ระเบียงรถใหม่
Honda Pilot 2023 เอสยูวีขนาดใหญ่ เปิดตัวแล้วในสหรัฐอเมริกา

Honda Pilot ใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ Acura MDX และรถมีนีแวน Odyssey ในตลาดอเมริกาเหนือ โครงสร้างแบบชิ้นเดียว และระบบกันสะเทือนแบบอิสระของ Pilot ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้บังคับควบคุมได้เหมือนกับรถซีดาน และมีรางเฟรมในตัวเพื่อให้สามารถลากจูง และใช้งานหนักแบบออฟโรดได้
Honda Pilot มีจำหน่ายในอเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ขณะที่ Acura MDX รุ่นแรก วางตลาดในญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ในเจเนอเรชันที่ 2 ได้วางจำหน่ายในรัสเซีย ยูเครน เกาหลีใต้ ละตินอเมริกา และฟิลิปปินส์ ด้วยเพิ่มเติม
Honda Pilot รุ่นปี 2566 นับว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 4 ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งคัน มีความโค้งมนมากขึ้น แต่ก็ยังรักษาเอกลักษณ์ของ Pilot รุ่นก่อนหน้าเอาไว้ ด้านหน้ามีความคล้ายคลึงกับ CR-V รุ่นที่ 6 ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้า
ไฟหน้า LED ที่เรียวยาวขึ้น ต่อเนื่องกับกระจังหน้ารังผึ้งตั้งตรงขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้าถูกยืดให้ยาวขึ้น เน้นความบึกบึน ยังคงความเป็นเหลี่ยมสันของ pilot รุ่นก่อนหน้าไว้
ด้านท้ายมีไฟท้าย LED ใหม่ สปอยเลอร์ที่ออกแบบให้กลมกลืนกับตัวรถ มีคิ้วคาดกลาง สีดำขนาดใหญ่ พร้อมสัญลักษณ์ Pilot ทำให้มีความคล้ายคลึงกับ Ford Everest โฉมก่อนหน้านี้ มิติตัวถังมีความยาว 5,077/5,085 มม. ความกว้าง 1,993 มม. ความสูง 1,800/1,803 และ 1,829 มม. ฐานล้อ 2,890 มม. โดยมียาว และกว้างกว่ารุ่นเดิม โดยมีระยะฐานล้อ และความยาวเพิ่มขึ้นเกือบ 3 นิ้ว เมื่อเทียบกับ Pilot รุ่นก่อน กว้างขึ้นถึง 1.5 นิ้ว ทำให้ Pilot ใหม่ มีความสามารถในการเกาะถนน และขับขี่ได้สนุกกว่ารุ่นเดิม เพิ่มความกว้างขวาง และสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารมากขึ้นอีกด้วย
ภายในตัวห้องโดยสารใช้ดีไซจ์นช่องปรับอากาศแบบดั้งเดิม แทนที่จะใช้งานช่องระบายอากาศแบบตาข่ายยาวเหมือนที่เราเห็นใน Civic ใหม่ ไปจนถึง HR-V มีช่องเก็บของกว้างที่ครอบคลุมพื้นที่เหนือช่องเก็บของหน้ารถ จอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ขนาด 9 และ 10.2 นิ้ว ลำโพงคุณภาพระดับพรีเมียม BOSE 12 จุด และมีกล่องซับวูเฟอร์
คอนโซลกลางขนาดใหญ่กว่าเดิม และมีที่วางแก้วทั้งหมด 14 ใบ รอบๆ ห้องโดยสาร เบาะนั่งด้านหน้าแบบปรับความร้อนได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบ 3 ก้าน หลังคา Panoramic Moonroof และ Wireless Phone Charger
มิติห้องโดยสาร New Pilot จะมีพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งแถว 2 ปรับเอนเพิ่มขึ้นได้ 10 องศา เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ปรับได้เพียง 6 องศา และเอนไปด้านหน้าได้ไกลขึ้น เพื่อให้เดินเข้าถึงเบาะหลังแถว 3 ได้ง่ายขึ้น รองรับผู้โดยสารทั้งหมดได้สูงสุด 8 ท่าน รวมคนขับ มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในกลุ่มเอสยูวี 3 แถว ในเซกเมนท์เดียวกัน
Honda Pilot ใช้เครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 3.5 ลิตร V6 พร้อมระบบหยุดการทำงานบางลูกสูบชั่วคราว VCM (Variable Cylinder Management) ให้กำลังสูง 289 แรงม้า แรงบิด 355 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมด Normal, Econ, Snow, Sport และ Tow ที่สามารถลากจูงได้ถึง 2,268 กก.
มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel-Drive (AWD) แบบ i-VTM4 torque-vectoring โดยสามารถถ่ายเทกำลังล้อหน้า-หลัง 70 % และ 30 % และสามารถส่งกำลังไปที่ล้อหน้า/หลัง 100 % เมื่อเกิดการลื่นไถล หรือติดอุปสรรค และมาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และระบบกันสะเทือนแบบมัลทิลิงค์ใหม่ ในด้านหลัง
Honda Pilot เจเนอเรชันใหม่ มีด้วยกันทั้งหมดรุ่น 5 ย่อย ตั้งแต่รุ่น Sport, EX-L, TrailSport, Touring, Elite ในรุ่น Trailsport ที่เน้นการใช้งานแบบ Off-Road จะมาพร้อมกับขอบล้อขนาด 18 นิ้ว ซึ่งจะเพิ่มพื้นที่ใต้ซุ้มล้อ เพื่อให้สามารถติดตั้งยางแบบ All-Terrain จาก Continental TerrainContact ขนาด 265/60 R18 ได้
ภายนอกจะตกแต่งเน้นลุยเป็นพิเศษ แผ่นกันกระแทกรอบคัน เหล็กกันโคลงเฉพาะรุ่นอีกด้วย และมีสีตัวถังพิเศษ สีฟ้า Sky Blue ให้เลือก พิเศษสำหรับรุ่น TrailSport และ Elite ติดตั้งกล้องสำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะลุยเส้นทางทุรกันดาร TrailWatch พร้อมระบบ Hill Descent Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในรุ่น Touring และ Elite เบาะชิ้นกลางของแถวที่ 2 สามารถปรับเป็นพนักเท้าแขนพร้อมที่วางแก้ว เปลี่ยนให้เป็นเบาะแบบ Captain seats หรือสามารถยกออก และนำไปเก็บไว้ที่พื้นห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เพื่อเปลี่ยนให้เป็นรถ 7 ที่นั่งได้ และยังจัดเต็มความปลอดภัย ติดตั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมใต้เข่าคนขับ และติดตั้ง Honda Sensing มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Honda จะผลิต Pilot ที่โรงงานในรัฐ Alabama ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานแห่งเดียวที่ผลิต Pilot มาแล้วกว่า 2 ล้านคัน สำหรับตลาดทวีปอเมริกาเหนือ 
บทความแนะนำ

