ทดลองขับ(formula)

รีวิวการทดลองขับ Honda City Hatchback เพิ่มมาดสปอร์ท ต่อยอดความอเนกประสงค์ !

24 Dec 2020

คลิพรีวิว ทดลองขับ Honda City Hatchback RS

หลังจากที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ และได้รับความสนใจมากมายในงาน Thailand International Motor Expo 2020 เราก็ได้มาทดลองขับ Honda City Hatchback (รุ่นทอพ RS) มาดูการรีวิวกันเลย ส่วนการทดลองขับ Honda City e:HEV คลิคดูได้ ที่นี่

รูปทรงดูกระชับกว่าตัวถังซีดาน

Honda City Hatchback (ฮอนดา ซิที แฮทช์แบค) มีรูปทรงด้านหน้าที่เหมือนกับ City ตัวถังซีดานที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว จุดแตกต่างจะอยู่ตั้งแต่ตรงกลางของตัวถังจนถึงส่วนท้าย กับการออกแบบรูปทรงสไตล์แฮทช์แบค ระยะโอเวอร์แฮงส่วนท้ายจึงสั้นกว่าตัวถังซีดาน ให้ความรู้สึกกระชับ และมีความสปอร์ท พิจารณาเส้นสายของส่วนท้ายแล้ว มีความลงตัว สันเหลี่ยมดูดุดันอย่างพอเหมาะ และเสา C ที่ไม่ลาดเทมากเกินไป

การจัดวางเบาะหลังลงตัวขึ้น

ตัวถังแบบแฮทช์แบคของ City Hatchback ยังส่งผลดีต่อภายในห้องโดยสาร โดยเฉพาะการวางตำแหน่งของเบาะหลัง ทำให้รถรุ่นนี้มีระยะช่วงขาที่มากกว่าตัวถังซีดาน (นับเป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะรถยนต์สไตล์แฮทช์แบคหลายรุ่นมักจะมีช่วงขาที่น้อยกว่าตัวถังซีดาน) ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังมีความสะดวกสบาย และโปร่งโล่ง อย่างไรก็ตาม เรามีความรู้สึกว่าช่วงศีรษะของผู้โดยสารเบาะหลังยังใกล้กับเสา C

อรรถประโยชน์ที่เหนือชั้น

นอกเหนือจากความสะดวกสบายของการโดยสารแล้ว เบาะหลังของ City Hatchback มีอรรถประโยชน์ที่หลากหลายดีมาก กับเบาะนั่งแบบ Ultra Seat ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย ได้แก่ Utility Mode พับพนักพิงของเบาะหลังได้แบนราบ (เราสังเกตว่า ตัวเบาะมีกลไกที่ทำให้การพับเบาะทำได้เรียบสนิท นับเป็นการออกแบบที่ได้รับความเอาใจใส่เป็นอย่างดี) Long Mode พับพนักพิงเบาะหลัง และพนักพิงเบาะหน้า (ถอดพนักพิงศีรษะออก) ให้มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน Tall Mode พับส่วนเบาะรองก้นของผู้โดยสารขึ้นมา รองรับการบรรทุกของทรงสูง เช่น ต้นไม้ หรือจักรยาน และ Refresh Mode พนักพิงเบาะหน้า (ถอดพนักพิงศีรษะออก) ให้เชื่อมต่อกับเบาะหลัง ช่วยให้ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถนั่งแบบเหยียดขาเพื่อการผ่อนคลายได้ (ฝั่งผู้ขับทำได้เช่นกัน) แน่นอนว่า...นี่คือ อรรถประโยชน์ที่รุ่นซีดานไม่สามารถทำได้เลย

ความจุสัมภาระท้ายทำได้ดีเช่นกัน

นอกเหนือจากการโดยสารที่มีอรรถประโยชน์หลากหลาย การบรรทุกสัมภาระของ City Hatchback ก็ทำได้น่าพอใจด้วย ส่วนหนึ่งมาจากรูปทรงของเสา C ที่ทำมุมค่อนข้างตั้งชัน สามารถบรรทุกสัมภาระทรงสูงได้ดีเกินคาด (เช่น กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่) เป็นจุดที่มีความสำคัญนอกเหนือจากพื้นที่บรรทุกสัมภาระเป็นระนาบเดียวกันหลังจากพับเบาะ เห็นได้จากรถแฮทช์แบคบางรุ่นมีตัวถังส่วนท้ายที่ลาดเทมาก แม้จะได้ประโยชน์ในแง่ของความปราดเปรียวของรูปทรง แต่ก็ลดทอนประสิทธิภาพการบรรทุกสัมภาระด้วย

เครื่องยนต์ 122 แรงม้า ตอบสนองดี

ขุมพลังของ Honda City Hatchback เป็นเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า (ในรุ่นทอพ RS ติดตั้งแพดเดิล ชิฟท์มาให้) อัตราเร่งถือว่าทำได้น่าพอใจ ตอบสนองดี รองรับการขับขี่ที่ความเร็วต่ำในตัวเมือง รวมถึงการใช้ความเร็วสูงบนทางไกล กับการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดี ระดับอีโคคาร์ เฟส 2 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ City Hatchback (ตามที่ผู้ผลิตระบุ) คือ 23.3 กม./ลิตร ต่างจาก City รุ่นซีดาน ที่ทำได้ 23.8 กม./ลิตร

ระบบรองรับที่ขับสนุกขึ้นเล็กน้อย

ทางผู้ผลิตระบุว่า City Hatchback จะถูกปรับแต่งระบบรองรับเล็กน้อย เพื่อให้มีความรู้สึกที่ขับสนุก จากการทดลองขับแล้ว เรามีความรู้สึกว่า ระบบรองรับไม่แตกต่างจากรุ่นซีดานมากนัก นั่นคือ ความนุ่มหนึบในระดับที่พอเหมาะ สำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก ตัวถังแบบแฮทช์แบคไม่ส่งผลต่อความแตกต่างมากนัก แต่ถือเป็นสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้วนับตั้งแต่ City ตัวถังซีดาน รองรับการใช้งานทั่วไปได้ดี นิ่ง และมั่นคงที่ความเร็วสูง (หากใครชอบการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะ แต่การบังคับเลี้ยวที่ดุดัน ควรจะปรับแต่งระบบบรองรับเพิ่มเติมเอาเอง)

สรุปเบื้องต้น: รถเล็ก ขับสนุก อรรถประโยชน์...เพียบ !

Honda City Hatchback เป็นอีกทางเลือกของรูปแบบตัวถังของสายพันธุ์ City ที่มีความน่าสนใจ ด้วยอรรถประโยชน์ที่คุ้มค่ากว่าตัวถังซีดาน การออกแบบเส้นสายของตัวถังส่วนท้ายถือว่าทำได้ดี และที่สำคัญ คือ อรรถประโยชน์ที่มีความหลากหลายกว่าเดิมมากของเบาะหลัง ทั้งในแง่ของการโดยสาร และการบรรทุกสัมภาระ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้รถรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม มีจุดสังเกตที่เหมือนกับรุ่นซีดาน นั่นคือ ระบบความปลอดภัยที่ให้มาพอเพียงตามมาตรฐานรถยนต์ยุคปัจจุบัน หากต้องการระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย มีติดตั้งในรถยนต์รุ่น City e:HEV เท่านั้น

ประเด็นเพิ่มเติม...การมาทดแทน Honda Jazz ? เดิมทีทาง Honda ของบ้านเราจะทำตลาดรถยนต์กลุ่ม บี-เซกเมนท์ สไตล์แฮทช์แบคด้วยรุ่น Jazz (แจซซ์) และรุ่นล่าสุดก็เปิดตัวไปแล้วในญี่ปุ่นที่งาน Tokyo Motor Show 2019 อย่างไรก็ตาม ไม่มีวี่แววของการเปิดตัว Jazz รุ่นใหม่ จนกระทั่งการมาถึงของ City Hatchback ราวกับว่ามาแทนที่ Jazz จากการสอบถามกับทางผู้ผลิต มีการเผยเพียงว่า ณ ปัจจุบัน รูปแบบการทำตลาดจะเป็นลักษณะนี้ไปก่อน นั่นคือ City สำหรับซีดาน และ City Hatchback โอกาสการทำตลาดของ Jazz รุ่นใหม่ ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ (แต่ก็ไม่ถึงกับปฏิเสธว่าจะไม่มาเลย !?!)

ประเด็นเพิ่มเติมอีกอัน...โอกาสของ City Hatchback e:HEV ? อย่างที่รู้กันว่า Honda City Hatchback (ราคา 599,000-749,000 บาท) ถูกเปิดตัวพร้อมกับรุ่นไฮบริด City e:HEV ด้วยราคาที่สูงกว่า และออพชันที่มากกว่า จึงมีคำถามว่า...โอกาสการทำตลาดกับ City Hatchback มีมากน้อยแค่ไหน ? จากการสอบถามกับทาง Honda บ้านเรา มีการเผยเพียงว่า ทาง Honda มีนโยบายการเพิ่มรถยนต์ไฮบริดมากขึ้นเรื่อยๆ นับแต่นี้เป็นต้นไป แต่จะเป็นรุ่นอะไรบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นรถยนต์รุ่นไหนในตอนนี้