561 ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 1,500 คะแนน แต่เมื่อกลางปี 2561 Proton สามารถทำได้เหลือเพียง 1,763 คะแนน ในแง่การควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ เทียบตามมาตรฐานระดับโลก นอกเหนือจากการควบคุมคุณภาพแล้ว Proton ยังใช้วิธีการลดค่าใช้จ่าย ทั้งจากการดำเนินงาน และจากราคาของชิ้นส่วนที่สั่งซื้อจากผู้ผลิตชิ้นส่วน ซีอีโอ กล่าวว่า “แม้ว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนบางรายจะไม่พอใจในมาตรการของเรา แต่มันเป็นเรื่องจำเป็น เพราะทำให้บริษัทสามารถทำการผลิต ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราจะไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ ยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก”