Ralliart พาชม 3 ตำนาน Mitsubishi ในงาน Motor Expo 2021

หลังจากปลุกตำนาน "Ralliart" (แรลลีอาร์ท) ใน 3 รุ่นพิเศษไปแล้ว บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้นำรถระดับตำนานจากประเทศญี่ปุ่นถึง 3 รุ่น มาให้คนไทยได้ชม โดยสามารถสัมผัสตัวจริงได้ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38" หรือ Motor Expo 2021 Mitsubishi Leo ทำตลาดรุ่นแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ Mitsubishi (มิตซูบิชิ) เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี 2504 จากการแต่งตั้ง บริษัท สิทธิผล มอเตอร์ จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนผู้จำหน่าย Mitsubishi 3 ล้อ รุ่น "Leo" (ลีโอ) และรถยนต์รุ่น "Colt" (โคลท์) โดยต่อมาได้มีการกำหนด และวางรากฐานให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ Mitsubishi นอกประเทศญี่ปุ่น เพื่อการจำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในอดีตที่ผ่านมา รถบรรทุก 3 ล้อขนาดเล็ก เป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะความคล่องแคล่วในการขับขี่แบบสกูเตอร์ และราคาจำหน่ายที่ต่ำ พร้อมการจัดเก็บอัตราภาษีที่ต่ำในช่วงการเปลี่ยนผ่าน จากรถบรรทุกแบบสกูเตอร์ 3 ล้อ ไปเป็นรถบรรทุก 4 ล้อ ขนาดเล็ก ด้วยความต้องการรถบรรทุกประเภทดังกล่าวฯ ที่เพิ่มขึ้น ในปี 2502 Mitsubishi Motors จึงได้ผลิต และเปิดตัวรถบรรทุก 3 ล้อ ขนาดเล็ก ในชื่อ "Mitsubishi Leo" ที่ได้รับการตั้งชื่อตามตัวละครในเรื่อง Kimba The White Lion การ์ตูนยอดนิยมในนิตยสารมังงะของประเทศญี่ปุ่น ที่แต่งขึ้นโดย โอซามุ เทะซึกะ Mitsubishi Leo ใช้เครื่องยนต์ขนาด 309 ซีซี ถือเป็นรถ 3 ล้อ ที่มีห้องโดยสารผลิตขึ้นจากเหล็กกล้า พร้อมติดตั้งที่นั่ง 2 ตำแหน่ง โดยหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ก็สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยอดจำหน่ายที่จำนวน 1,000 คัน/เดือน   Mitsubishi Pajero ตำนานเจ้าแห่งทะเลทราย Mitsubishi Motors เข้าร่วมการแข่งขันแรลลีในรายการ Dakar Rally ครั้งแรกในปี 2526 และสามารถคว้าชัยชนะเป็นครั้งแรก ในครั้งที่ 3 ของการแข่งขันในปี 2528 โดยส่ง Mitsubishi Pajero (มิตซูบิชิ ปาเจโร) เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Dakar Rally รวมทั้งสิ้น 26 ครั้ง และสามารถคว้าชัยชนะรวมทั้งสิ้นถึง 12 ครั้ง พร้อมสถิติคว้าแชมพ์ติดต่อกันถึง 7 สมัย จนได้ฉายา "เจ้าแห่งทะเลทราย" Mitsubishi Pajero รุ่นต้นแบบ ใช้พื้นฐาน และตัวถังมาจากพโรดัคชันคาร์ ที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายทั่วไป แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น เพื่อการแข่งขันฯ อาทิ การปรับเปลี่ยนชุดเพลาหน้า การขยายฐานล้อ และการปรับความสมดุลของน้ำหนักด้านหน้า/หลังของตัวรถใหม่ ตัวถังภายนอกผลิตขึ้นจากพลาสติคโพลีเมอร์ เสริมแรงด้วยเส้นใยคาร์บอนแบบเคฟลาร์ ทำให้น้ำหนักลดลงถึง 200 กก. พร้อมเปลี่ยนระบบกันสะเทือนหลังจากแหนบ มาเป็นแบบธรีลิงค์ ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์แบบเบนซินเทอร์โบ ขนาด 2.6 ลิตร รหัส 4G54 ให้พละกำลังถึง 225 แรงม้า พร้อมเทอร์โบชาร์เจอร์ และอินเตอร์คูเลอร์ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 185 กม./ชม.   Mitsubishi Lancer WRC05 ตำนานแรลลี WRC  Mitsubishi Motors เข้าร่วมการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก (WRC) ตั้งแต่ปี 2548 ด้วยรถยนต์ Mitsubishi Lancer (มิตซูบิชิ แลนเซอร์) รุ่น WRC05 ซึ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ของการแข่งขันฯ ในปีนั้น โดยเริ่มจากขยายความกว้างของตัวรถเพิ่มขึ้นอีก 30 มม. จากเดิม 1,770 มม. เพิ่มเป็น 1,800 มม. พร้อมปรับดีไซจ์นใหม่ด้วยซุ้มล้อหน้า/หลัง ด้านข้าง ด้านท้าย แผงกันชน และอื่นๆ Mitsubishi Lancer WRC05 ยังได้รับการปรับแต่งชุดระบบช่วงล่าง ชุดระบบกันสะเทือน และชุดเพลาขับรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลให้แก่ตัวถังรถ โดยรถรุ่นนี้ ได้เผยโฉมไปแล้วในรายการ 2004 Rally Catalunya ประเทศสเปน เมื่อเดือนตุลาคม 2547 ในด้านเครื่องยนต์ยังคงเป็นเบนซิน เทอร์โบ รหัส 4G63 ตัวแรง ที่ใช้มาตั้งแต่ต้นฤดูกาล โดยมีการปรับแต่งโดยเพิ่มชุดอุปกรณ์ระบบขจัดไอเสีย และวาล์วควบคุมระบบแรงอัดอากาศแบบใหม่ พร้อมปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังได้ติดตั้งระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ ที่เพิ่งถูกคิดค้น และพัฒนาขึ้นใหม่ โดยวิธีการทำงานจะอนุญาตให้นักแข่งสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ให้สูงขึ้น หรือต่ำลง ด้วยปลายนิ้วผ่านระบบแพดเดิล ชิฟท์บนพวงมาลัย โดยไม่ต้องอาศัยระบบคลัทช์เข้าช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ และในเดือนธันวาคม ปี 2544 Mitsubishi Motors ได้ประกาศว่าทางบริษัทฯ มีความจำเป็นที่ต้องจัดสรร และให้ความสำคัญในด้านการจัดการทรัพยากร จึงได้ประกาศระงับการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลกในปี 2549 เป็นการปิดฉากตำนาน Mitsubishi Lancer WRC05 จนถึงปัจจุบัน