รายงานข่าวจากกรุงโตเกียว ระบุว่า บริษัท Arthur D. Little ในญี่ปุ่น รายงานผลสำรวจพนักงานในสายการผลิต โดยเฉพาะเครื่องยนต์สันดาปภายใน ในอุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่น มีนโยบายที่จะให้ผู้ผลิต เปลี่ยนแปลงการผลิตจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปเป็นรถไฟฟ้า ภายในปี 2593แม้ว่าค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จะใช้งานเครื่องยนต์สันดาปภายใน ทั้งในรถยนต์ และในอุปกรณ์หลายอย่าง นับเป็นเวลากว่าศตวรรษที่ผ่านมา แต่การเปลี่ยนแปลงจากการผลิตรถยนต์สันดาปภายใน ก็ย่อมกระทบกระเทือนกับสายการผลิตเครื่องยนต์ ที่แต่ละบริษัท ต่างก็พัฒนาและวิจัยกันมาอย่างยาวนาน และเชื่อมั่นว่า นโยบายครั้งใหม่นี้ จะกระทบถึงพนักงานในสายการผลิตเครื่องยนต์ นับพันนับหมื่นราย ในอุตสาหกรรมรถยนต์ เฉพาะในญี่ปุ่นเอง ตามรายงานระบุว่า กำหนดเส้นตายปี 2593 จะทำให้พนักงานในสายการผลิตเครื่องยนต์ ต้องตกงาน ประมาณ 84,000 คน หรือมากกว่า 10 % ของพนักงานในสายการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ ทั้งหมดประมาณ 686,000 คน บรรดาผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างพากันเตรียมต้วเพื่อรองรับผลจากนโยบายดังกล่าว โดย Honda Motor ออกประกาศในโรงงานสายการผลิตเครื่องยนต์ ที่ Moka ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว โดยแจ้งพนักงานให้ทราบว่า สายการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะปิดตัวลงในปี 2593 เพื่อปรับเปลี่ยนเป็นการผลิตรถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยพนักงานประมาณ 9,000 คน จะถูกโยกย้ายไปอยู่ในสายการผลิตอย่างอื่นแทน Honda Motor ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะยกเลิกสายการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ภายในปี 2583 โดยรถรุ่นใหม่ๆ จะเป็นรถไฟฟ้า หรือ Fuel Cell พลังงานไฮโดรเจน จึงจำเป็นต้องยกเลิกสายการผลิตเครื่องยนต์ ภายในสิ้นปีดังกล่าว โดยมอบข้อเสนอการออกจากงานก่อนกำหนด สำหรับพนักงานที่อายุ 55 ปี และมากกว่า โดยปิดประกาศบนแผงแจ้งข่าวสาร และมีพนักงานตอบรับข้อเสนอดังกล่าว มากกว่า 2,000 ราย หรือประมาณ 5 % ของพนักงานประจำ ขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน จะใช้ชิ้นส่วนในการประกอบประมาณ 30,000 ชิ้น แต่รถไฟฟ้า ต้องการชิ้นส่วนใช้งานเพียงครึ่งเดียว ความแตกต่างส่วนใหญ่ จะอยู่ที่ชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ภายในเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มี ลูกสูบ, สปริง, เซนเซอร์ และแหวนประเภทต่างๆ ประกอบกันซึ่งเป็นหัวใจของเครื่องยนต์มาตรฐาน ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลก ต่างพากันเก็บความลับของการผลิตเครื่องยนต์ นับแต่การพัฒนาจากต้นทางจนไปถึงสายการผลิต โดยค่ายใหญ่ๆ ต่างก็สร้างความได้เปรียบและผลกำไรในการผลิตเครื่องยนต์อย่างมาก ขณะที่ผู้ผลิตรายเล็กๆ ทำกำไรได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำนักวิจัย Tokyo Shoko Research ระบุว่าในญี่ปุ่น มีผู้ผลิตชิ้นส่วน เทียร์-1 ประมาณ 7,500 ราย ส่วนผู้ผลิตใน เทียร์-2 มีอยู่ราว 15,000 ราย ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ มักเป็นผู้ผลิตในแบบจำเพาะ ที่มีพนักงานไม่มากนัก โดยบรรดาชิ้นส่วนเหล่านี้ มีมูลค่าอันดับ 5 ของยอดการส่งออกในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งหมด ในด้านรถไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยเพลาขับทำงานด้วยไฟฟ้า (e-Axels) ที่ประกอบด้วย มอเตอร์, เครื่องแปลงไฟ อินเวอร์เตอร์ และชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ใช้ในการประกอบน้อยกว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ดังนั้น การเกิดของรถไฟฟ้า จะช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพ น้องใหม่ต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนมาสู่อุตสาหกรรมรถไฟฟ้าได้โดยง่าย ผู้ผลิตรายเดิมๆ รวมทั้งผู้ผลิตรายใหม่ จะสนใจไปที่การออกแบบ และพัฒนาซอฟท์แวร์ ที่สามารถว่าจ้างผู้ผลิตรายย่อย อันจะทำให้เกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ ในอุตสาหกรรมรถยนต์ Hon Hai Precision Industry ผู้ผลิตจากไต้หวัน ที่โด่งดังจากการประกอบสมาร์ทโฟน Apple หรือรู้จักกันในชื่อ Foxconn ก็ประกาศตัวว่าพร้อมจะรับจ้างออกแบบรถไฟฟ้า รวมทั้งพัฒนาซอฟท์แวร์ อันจะทำให้ผู้ผลิตรถไฟฟ้า สามารถผลิตออกจำหน่ายได้ โดยไม่ต้องมีโรงงานของตนเอง Ifo Institute for Economic Research ในมิวนิค รายงานว่า เหตุการณ์ในลักษณะคล้ายๆ กัน ก็ได้เกิดขึ้นแล้วในเยอรมนี ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์รายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงสู่รถไฟฟ้า โดยภายในปี 2573 ประเมินว่า จะมีพนักงานในสายการผลิตประมาณ 215,000 คน ที่ได้รับผลกระทบ จากจำนวนพนักงานในสายการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในประมาณ 613,000 ราย ในปี 2562 ซึ่งหมายถึงพนักงานราว 40 % ของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ขณะเดียวกัน ราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ชุดแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน คือ ลิเธียม คาร์บอเนท ในสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็มีราคาสูงขึ้นเมื่อเดือนเมษายน นับเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 30 เดือน ขณะที่ ทองแดง ที่ใช้ในการผลิตมอเตอร์ ก็มีราคาสูงติดอันดับเป็นครั้งแรก ในรอบศตวรรษ เมื่อเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับ นีโอไดเมียม วัสดุหายากบนโลก ที่ใช้ในการผลิตแม่เหล็กของมอเตอร์ ก็พุ่งสูงขึ้นกัน รวมทั้งในอนาคตความต้องการก็เพิ่มมากกว่า 6 เท่า ในปี 2583 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาของปีที่แล้ว ส่วนการใช้งานลิเธียม และทองแดง ก็มีใช้งานในอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์หลายชนิด อันจะทำให้ราคาของอุปกรณ์เหล่านั้น เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน