Honda (ฮอนดา) วางแผนสร้าง NSX Type S (เอนเอสเอกซ์ ไทพ์ เอส) ขึ้น จำกัดเพียง 350 คันทั่วโลก โดยแบ่งวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ภายใต้แบรนด์ Acura (อคูรา) จำนวน 300 คัน ในประเทศญี่ปุ่น 30 คัน และอีก 20 คัน สำหรับตลาดในประเทศอื่นๆNSX Type S เป็นการนำพื้นฐานของ Acura NSX เจเนอเรชันที่ 2 ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 มาพัฒนาต่อยอด โดยมีการปรับปรุงในเรื่องชุดพาร์ทใหม่ เพื่อให้ได้แอโรไดนามิคที่ดียิ่งขึ้น ไฟหน้าถูกแทนที่ด้วยไฟหน้าสีดำ และกันชนที่ดุดันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมปรับขนาดช่องดักอากาศให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนมาใช้สปอยเลอร์หน้า กาบบันไดข้าง สปอยเลอร์หลัง และหลังคาที่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยลดน้ำหนัก และปรับจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำลง ด้านท้ายรถมีการเพิ่มชุดดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์ใหม่ เพื่อปรับทิศทางการไหลเวียนลมด้านท้ายให้ออกจากใต้ท้องรถได้รวดเร็วขึ้น และยังเพิ่มพื้นที่หม้อน้ำด้านหน้าเพื่อให้มีการระบายความร้อนที่ดีขึ้นอีกด้วย NSX รุ่นพิเศษนี้ยังมาพร้อมล้อ Forged น้ำหนักเบาสีพิเศษ ที่มีขนาดความกว้างล้อหน้าเพิ่มขึ้นอีก 10.1 มม. และล้อหลังเพิ่มขึ้น 20.3 มม. ส่งผลให้ Acura NSX Type S มีเสถียรภาพในการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น และสีตัวถังใหม่ Gotham Gray (เพิ่มเงินอีกประมาณ 2 แสนบาท) สีนี้มีขายในจำนวนจำกัดเพียง 70 คัน จาก 350 คัน ภายในนั้นมีการปรับแต่งด้วยหนัง Alcantara ตามจุดต่างๆ พร้อมประทับตราโลโก Type S ที่คอนโซลหน้า โลโก NSX ที่พนักพิงเบาะนั่ง ส่วนอื่นๆ นั้นยกมาจากรุ่นมาตรฐาน ทั้งจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 7″ และจอแสดงผลแบบดิจิทอล NSX Type S เป็น NSX ที่ทรงพลังที่สุดตั้งแต่ Honda เคยผลิตมา ด้วยเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.5 ลิตร เทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ผลิตกำลังรวมกันสูงสุดที่ 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 667 นิวตัน-เมตร มีกำลังมากกว่ารุ่นสแตนดาร์ด 27 แรงม้า และมีแรงบิดเพิ่มขึ้น 22 นิวตัน-เมตร ในส่วนของระบบ Hybrid ได้มีการเพิ่มความจุแบทเตอรีใหม่ เพิ่มขึ้น 20 % ให้ประสิทธิภาพในการปล่อยกำลังไฟเพิ่มขึ้นอีก 10 % ขุมพลังที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากชุดเทอร์โบชาร์เจอร์ใหม่ ที่นำเทคโนโลยีมาจากรถแข่ง NSX GT3 Evo ทำให้มีแรงดันบูสต์เพิ่มขึ้นเป็น 16.1 PSI รวมถึงหัวฉีดใหม่ที่เพิ่มอัตราการไหลเวียน +25 % ร่วมกับอินเตอร์คูเลอร์ใหม่ มาพรัอมเกียร์อัตโนมัติ DCT 9 จังหวะ ไม่เพียงแต่ความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์จะเร็วขึ้นกว่าเดิม 50 % เท่านั้น แต่ยังเพิ่มโหมด Rapid Downshift ที่ช่วยให้สามารถข้ามเกียร์ได้เมื่อคุณต้องการ และมีเทคโนโลยี Sport Hybrid SH-AWD ที่ปรับระบบให้ประมวลผลทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งให้ดียิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกับระบบช่วงล่าง Adaptive Suspension อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนนที่ดีด้วยชุดยาง Pirelli P-Zero ขนาด 245/35 ZR19 ที่ล้อหน้า และ 305/30 ZR20 สำหรับล้อคู่หลัง ส่งผลให้มีการยึดเกาะมากขึ้น 6 % เมื่อเทียบกับยางมาตรฐาน สามารถเลือกแพคลดน้ำหนัก โดยเปลี่ยนระบบเบรคเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบเซรามิค ฝาครอบเครื่องยนต์คาร์บอนไฟเบอร์ และการตกแต่งภายในอื่นๆ ซึ่งสามารถลดน้ำหนักได้ 26.2 กก. จากรุ่นปกติ Honda NSX Type S จะเป็นซูเพอร์คาร์ขุมพลังไฮบริดรุ่นสุดท้าย ก่อนที่ Honda จะปิดตำนาน NSX ลง และเปลี่ยนไปสู่ยุคสปอร์ทคาร์ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอนาคต โดยจะมีขายในญี่ปุ่นแค่ 30 คัน ในราคา 27.95 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย ประมาณ 8.2 ล้านบาท