Mercedes-Benz USA เรียกรถตรวจสอบระบบเบรค

  ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Mercedes-Benz USA ประกาศเตือนเจ้าของรถเกือบ 300,000 คัน ระงับการใช้งานชั่วคราว เนื่องจากอาจเกิดปัญหาระบบเบรคล้มเหลวขณะใช้งาน โดย NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration) ได้ออกคำเตือนห้ามใช้รถ Mercedes-Benz รุ่น ML-Class, GL-Class และ R-Class ที่ผลิตระหว่างปี 2549-2555 จนกว่าจะได้รับการตรวจสอบระบบเบรคอย่างถูกต้อง ตามรายงาน รถทั้งหมดนี้ถูกนำเข้าสหรัฐอเมริกาโดยทางเรือ การเดินทางที่ใช้เวลานาน ทำให้เกิดความชื้นสะสม จนเป็นสาเหตุของสนิม หากเกิดการกัดกร่อน ทำให้ชิ้นส่วนภายในหม้อลมเบรคอาจแตกหักเสียหาย จนทำให้หม้อลมเบรครั่ว และทำให้อากาศเล็ดลอดเข้าไปในระบบเบรค ส่งผลให้การทำงานของระบบเบรคไม่สมบูรณ์ หากเหยียบเบรคอย่างแรง อาจทำให้ชิ้นส่วนหม้อลมเบรคเกิดความเสียหายจนทำให้ระบบเบรคล้มเหลวได้ทันที กรณีที่มีการกัดกร่อนอย่างมาก การเหยียบเบรคอย่างรุนแรง จะทำให้ระบบกลไกภายในของหม้อลมเบรคแตกหักเสียหาย หากกัดกร่อนที่แกนของแป้นเบรค อาจทำให้แป้นเบรคหัก ไม่สามารถควบคุมระบบเบรคได้ ซึ่งทำให้เกิดการชนอย่างรุนแรงจนเกิดการบาดเจ็บได้ อย่างไรก็ตามการทำงานของระบบเบรคฉุกเฉินแบบเหยียบ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ Mercedes-Benz USA เตือนให้สังเกตอาการที่ส่อว่าระบบเบรคทำงานผิดปกติ คือ เมื่อเหยียบแป้นเบรค จะรู้สึกว่านุ่มกว่าปกติ หรือมีเสียงดังขณะเบรค (เสียงลมดูด, เสียงฟู่ หรือเสียงหวีด ขณะเหยียบแป้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่าน้ำมันเบรคถูกปนเปื้อน) เจ้าของรถระงับการใช้งาน จนกว่าจะได้รับการตรวจจากตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ตัวแทนจำหน่าย Mercedes-Benz จะตรวจสอบโดยการถอดปลอกยางออก เพื่อตรวจสอบเสื้อของหม้อลมเบรค หากไม่พบการกัดกร่อนในจุดต่างๆ ทางตัวแทนจำหน่ายจะให้เจ้าของรับรถคืนได้ โดยไม่ต้องมีการดำเนินการอื่นใดอีก แต่สำหรับรถที่พบการกัดกร่อน จะต้องมีการทดสอบการทำงานของหม้อลมเบรคว่ายังสามารถทำงานได้ตามปกติ รถที่ผ่านการทดสอบแล้ว อาจจะใช้งานระบบเบรคได้มากกว่า 2 ปี สำหรับรถที่ไม่ผ่านการทดสอบ จะถูกแจ้งให้เปลี่ยนหม้อลมเบรคใหม่ ซึ่งเจ้าของรถจะไม่สามารถใช้งานรถได้ จนกว่าจะได้รับการเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าว หากทางตัวแทนจำหน่ายไม่สามารถบริการเจ้าของรถได้ทันทีก็จะประสานงานกับตัวแทนอื่นเพื่อดำเนินการแทน รวมถึงการเคลื่อนย้ายรถเพื่อนำรถเข้าซ่อมด้วย