Mercedes-Benz GLS รุ่น Facelift 2023

Mercedes-Benz GL-Class เป็นรถเอสยูวีหรูขนาดใหญ่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2012 จนถึง 2019 และเปลี่ยนชื่อเป็น GLS เมื่อครั้งตอนปรับโฉมปี 2016 เราได้เห็น Mercedes-Benz  GLS เจเนอเรชันที่ 2 ครั้งแรกในปี 2019 ตอนนี้การปรับโฉมเพื่อให้รถดูสดใหม่ขึ้นได้มาถึงแล้ว เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในกลุ่มรถเอสยูวีระดับหรู นอกเหนือจากการปรับโฉมของ GLS มาตรฐานแล้ว ยังได้ปรับโฉมรุ่นตัวแรงอย่าง Mercedes-AMG 63 และ Mercedes-Maybach รุ่นพิเศษสุดหรูหราเช่นกัน ด้านการออกแบบภายนอก ได้รับการปรับปรุงใหม่ในส่วนของกระจังหน้าแบบบานเกล็ด 4 ช่อง กันชนหน้ามีช่องดักอากาศแบบใหม่สีดำเงา และไฟท้ายแบบใหม่ที่ดูโดดเด่นมากขึ้น ภายในอาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดย Mercedes-Benz ได้อัพเกรดระบบเทคโนโลยีให้ทันสมัย เทียบเท่า S-Class ใหม่ และตระกูล EQ ด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์ MBUX รุ่นล่าสุด มาพร้อมกับจอแสดงผลรูปลักษณ์ใหม่ที่ปรับแต่งได้ตามสไตล์ความต้องการของลูกค้า พวงมาลัยใหม่ และเพิ่มไฟตกแต่งเพิ่มบรรยากาศภายในใหม่ ในตลาดยุโรป มีขุมพลังให้เลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่ GLS 450d 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร GLS 580 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน 4.0 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 517 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร GLS 350d 4Matic เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 269 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร GLS 450d 4Matic เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 367 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร โดยในทุกรุ่นย่อยมาพร้อมกับระบบ Mild Hybrid 48V ที่ช่วยเพิ่มกำลังสูงสุด ในช่วงเวลาออกตัว และเร่งแซงอีก 20 แรงม้า โหมด Off-Road สามารถแสดงรายละเอียดความลาดชัน ความเอียงด้านข้าง เข็มทิศ และมุมบังคับเลี้ยว นอกจากกล้อง 360 องศา ยังมีฟังค์ชัน Transparent Bonnet ที่แสดงมุมมองเสมือนจริงใต้ท้องด้านหน้าของรถ และยังมี Off-Road Engineering Package ที่เป็นการ์ดป้องกันใต้ท้องรถ และเพิ่มระยะห่างใต้ท้องรถจากพื้นเพิ่มขึ้นอีก 30 มม.