สหรัฐอเมริกา ระบุว่า Spyker ซูเพอร์คาร์หรูจากเนเธอร์แลนด์ ประกาศการกลับมาอีกครั้ง ด้วยการสนับสนุนจากนักลงทุนหลากหลายประเทศ หลังช่วงต้นปี 2564 บริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจนต้องยุติการผลิตSpyker ก่อตั้งครั้งแรกในปี 2542 ได้เตรียมกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ จากนักลงทุนกลุ่มหนึ่ง ที่หลงใหลเอกลักษณ์ของ Spyker ทั้งรุ่น C8 ที่ประณีต สวยงาม ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V8 สูบ ความจุ 4.2 ลิตร จาก Audi ภายในห้องโดยสารเป็นงานศิลป์ในด้านวิศวกรรมที่ล้ำหน้า ตั้งแต่พวงมาลัยทรงคลาสสิค ใช้ระบบเกียร์ของ Lamborghini Murcielago ที่ควบคุมผ่านคันเกียร์แมนวล โยกผ่านช่องเกียร์แบบรถแข่ง ลิงเกจเกียร์เปิดโล่งอยู่ในห้องโดยสาร ที่ส่งเสียงคลิคเบาๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์ ความเป็นมาของชื่อบริษัท ต้องย้อนกลับไปที่ปี 2423 เมื่อช่างตีเหล็ก 2 คน คือ Jacobus และ Henrik-Jan Spijker ที่สร้างรถยนต์ขึ้นโดยใช้ชื่อท้ายของทั้งคู่ ซึ่งออกเสียงว่า Spyker ในภาษาอังกฤษ แต่ในภาษาดัทช์ เป็นแสลง แปลว่า เพศสัมพันธ์ กลุ่มนักลงทุนใหม่นำทีมโดย Michael Pessis (เจ้าของร่วมของทีมแข่ง SMP Racing Monaco, บริษัทออกแบบ Milan Morady SA ใน Luxembourg และ R-Company GmbH ใน Germany) และ Boris Rotenberg นักธุรกิจทรงอิทธิพลจากรัสเซีย ผู้ก่อตั้งบริษัทสร้างรถแข่ง BR Engineering และทีมแข่งรถ SMP Racing นอกจากนั้นยังมีนักลงทุนคนอื่นๆ อีกที่ไม่ได้เอ่ยนามถึง บริษัทใหม่ก่อตั้งโดยใช้ชื่อ Spyker Ltd. ภายใต้การบริหารของ Victor R. Muller ที่ยึดมั่นแนวทางในอดีตอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่กระบวนการขึ้นรูปตัวรถด้วยมือ และยังคงผลิตรถรุ่นเดิมทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ Spyker C8 Preliator, Spyker D8 Peking-to-Paris SUV และ Spyker B6 Venator ในอดีต Spyker ขายให้ลูกค้าไปทั้งสิ้น 265 คัน ซึ่งบริษัทใหม่ยังมีนโยบายดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ต่อไป โดยให้ความสำคัญด้านการบริการหลังการขาย ทางบริษัทมีนโยบายจะเพิ่มศูนย์บริการใหม่ให้มากขึ้น ให้เพียงพอต่อการบริการ Spyker มีแนวคิดจะสร้างรถแข่ง เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องยาก จากการที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับทีมรถแข่ง SMP Racing และคงไม่แปลกหากแชมพ์โลก F1 คนล่าสุดจะครอบครองรถที่ผลิตจากในประเทศบ้านเกิดของเขา Boris Rotenberg มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า ในการสร้างประวัติศาสตร์ของ Spyker ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยตั้งเป้าในการผลิตซูเพอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก Spyker ถือว่าเป็นรถระดับโลก ที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ต้นกำเนิดจากเนเธอร์แลนด์, ศูนย์กลางจัดการด้านการเงินอยู่ใน Luxemburg, ผลิตชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์จากโรงงานในรัสเซีย, เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมจากเยอรมนี และรัสเซีย, การประกอบรถขั้นสุดท้าย และศูนย์กลางการบริการหลังการขายในเนเธอร์แลนด์ ซีอีโอของบริษัทยืนยันว่า บริษัทใหม่จะมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ทั้งด้านเทคโนโลยี และความมั่นคงทางการเงิน เป็นรากฐานให้บริษัทประสบความสำเร็จในที่สุด แม้ว่าโลกปัจจุบันจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าก็ตาม แต่ยังมีคนบางกลุ่ม ที่หลงใหลใน สัมผัส, รูป, เสียง และกลิ่น ของซูเพอร์คาร์อย่างแท้จริง อย่างเครื่องยนต์สันดาปภายใน แบบ V8 สูบ ที่ประจำการอยู่ในห้องเครื่องยนต์ของ Spyker ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต แม้จะใช้เครื่องยนต์ไฮบริดในบางรุ่นก็ตาม