HiPhi Z รถไฟฟ้า GT จาก Human Horizons ค่ายรถไฟฟ้าสตาร์ทอัพ รูปลักษณ์ภายนอก โฉบเฉี่ยว และร้อนแรง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที พร้อมลูกเล่นไฟ LED รอบคัน 4,000 ดวง และเดินทางได้กว่า 700 กม./ชาร์จ 1 ครั้งข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Human Horizons บริษัทสตาร์ทอัพ รถไฟฟ้าของจีน ได้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมผลงานลำดับ 2 คือ HiPhi Z ด้วยแนวคิด “รถไฟฟ้า GT ที่มีเทคโนโลยีดิจิทอลล้ำยุค" HiPhi Z เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2564 เพื่อเสนอแนวคิดใหม่ของรถไฟฟ้ากแรนด์ทัวเรอร์ (GT) ด้วยรูปทรง, ความสะดวกสบาย และตอบสนองการขับขี่ ดุจรถในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า ภายนอก HiPhi Z มีรูปทรงที่ปราดเปรียว แต่ดุดันด้วยส่วนโค้งเว้ารอบคัน กระจกห้องโดยสารแคบ และติดตั้งม่านแสง Star-Ring ISD ซึ่งเป็นชุดไฟ LED 4,066 ดวง ทำหน้าที่โต้ตอบระหว่างคนขับ/ผู้โดยสาร และส่งสัญญาณไปยังด้านนอกตัวรถได้ การเข้า/ออกตัวรถได้อย่างสะดวก และปลอดภัย ด้วยประตูอัจฉริยะ ที่มีระบบโต้ตอบ ISD และเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สาย UWB (Ultra-Wideband) ทำหน้าที่ตรวจจับผู้โดยสาร กุญแจ และรถที่สัญจรอยู่รอบคัน เพื่อประมวลผลสภาพแวดล้อม ก่อนการเปิดประตู และช่วงเวลาที่เหมาะสม รูปทรงเน้นประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ โดยมีช่องรับลมด้านหน้าปรับขนาดได้ AGS (Air Grille Shutters) และประสานงานกับสปอยเลอร์หลัง พร้อมปีกดักลมช่วยปรับแรงต้าน และลดแรงยกแบบอัตโนมัติ ภายในห้องโดยสาร HiPhi Z มี HiPhi Bot พร้อมระบบปัญญาประดิษฐ์ เพื่อปรับระบบต่างๆ ภายในห้องโดยสารได้ตามความต้องการของคนขับ และผู้โดยสาร ภายในห้องโดยสาร ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งจอแสดงผลกลางที่เลือกปรับได้ ทั้งแนวระนาบ หรือแนวตั้งก็ได้, พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน, เบาะหุ้มด้วยวัสดุ Ultrasuede Bio Galaxy Fabric, ไฟวิ่งปรับบรรยากาศภายในห้องโดยสาร, ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง Meridian Audio System 23 ตำแหน่ง และเบาะบัคเคทซีทที่โอบกระชับ หุ้มวัสดุสังเคราะห์แทนการใช้หนังสัตว์ ขุมพลัง HiPhi Z ติดตั้งชุดแบทเตอรีประสิทธิภาพสูงขนาด 120 กิโลวัตต์ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยี CTP (Cell to Pack) ทำระยะเดินทางได้ 705 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน CLTC) นอกนั้นยังไม่มีข้อมูลเพิ่มในเรื่องของระบบส่งกำลัง นอกจากอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที โครงสร้างหลักของตัวรถ ขึ้นรูปจากโลหะผสมเหล็ก-อลูมิเนียม น้ำหนักเบา ปีกนกคู่ในด้านหน้าขึ้นรูปจากอลูมิเนียม, ระบบรองรับแบบ 5 แขน, ปรับระดับตัวรถด้วยระบบถุงลม และแดมเพอร์ควบคุมการทำงานอย่างต่อเนื่อง CDC (Continuous Damping Control) มีระบบปรับมุมเลี้ยวในล้อหลัง และระบบควบคุมการขับเคลื่อน (IVC vehicle dynamic control system) แม้ตัวรถมีความยาว 5 ม. สามารถทำวงเลี้ยวใกล้เคียง Mini Cooper HiPhi Z พร้อมระบบการขับขี่อัตโนมัติ โดยมีชิพ NVIDIA Orin X และระบบปฏิบัติการแบบเรียลไทม์ QNX Neutrino (RTOS) ที่รับข้อมูลจากเซนเซอร์ 34 ตัว และเทคโนโลยี LiDAR สำหรับตรวจจับวัตถุรอบข้าง เพื่อช่วยการขับขี่ และนำรถเข้าจอด HiPhi Z จะมีราคาประมาณ 3.2-4.7 ล้านบาท ในสาธารณรัฐประชาชนจีน จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานมหกรรมยานยนต์เฉิงตู ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม-4 กันยายน 2565