ธุรกิจ
Mitsubishi ฉลอง 60 ปี ปลูกป่า 20 ไร่
โมริคาซุ ชกกิ ประธานคณะกรรมการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และประธานมูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศ ไทย กล่าวว่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุนเรามาโดยตลอดระยะเวลา 60 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อเป็นการสานต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงสังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเพื่อความเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงได้มีการจัดตั้ง “มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย” ขึ้นในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เพื่อขับเคลื่อน และพัฒนาสังคมใน 3 ด้านหลักสำคัญ ได้แก่ 1) สิ่งแวดล้อม 2) สุขภาพ ชีวอนามัย และ 3) การศึกษา และจริยธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพันธสัญญา และความมุ่งมั่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ในการดำเนินงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว ภายใต้ปณิธาน “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย”
“กิจกรรมปลูกป่า ถือเป็นพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเพื่อความยั่งยืน โดยโครงการ “ปลูกป่า 60 ไร่” เป็นความร่วมมือระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ มูลนิธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กรมป่าไม้ และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. สำหรับกิจกรรมปลูกป่าในวันนี้ เป็นส่วนแรกของโครงการปลูกป่า 60 ไร่ โดยจะมีการปลูกต้นไม้นานาชนิด อาทิ มะค่า พะยูง ตะเคียน ยางชาด สำรอง มะฮอกกานี เป็นต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 20 ไร่ ณ ป่าชุมชนบ้านอ่างกระพงศ์ อำเภอ บ่อทอง จังหวัด โดยเราหวังว่ากิจ กรรมนี้จะมีส่วนช่วยสร้างจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมให้ทุกคนในสังคมให้หันมาร่วมกันดูแลผืนป่า ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ช่วยลดโลกร้อนอีกทาง โดยบริษัทฯ มีแผนจัดกิจกรรมปลูกป่าอีก 40 ไร่ ที่จังหวัด สระแก้วอีกด้วย”
อูฐ เชาวน์ทวี ผู้แทนกรมป่าไม้ กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศมีจำนวน 102,484,072.71 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 31.68 ของประ เทศ จากนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่กำหนดให้มีพื้นที่ป่าไม้ 40 % ของพื้นที่ประเทศไทย การจะรักษาผืนป่าไทยให้ได้ครบตามเป้าหมาย จึงมุ่งเป้าไปที่ป่าเศรษฐกิจ และป่าชุมชน โดยสนับสนุนให้คนหันมาสนใจปลูกป่าเศรษฐกิจมากขึ้นในพื้นที่ของตน หรือพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ดังนั้น กรมป่าไม้ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของชาติ จึงต้องการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชน ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการปลูกป่า จะก่อให้เกิดความรัก และหวงแหนป่าไม้
“กิจกรรมปลูกป่านี้ กรมป่าไม้จะนำความรู้ที่มีมาให้คำแนะนำ ตั้งแต่การเริ่มปลูกต้นไม้ไปจนถึงการดูแลรักษาต้นไม้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่มาปลูก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้มีค่า ได้แก่ มะค่า พะยูง ตะเคียน ยางนา ประดู่ กระถินเทพา ซึ่งเมื่อโตขึ้นชุมชนสามารถนำไม้มาใช้ประโยชน์ทั้งจากเนื้อไม้ หรือนำเศษไม้มาประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว นอกจากนี้ยังมีพรรณไม้ที่ชุมชนปลูกแล้วสามารถนำมาบริโภค ได้แก่ ไผ่ตง สะเดา ขี้เหล็ก สะตอ ซึ่งนอกจากนำมาบริโภคภายในครัวเรือนแล้ว ชุมชนยังสามารถเก็บผลผลิตมาจำหน่ายเป็นรายได้เสริมได้อีกทางด้วย”
เกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กล่าวว่า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และกรมป่าไม้ ได้ร่วมกันดำเนินโครงการภาคีสนับสนุน ป่าชุมชนลดโลกร้อน เพื่อเชื่อมโยงภาคเอก ชนให้เข้ามาสนับสนุนกิจกรรมปลูกป่า ผ่านกลไกสนับสนุนกิจกรรมลดแกสเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme) หรือ เรียกว่าโครงการ LESS ซึ่งเป็นกลไกที่มุ่งสร้างความตระหนักในการลด หรือดูดกลับแกสเรือนกระจก และยกย่องผู้ทำความดีด้านการลด หรือดูดกลับแกสเรือนกระจก วันนี้การที่เราได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนอย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ และมูลนิ ธิ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในการเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมปลูกป่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ นับเป็นอีกตัวอย่างการทำดีของภาคเอกชนในการช่วยลดโลกร้อนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของเราทุกคน และที่สำคัญยังเป็นแหล่งดูดกลับแกสเรือนกระจกซึ่งช่วยลด และบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
โครงการป่าชุมชนบ้านอ่างกระพงศ์ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ตำบล เกษตรสุวรรณ อำเภอ บ่อทอง จังหวัดชลบุรี บนเนื้อที่ 323 ไร่ 80 ตารางวา โดยเริ่มจัดตั้งเป็นป่าชุมชนเมื่อปี พศ. 2549 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แต่เดิมพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ป่าเสื่อมสภาพ กรมป่าไม้จึงได้ทำการฟื้นฟูโดยผ่านคณะกรรมการป่าชุมชนบ้านอ่างกระพงศ์ให้เป็นผู้ดูแลฟื้นฟูป่า โดยเริ่มฟื้นฟูในปี พศ. 2563 ร่วมกับเครือข่ายป่าชุมชน 5 จังหวัดภาคตะวันออก และภาคเอกชน ป่าชุมชนนี้เป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลไปสู่อ่างเก็บน้ำรัชโยธร อำเภอ เกาะจันทร์ ชาวบ้านรอบป่าใช้ประโยชน์จากการเก็บเห็ด ยอดไม้ ผลไม้ในพื้นที่เพื่อกินเป็นอาหาร ในป่าชุมชนนี้มีสัตว์ป่า อาทิ หมูป่า ลิง กระรอก นก ชะมด อีเห็นอาศัยอยู่ ดังนั้นการฟื้นฟูป่า สร้างพืชอาหาร แหล่งน้ำจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน และสัตว์ป่าอีกทั้งยังจำเป็นต่อชุมชนเมือง ภาคอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำรัชโยธรที่ได้จากป่าชุมชนนี้
ที่ผ่านมาพนักงาน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ได้ดำเนินกิจกรรมปลูกป่าชายเลนร่วมกับชุมชน ณ ชุมชนบ้านแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เมื่อเดือนกันยายน พศ. 2563 ด้วยการช่วยกันเพาะชำต้นไม้ก่อนนำไปปลูกป่าชายเลน รวมถึงการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพ ยากรน้ำ และสิ่งแวดล้อมในชุมชนอีกด้วย
“จากนี้ไป มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ จะยังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรมเพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคตอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับองค์กร ชุมชน และประเทศ เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดี และสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของการดำเนินธุรกิจของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ” ชกกิ กล่าวปิดท้าย
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/382748