MG มั่นใจตลาดไทย เตรียมขยายกำลังผลิตแบทรถไฟฟ้า

MG (เอมจี)  มั่นใจตลาดรถยนต์เมืองไทย เตรียมขยายกำลังการผลิตแบทเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่ม พร้อมรุกตลาดด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ และเทคโนโลยี ประเดิมต้อนรับปี 2564 เปิดตัว Extender (เอกซ์เทนเดอร์) กระบะพันธุ์ยักษ์ โฉมใหม่ สมาร์ทพิคอัพที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ดุดัน ทรงพลัง พร้อมเทคโนโลยีครบครัน ให้ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า

จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า MG มั่นใจว่าจากสถานการณ์ของโรคระบาด COVID -19 ที่ขณะนี้ได้มีการคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคแล้วจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศไทย และทั่วโลกฟื้นตัวขึ้น ซึงคาดว่าจะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวด้วย หลังจากที่ปีที่แล้วอุตสาหกรรมยานยนต์มีอัตราเติบโตที่ลดลงจากผลกระทบของโรค COVID-19 ดังนั้น MG จึงมีความพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะการลงทุนในส่วนของความสำเร็จของรถยนต์ไฟฟ้าของ MG ที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น "เดิมโรงงานผลิตแบทเตอรีรถไฟฟ้าของ MG มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 300-400 ลูก/เดือน ถ้าอุตสาหกรรมเติบโตและรถยนต์ไฟฟ้าก็ถือว่ามีการเติบโตอย่างมาก MG มีความพร้อมที่จะขยายกำลังการผลิตอีกเท่าตัวหรือประมาณ 700-800 ลูก/เดือน" อีกส่วนหนึ่งจะเป็นการลงทุนในส่วนของสถานีชาร์จอัดประจุไฟฟ้า ที่ MG ตั้งเป้าที่จะขยายในปีนี้ 500 แห่ง แต่ถ้าหากรถยนต์ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นก็อาจจะขยายเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เห็นได้จากตลาดรถยนต์ 2 เดือนที่ผ่านมามองเห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการหลังจากที่ปีที่แล้วตลาดเกิดความชะงักจากโรค COVID-19 สำหรับกลยุทธ์หลังจากนี้ MG จะมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่อกสู่ตลาด เน้นที่เทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยจะเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มากยิ่งขึ้น พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า MG ก้าวเข้าสู่ตลาดรถกระบะในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัว MG Extender  รุ่นแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี พศ. 2562 โดยมาพร้อมแนวคิด “กระบะพันธุ์ยักษ์ ให้มากกว่าความแกร่ง” ด้วยมิติตัวถังขนาดใหญ่กว่า ทำให้ภายในห้องโดยสารของ MG Extender  มีพื้นที่ที่กว้างขวางนั่งสบาย และกระบะตอนท้ายที่ใหญ่สามารถบรรทุกสัมภาระได้มาก และทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าที่เหนือกว่า นอกจากนี้ยังเป็นรถกระบะอัจฉริยะ หรือ Smart Pickup คันแรกของประเทศไทยจากการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ  I-SMART สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย สมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอลเรล เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ให้ทั้งพละกำลังที่โดดเด่น การประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ อีกทั้งยังให้ความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension พร้อมการติดตั้งระบบความปลอดภัยครบครัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นรถกระบะที่มาพร้อมระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อในเกือบทุกรุ่น พร้อมออพชันต่างๆ ที่ให้มากกว่ารถทุกรุ่นเมื่อเทียบในระดับราคาเดียวกัน  ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเฉลี่ย 600-700 คัน/เดือน สำหรับ New MG Extender  โฉมใหม่นี้ ยังคงถ่ายทอดความโดดเด่นเหล่านั้นไว้อย่างครบครัน พร้อมการพัฒนาให้มีความลงตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านของเทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า สามารถส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า ·       เทคโนโลยี (Technology)-New MG Extender ยังคงความเป็นกระบะอัจฉริยะ หรือ Smart Pickup อย่างครบครัน ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะIi-SMART พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ระบบตรวจสอบสถานะของรถยนต์ ระบบนำทางแบบ Real Time และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อระบบ Apple Car Play นอกจากนี้ ยังมอบความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ที่มีระบบช่วยผู้ขับขี่ที่ทำงานประสานกันมากถึง 9 ระบบ อีกทั้งยังยังติดตั้งกล้องมองรอบคัน หรือ Around View Camera ทั้งนี้ ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรคฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรคด้วยอีเลคทรอนิคส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning System) ระบบตรวจสอบความผิดปดติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ·    ความทันสมัย (Fashion)-New MG Extender เป็นรถกระบะที่มีการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยกระจังหน้าดีไซจ์นใหม่ตกแต่งด้วยโครเมียมให้ความรู้สึกดุดัน ทรงพลัง ชุดไฟหน้าได้รับการจัดวางใหม่ ตั้งแต่การจัดวาง Day Time Running Light ไว้ด้านบน สวยงามโดดเด่น พร้อมชุดไฟส่องสว่างเป็นแบบ LED Projector จัดวางเรียงเป็น 3 ระดับตามแนวตั้งด้านข้างของกันชนหน้า โดยไฟส่องสว่างลดระดับต่ำลงกว่าเดิมทำให้ไม่รบกวนรถที่สวนทางมาแต่ยังคงให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ สำหรับชุดไฟท้ายได้รับการออกแบบใหม่แบบ Seamless Design มีความกลมกลืนไปกับฝากระบะท้ายพร้อมติดตั้งไฟแบบ LED สวยงาม โดดเด่นและสะดุดตา พร้อมล้ออัลลอยแบบ Bi Color ขนาด 18 นิ้ว สำหรับการตกแต่งภายในเสริมความพรีเมี่ยมด้วยการตกแต่งแบบสีทูโทน สีน้ำตาลสลับสีดำ คอนโซล และแผงประตูตกแต่งพิเศษด้วยวัสดุแบบ Soft Touch พร้อมเบาะนั่งโอบกระชับเข้ากับสรีระโดยเบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้าเอนได้ถึง 150 องศา ด้วยการตกแต่งเบาะด้วยวัสดุลายคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มอารมณ์สปอร์ทมากยิ่งขึ้น ·       ความคุ้มค่า (Value)-New MG Extender ให้ความคุ้มค่าที่เหนือกว่า ด้วยค่าบำรุงรักษาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกันโดยระยะทาง 100,000 กม. แรก จะมีค่าบำรุงรักษาเพียงไม่ถึง 20,000 บาท นอกจากนี้ยังให้การรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะ ตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร * อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น New MG Extender มีทั้งหมด 8 รุ่นย่อย โดยแบ่งออกเป็นกระบะตอนครึ่ง (Giant Cab) และกระบะ 4 ประตู (Double Cab) ครอบคลุมทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ 6 0y's;t มาพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน สีแดง และสีเทา มีราคาเริ่มต้นที่ 559,000-1,039,000 บาท ปัจจุบัน  MG มีศูนย์บริการมาตรฐานกว่า 150 แห่ง สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมบริการหลังการขาย Passion Service ที่ครอบคลุมบริการที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นบริการ Mobile Service ที่สามารถตรวจเชคระยะได้ถึงที่บ้าน บริการรถสำรองระหว่างซ่อม และบริการ Quick Service รวมไปถึงบริการจัดส่งอะไหล่แบบเร่งด่วน เพิ่มความสะดวกสบายและมั่นใจในการใช้งานรถยนต์ MG New MG Extender จะเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่างเป็นทางการ ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 42 ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม-4 เมษายน พศ. 2564 ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามรถทดลองขับได้ที่โชว์รูมทั่วประเทศ ในวันที่ 1 เมษายน พศ. 2564 เป็นต้นไป และ MG จะเริ่มทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้า ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด