ระวัง ! ขับรถตกหลุม เสี่ยงพังมากกว่าที่คิด

สภาพถนนที่เป็นหลุมบ่อ ไม่เรียบเสมอกัน ผู้ขับขี่อาจเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องขับผ่าน แต่รู้หรือไม่ “รถตกหลุมบ่อย” จะเกิดผลเสียมากกว่าที่คิด ว่าแต่ถ้าขับรถไปตกหลุมแรงๆ อะไรจะเสียหายได้บ้าง “autoinfo.co.th” มีข้อมูลมาฝาก  

ล้อแมกแตก หรือคด เมื่อรถยนต์วิ่งตกหลุมด้วยความเร็ว จะส่งผลให้ทั้งยาง และล้อแมก เกิดความเสียหายได้มากขึ้น โดยอาการส่วนใหญ่จะเป็นล้อแมกคด หรือดุ้ง หากคดไม่มากมักไม่ค่อยมีผลต่อการขับขี่ (แต่ควรดัดคด เพื่อให้ล้อกลมเหมือนเดิม ช่วยป้องกันอาการรถสั่นขณะขับด้วยความเร็วสูง) แต่ร้ายแรงที่สุด คือ ล้อแมกแตก มักพบได้กับล้อแต่งที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งกรณีล้อแมกแตกนั้น อาจทำให้รถถึงขั้นเสียการควบคุม เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้     ยางบวม หรือยางแตก การขับรถตกหลุมบ่อย มีโอกาสเสี่ยงทำให้ยางเกิดอาการบวม ซึ่งยางที่บวมอาจส่งผลต่อการขับขี่ของรถ ทำให้เกิดอาการสั่นขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง แต่ถ้าร้ายแรงกว่านั้น คือ ยางระเบิด ซึ่งมักพบได้ในกรณีขับด้วยความเร็วสูงผ่านหลุมลึกที่มีปากหลุมเป็นเหลี่ยมคม   ลูกปีนล้อแตก ลูกปืนล้อ เป็นชิ้นส่วนที่ค่อนข้างอ่อนไหวสำหรับรถบางรุ่น หากมีการกระแทกที่ล้ออย่างรุนแรง จะส่งผลให้ลูกปืนล้อแตกได้ โดยอาการของลูกปืนล้อแตก จะมีเสียงหอนดังจากล้อข้างใดข้างหนึ่ง และจะดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อความเร็วรถสูงขึ้น     ตัวถังรถเสียหาย เมื่อตกหลุมด้วยความเร็ว และรุนแรง ตัวถังบางส่วนอาจจะกระแทกกับพื้นถนนได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้า หลัง หรือด้านล่าง โดยเฉพาะสเกิร์ท     ช่วงล่างพังเร็ว ช่วงล่างเป็นหัวใจหลักที่ช่วยซับแรงกระแทกก่อนส่งไปยังห้องโดยสาร หากช่วงล่างถูกใช้งานอย่างหนัก มีผลทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สึกหรอเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลูกหมาก, ชอคอับ, ปีกนก, บุชยาง, ยางแท่นเครื่อง หรือเพลาขับ เป็นต้น **ข้อแนะนำ** ทางที่ดี เวลาขับรถตามท้องถนน เมื่อเจอหลุมบ่อ เนินลูกระนาด ให้ชะลอความเร็วไว้บ้าง แต่ถ้าหาทางเลี่ยงได้ ให้เลี่ยงเลยจะดีกว่า