กลุ่ม Stellantis ปรับแผนการตลาดในจีน

 

รายงานข่าวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุว่า กลุ่ม Stellantis เตรียมปรับแผนงานการตลาดในจีน แหล่งข่าวระบุว่า ได้เริ่มต้นเข้าควบคุมการดำเนินงานของพันธมิตร ปัจจุบันผู้ผลิต Jeep กำลังประสบปัญหาในตลาดจีน

กลุ่ม Stellantis อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร Guangzhou Automobile Group ในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ให้เป็น 50:50 เพื่อให้สามารถดูแลการดำเนินงานของรถยี่ห้อ Jeep ในจีน ได้ ความเปลี่ยนแปลงนี้ น่าจะบังเกิดผลอย่างช้าก็ต้นปีหน้า เมื่อข้อบังคับของการเป็นพันธมิตรของค่ายรถยนต์จากต่างประเทศ ได้รับการผ่อนคลายจากภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ กลุ่ม Stellantis สามารถเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น รวมทั้ง Promote รถยี่ห้อ Jeep, DS และผลักดันการจำหน่ายรถไฟฟ้า Opel ได้เพิ่มขึ้น แม้ว่ากลุ่ม Stellantis จะใช้ความพยายามในการผลิตรถหลายๆ รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน โดยออกแถลงการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อยืนยันแผนงานที่จะปรับเปลี่ยนจากการสั่งนำเข้า Jeep เป็นการขึ้นสายการผลิตร่วมกันกับพันธมิตร ในโรงงาน Changsha และระงับสายการผลิตในโรงงานแห่งที่ 2 ใน Guangdong Carlos Tavares ซีอีโอ ให้คำมั่นแก่ผู้ถือหุ้น เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานในจีน จากยอดการจำหน่ายครึ่งปีแรก กลุ่ม Stellantis ทำได้ทั่วโลก 3.6 ล้านคัน ในจำนวนนี้ประมาณ 50,000 คัน เท่านั้นที่ส่งจำหน่ายที่จีน ทำส่วนแบ่งการตลาดได้เพียง 0.5 % ขณะที่สามารถทำส่วนแบ่งได้มากกว่า 2 หลัก ในตลาดนอกเหนือจากเอเชีย Jeep เป็นพันธมิตรร่วมกันกับ GAC ขึ้นสายการผลิต Cherokee, Renegade, Compass และ  Grand Commander สำหรับตลาดจีน แต่ยอดการจำหน่ายตกลงถึง 45 % เหลือเพียง 44,026 คัน ในปี 2563 ขณะเดียวกัน ข้อบังคับของรัฐบาลจีน ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ จะต้องเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อการผลิตและจำหน่ายในจีน ซึ่งกำลังมีการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลจีน ทำให้ BMW ตกลงกับ Brilliance China Automotive Holdings เมื่อปี 2561 เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากเดิม 50 ขึ้นเป็น 75 % ได้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปีหน้า กลุ่ม Stellantis เกิดจากการรวมกลุ่มของ Fiat Chrysler กับ กลุ่ม PSA จึงได้อานิสงส์จากการเป็นพันธมิตรกับ Dongfeng Motor Group ซึ่งเป็นผู้ผลิต  Peugeot และ Citroen ทำให้ Dongfeng ต้องขายหุ้นให้ กลุ่ม Stellantis ตามข้อตกลงเดิม เมื่อเดือนธันวาคม 2562 และจากการรวมกลุ่มในช่วงต้นปี Carlos Tavares ได้เปิดเผยแผนงานในการเพิ่มการผลิตรถไฟฟ้า และในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขายืนยันว่า การดำเนินงานในจีน “กำลังไปได้ด้วยดี” และจะเปิดเผยแผนงานทั้งหมดได้ภายในสิ้นปีนี้ สำหรับการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต