รายงานข่าวจากกรุงเดลี ประเทศอินเดีย ระบุว่า Toyota จะระงับการลงทุนในอนาคตสำหรับอินเดีย อันเนื่องมาจากอัตราภาษีที่สูงมาก จากการที่รัฐบาลอินเดีย ต้องการหารายได้เข้ามาชดเชยเงินงบประมาณ ที่หดหายไปเนื่องจากวิกฤตโรคระบาดจากไวรัส COVID-19Shekar Viswanathan รองประธาน Toyota Kirloskar (Toyota India) ระบุว่า รัฐบาลอินเดีย เรียกเก็บภาษีรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ในอัตราที่สูงมาก ทำให้ผู้ผลิตมีปัญหาในการคำนวณปริมาณการผลิตที่เหมาะสม ราคาจำหน่ายสูงมาก อันเป็นผลให้ผู้บริโภคบางส่วนไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงต้องระงับสายการผลิต และไม่สามารถจ้างงานพนักงานใหม่ๆ ได้ Shekar Viswanathan ให้สัมภาษณ์ว่า “หลังจากที่นำเงินเข้ามาลงทุนเรียบร้อย ก็ได้รับสารว่า เราไม่ต้องการคุณ” และ “เราจะยังคงอยู่ในประเทศอินเดีย แต่จะไม่ลงทุนเพิ่มเติม” ข้อมูลจาก สมาคมผู้จำหน่ายยานยนต์ อินเดีย ระบุว่า ยักษ์ใหญ่วงการรถยนต์ Toyota เริ่มการลงทุนในอินเดียเมื่อปี 2540 โดยถือหุ้น 89 % แต่มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 2.6 % เมื่อเดือนสิงหาคม ขณะที่ในปี 2562 ที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งเกือบ 5 % ในประเทศอินเดีย ยานยนต์ทุกประเภท ทั้งรถยนต์, มอเตอร์ไซค์ และรถ เอสยูวี จะเสียภาษีถึง 28 % นอกเหนือจากนั้น ยังแบ่งประเภทย่อยลงไปอีก ที่จะต้องเสียอัตราภาษีเพิ่มในอัตราตั้งแต่ 1 % ไปจนถึง 22 % ขึ้นอยู่กับรูปแบบ ความยาวตัวรถ ขนาดของเครื่องยนต์ โดยอัตราภาษีสำหรับรถ เอสยูวี ความยาวตัวรถเกิน 4.0 เมตร ที่มีเครื่องยนต์ความจุมากกว่า 1.5 ลิตร จะต้องเสียภาษีถึง 50 % และแม้แต่รถไฟฟ้า ซึ่งเสียภาษีในอัตราเพียง 5 % ยังจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น หากจำหน่ายรถได้มากขึ้น การเรียกเก็บอัตราภาษีพิจารณาจากสิ่งที่เห็นว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยในอินเดีย นอกเหนือจากรถยนต์แล้ว ยังรวมถึงบุหรี่ และน้ำที่มีฟองด้วย แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลอินเดีย กำลังวางแผนที่จะเสนออัตราภาษี มูลค่า 23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเชื้อเชิญผู้ผลิต ให้เข้ามาตั้งโรงงานในอินเดีย รวมทั้งสายการผลิตที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งนับเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก ค่าย General Motors ถอนตัวออกจากอินเดีย เมื่อปี 2560 ขณะที่ Ford ตัดสินใจเมื่อปีที่แล้ว ที่จะโยกย้ายทรัพย์สินในอินเดีย ไปยังหุ้นส่วน Mahindra & Mahindra หลังจากผลิตภัณฑ์ไม่สามารถจูงใจผู้บริโภคในอินเดียได้สำเร็จ ยาวนานเกือบ 20 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดการบริหารงานด้วยตนเอง ของ Ford ในประเทศซึ่งเคยประกาศไว้ว่าต้องการเป็น 1 ใน 3 ของตลาดรถยนต์อินเดีย ให้ได้ภายในปี 2563 ปัจจุบัน Toyota ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Suzuki ในการจำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็ก ภายใต้ยี่ห้อ Toyota ใช้กำลังการผลิตราว 20 % ของโรงงานแห่งที่ 2 ในประเทศอินเดีย ยอดขายรถยนต์ในอินเดียตกต่ำลงตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 ทำให้มีคนตกงานอย่างน้อยประมาณ 500,000 คน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า อาจต้องใช้เวลาถึง 4 ปี กว่าจะสามารถกลับมามียอดขายได้เช่นเดิม โดยปัจจุบัน ค่าย Maruti Suzuki และ Hyundai เป็นผู้นำตลาดในอินเดีย โดยมียอดขายโดยรวมกันเกือบ 70 %