All-New Lexus NX (เลกซัส เอนเอกซ์ ใหม่) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ได้ถูกดีไซจ์นให้หรูเฉียบยิ่งขึ้น ทั้งภายนอก และภายใน บนพแลทฟอร์มใหม่ TNGA-K พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก และความปลอดภัย โดยเป็นรุ่นแรกของค่าย ที่ได้รับขุมพลังพลักอิน-ไฮบริด ใหม่ล่าสุดAll-New Lexus NX ใหม่ ถูกพัฒนาเป็นเจเนอเรชันที่ 2 โดยใช้แนวคิด Lexus Driving Signature ตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมในทุกมิติ โดยมีความยาว 4,660 มม. (+20 มม.) กว้าง 1,865 มม. (+20 มม.) สูง 1,640 มม. (+5 มม.) และความยาวฐานล้อ 2,690 มม. (+30 มม.) มาพร้อมกับการปรับดีไซจ์นใหม่รอบคัน กระจังหน้า Spindle Grille ตะแกรงดักลมสีดำเงา โคมไฟหน้า และไฟ LED Daylight ดีไซจ์นโฉบเฉี่ยวทันสมัย ด้านข้างตัวถังมาพร้อมเส้นสายที่เฉียบคม รวมถึงไฟท้าย LED ดีไซจ์นใหม่อันโดดเด่น พร้อมโลโก Lexus ที่เป็นรูปแบบอักษร แทนการใช้โลโกตัวแอลแบบเดิม ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบใหม่หมดภายใต้แนวคิด Tazuna Concept ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวรถ สะดวกกับการใช้งานด้วยระบบ Lexus Interface พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส ขนาด 9.8 นิ้ว และ 14 นิ้ว ตามรุ่นย่อย อีกทั้งยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียงที่สามารถเริ่มต้นสั่งงานด้วยคำพูดว่า “Hey Lexus” ระบบอินโฟเทนเมนท์นอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แล้ว ยังรองรับระบบ Baidu CarLife ของจีนอีกด้วย มาพร้อมระบบเสียง Lexus Premium Sound System ด้วยลำโพง 10 จุด หรือ Mark Levinson Premium Surround Sound System พร้อมลำโพง 17 จุด หลังคาพาโนรามิค กระจกมองหลังแบบดิจิทอล, จอ Head-up Display, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย, ฮีเตอร์อุ่นเบาะนั่งด้านหลัง, ไฟส่องสว่างที่สามารถเลือกธีมลูกเล่นแสง ทั้งแสงฝนตก แสงน้ำตก แสงพระอาทิตย์ตกดิน และอื่นๆ อีก 14 ธีม รวมถึงไฟส่องรอบห้องโดยสารที่เลือกได้ถึง 64 สี Lexus NX เจเนอเรชันที่ 2 นี้ เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่ได้รับระบบขับเคลื่อนแบบพลัก-อิน ไฮบริด มาประจำการ คือ รุ่น NX 450h plus เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ให้พละกำลัง 302 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมล้อหลัง และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 18.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ได้รับการพัฒนามาจาก Toyota RAV4 (โตโยตา รัฟโฟร์) อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลา 6.0 วินาที สามารถขับได้ระยะทาง 58 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง การชาร์จไฟ หากชาร์จผ่านเครื่องชาร์จมาตรฐาน 3.3 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-100 % ภายในเวลา 4.5 ชั่วโมง ขณะที่ใช้เครื่องชาร์จ 6.6 กิโลวัตต์ ก็จะใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full-Time AWD ที่ได้รับการพัฒนาการกระจายแรงบิดแต่ละล้อให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน ขณะที่รุ่น F Sport ยังเพิ่มเติมด้วยระบบปรับการทำงานของช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension (AVS) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบ Predictive Efficient Drive ที่ช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่, คาดการณ์สภาพจราจรด้านหน้า และวิเคราะห์รายงานการจราจรแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จ และการคายประจุของแบทเตอรีไฮบริด รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนพลังงานไฟฟ้าในระหว่างเบรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขุมพลังไฮบริดก็ยังคงมีจำหน่ายเช่นเดิมด้วยชื่อรุ่น NX 350h ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดรุ่นที่ 4 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งให้กำลังมากกว่าระบบในรุ่นปัจจุบัน 22 % โดยให้กำลัง 242 แรงม้า และเพิ่มอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ขึ้น 15 % เป็น 7.7 วินาที ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10 % นอกจากนี้ ยังมีขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร รุ่นใหม่ ในชื่อรุ่น NX 250 ให้สมรรถนะ 206 แรงม้า แรงบิด 249 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ด้านระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งขับล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ใน 8.2 วินาที และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีอัตราเร่งช้ากว่าเล็กน้อยที่ 8.6 วินาที อีกเครื่องยนต์หนึ่งจะเป็นรุ่น NX 350 แบบเบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลัง 279 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตัน-เมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ใน 6.8 วินาที Lexus NX ใช้พแลทฟอร์ม TNGA-K เดียวกันกับ RAV4 โฉมใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมโครงสร้างด้วยเลเซอร์ ทำให้พแลทฟอร์มใหม่นี้ นอกจากจะมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำแล้ว ยังมีความแข็งแรง และทนทานยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิมถึง 91 กก. และยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Lexus Safety System Plus 3.0 เป็นมาตรฐาน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Lexus NX ยกระดับความปลอดภัยใหม่ด้วย Digital Latch พร้อมเทคโนโลยี Safe Exit Assist ที่มาพร้อมระบบตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวขณะเปิดประตู จนถึงคนเดินเท้า จักรยาน และมอเตอร์ไซค์ รวมถึงสามารถทำหน้าที่ช่วยเปิดประตูอัตโนมัติให้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในระหว่างออกจากรถได้อีกด้วย ระบบปรับไฟสูง/ต่ำอัจฉริยะ, ระบบแจ้งเตือนสัญลักษณ์จราจร, ระบบป้องกันรถออกนอกเลน, ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ที่มาพร้อมระบบตรวจจับตำแหน่งรถที่วิ่งมาด้านข้าง เพื่อประเมินว่ารถจะเข้าแซง พร้อมระบบหักเลี้ยวพวงมาลัยฉุกเฉิน, ระบบเบรคอัตโนมัติเมื่อมีรถ หรือคนวิ่งตัดผ่านแยก, ระบบควบคุมความเร็วแบบไดนามิค พร้อมระบบช่วยจัดการความเร็วอัตโนมัติในระหว่างเข้าโค้ง รวมถึงยางแบบ Extended Mobility Tire (EMT) ที่สามารถขับต่อไปได้อย่างปลอดภัยอีกระยะหนึ่งหากลมรั่วออก Lexus ได้เผยโฉมเวอร์ชัน F Sport ที่มาพร้อมกับการเสริมชุดแต่ง กระจังหน้าลายใหม่ กันชนแบบสปอร์ท ล้ออลูมิเนียมสีดำเงาขนาด 20 นิ้ว รวมถึงได้รับชุดชอคอับ และระบบสะเทือนแบบแอคทีฟ, เบาะสไตล์สปอร์ทหุ้มหนัง NuLuxe, แป้นเหยียบอลูมิเนียม, พวงมาลัยแบบสปอร์ท, รวมถึงวัสดุตกแต่งอลูมิเนียมกราไฟท์สีเข้ม เป็นต้น Lexus NX โฉมใหม่ล่าสุดนี้ จะเข้าสู่สายการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 3 และจะมีการประกาศราคาเมื่อใกล้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าราคาเริ่มต้นของ NX 250 จะใกล้เคียงกับ NX 300 รุ่นปัจจุบันที่ 40,085 เหรียญสหรัฐฯ โดย NX 350 แบบเทอร์โบชาร์จ และ NX 350h ไฮบริด คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ และ NX 450h Plus 50,000 เหรียญสหรัฐฯ