ผลสำรวจความน่าเชื่อถือของรถยนต์ยุคปัจจุบัน

 

รายงานข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า สำนักสำรวจทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ J.D.Power ประกาศผลการสำรวจ 2021 U.S. Vehicle Dependability Study (VDS) ผลการสำรวจปีที่แล้ว พบว่า รถยนต์ในปัจจุบัน มีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่พบจากเจ้าของรถลดลง 10 %

Dave Sargent รองประธานด้านยานยนต์ J.D.Power ระบุว่า “ผลการสำรวจก็เป็นอย่างที่ทราบกันดี” และ“ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างพากันเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรถยนต์ของตนเอง แต่ยังมีปัญหาจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังคงอยู่เช่นเดิม” ผลการศึกษา ซึ่งนับเป็นปีที่ 32 พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจากรถยนต์ 100 คัน ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา จากการสำรวจผู้บริโภคที่ใช้รถมาแล้ว 3 ปี มีความน่าเชื่อถือมากกว่าเดิม และพบปัญหา 177 ประเด็น ที่สามารถแยกออกได้เป็น 8 กลุ่มใหญ่ๆ อาทิ เครื่องเสียง/การสื่อสาร/อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง/ระบบนำทาง, เครื่องยนต์/ระบบขับเคลื่อน, ปัญหาภายนอก, ปัญหาภายในตัวรถ, การควบคุม/การแสดงผล, การขับขี่, ความร้อน, การระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งเบาะนั่ง การสำรวจรถยนต์รุ่นปี 2561 กระทำขึ้นเป็นครั้งแรก จากรถยนต์ใหม่ ที่ได้ทำการปรับปรุงคุณภาพมาโดยตลอด และได้รับความน่าเชื่อถืออย่างมาก พบว่า 6 ใน 10 ยี่ห้อ ยังคงได้คะแนนสูงเช่นเดียวกับที่เคยได้รับจากการสำรวจความน่าเชื่อถือในปี 2564 Dave Sargent ระบุว่า “ในปัจจุบัน รถที่มีอายุ 3 ปี  ยังมีคุณภาพที่สูง และน่าเชื่อถือกว่ารถรุ่นเดิมๆ” และ “ผู้บริโภคส่วนใหญ่ ยังไม่พบปัญหาการซ่อมใหญ่ หรือเรื่องจุกจิกอื่นๆ แม้ว่าเทคโนโลยีบางประเภท อาจทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หากผู้บริโภคไม่สามารถยอมรับได้ นั่นคือ ความไม่น่าเชื่อถือของรถรุ่นนั้นอีก แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ จะมีความจงรักภักดีต่อตราสินค้า และตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้น ให้ลุล่วงลงไป” ข้อมูลใหญ่ๆ ที่พบจากการศึกษาในปี 2564 นี้

• ความน่าเชื่อถือของรถยนต์เพิ่มขึ้นถึงระดับดีมาก ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม คือ 121 ปัญหาต่อรถยนต์ 100 คัน นับเป็นค่าคะแนนที่ต่ำสุดของการศึกษา และมีการปรับปรุงเพิ่มขึ้น 10 % จากเดิมที่มี 134 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน ในปี 2563
• รถบรรทุก และรถ เอสยูวี ยังมีหัวข้อที่ต้องปรับปรุง เพราะปัจจุบัน การแบ่งประเภทรถยนต์ เริ่มแบ่งซอยย่อยลงตามความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่ยอดขายรถรถบรรทุก และรถ เอสยูวี มากถึง 80 % ของยอดขายรถยนต์ จึงเป็นความจำเป็นสำหรับผู้ผลิต ที่จะค้นหาปัญหาของรถ 2 ประเภทนี้ เพื่อพัฒนาให้ได้ความน่าเชื่อถือเช่นเดียวกับรถยนต์นั่ง
• รถจากเกาหลี และญี่ปุ่น สามารถทำคะแนนได้ดี เจ้าของรถจากอาเซียน พบปัญหาเพียง 115 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา ที่มีปัญหา 126 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน ที่ต้องยกความดีให้กับรถยนต์จากเกาหลี Hyundai, Kia และ Genesis ที่ทำค่าเฉลี่ยเพียง 99 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน ขณะที่รถยนต์จากญี่ปุ่น พบปัญหา 118 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน
• ปัญหาที่แยกย่อยเป็น 8 กลุ่มใหญ่ๆ ได้รับการปรับปรุง โดยเฉพาะ เครื่องเสียง/การสื่อสาร/อุปกรณ์เพื่อความบันเทิง/ระบบนำทาง พบว่ามีการปรับปรุงขึ้น แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่ได้รับเสียงบ่นมากที่สุด “นับแต่เริ่มเป็นเจ้าของรถยนต์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีเสียงบ่นเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้” Dave Sargent ระบุว่า “มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่ติดตั้งภายในรถ โดยเฉพาะแอพพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟน มีปัญหาเพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคบางรายถึงกับเลิกใช้แอพพลิเคชันของระบบภายในรถ เพราะทำให้เกิดความวุ่นวาย และเสียงบ่นจำนวนมากก็มาจากระบบเหล่านี้ ที่ผู้ผลิตควรรับฟังปัญหาของผู้บริโภคบ้าง”
• รถรุ่นที่น่าเชื่อถือมากที่สุด คือ Porsche 911 (ปีที่ 3 ติดต่อกัน)
• และนับเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจยี่ห้อ Tesla พบว่า มีค่าคะแนน 176 ปัญหา/รถยนต์ 100 คัน จากการคำนวณที่ใช้พื้นฐานของการสุ่มตัวอย่าง เนื่องจาก Tesla ไม่อนุญาตให้มีการสำรวจผู้บริโภคใน 15 มลรัฐ จึงใช้วิธีคำนวณจากการสุ่มตัวอย่างเพียง 35 มลรัฐเท่านั้น