ธุรกิจ
สอท. เผยยอดผลิต ขาย ส่งออก เดือน กค.
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประ เทศ ในเดือนกรกฎาคม 2566 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2566 มีทั้งสิ้น 149,709 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 4.72 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 2.85 จากการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.48 แต่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศแค่ 63,147 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.16 เพราะรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้น
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,071,221 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 0.66
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 50,568 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 11.96 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 39,248 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 08
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 100
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 823 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 44
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 10,494 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 44
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีจำนวน 371,629 คัน เท่ากับร้อยละ 34.69 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 5.21 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 292,668 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 12
รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 146 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 100
รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 6,370 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 31
รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 72,445 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 14
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 4 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 82 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 4,000
รถยนต์บรรทุก เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 99,137 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.38 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 710,967 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.61
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 96,257 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 2.06 และตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 680,124 คัน เท่ากับร้อยละ 63.49 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.10 โดยแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 124,452 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 33
รถกระบะ Double Cab 447,329 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 79
รถกระบะ PPV 108,343 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 09
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตัน เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 2,880 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 17.24 รวมเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 19,386 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรก ฎาคม 2565 ร้อยละ 16.61
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 86,552 คัน เท่ากับร้อยละ 57.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 9.48 ส่วนเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 617,207 คัน เท่ากับร้อยละ 57.62 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 11.72 เพราะคำสั่งซื้อจากคู่ค้าในประเทศต่างๆ ยังดีอยู่จากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นในระยะเวลาเดียวกันของปี 2565 จึงส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาด
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 23,923 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 11.88 และตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 170,996 คัน เท่ากับร้อยละ 46.01 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 26.64
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 62,629 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 8.59 และตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 446,211 คัน เท่า กับร้อยละ 65.61 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 6.89 โดยแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 46,693 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 39
รถกระบะ Double Cab 340,812 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 42
รถกระบะ PPV 58,706 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 63
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 63,157 คัน เท่ากับร้อยละ 42.19 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.16 และเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 454,014 คัน เท่ากับร้อยละ 42.38 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 11.28
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 26,645 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 12.02 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ผลิตได้ 200,633 คัน เท่ากับร้อยละ 53.99 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 แล้ว ลดลงร้อยละ 8.05
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 33,628 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 8.21 และตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 233,913 คัน เท่ากับร้อยละ 34.39 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 13.46 ซึ่งแบ่งเป็น
รถกระบะบรรทุก 77,759 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 05
รถกระบะ Double Cab 106,517 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 09
รถกระบะ PPV 49,637 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 12
รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 194,773 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 7.84 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 170,123 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.07 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 24,650 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 57.62
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,501,470 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 3.08 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,297,727 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 19.32 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 203,743 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 44.79
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกรกฎาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,419 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 9.30 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 8.77 ลดลงจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถกระบะบรรทุกจากหนี้ครัวเรือนของประเทศที่สูง และอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นเป็นเหตุให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทำให้อำนาจซื้อลดลงส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลง รวมทั้งการส่งออกของสินค้าหลายอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันหลายเดือน ทำให้ลดการทำงานล่วงเวลาลง รายได้ของคนทำงานลดลง เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ส่วนรถยนต์นั่ง และรถยนต์นั่งตรวจการณ์ขายเพิ่มขึ้น 17.28 และ 2.08 ตามลำดับ เนื่องจากการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 350.56 เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยแบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง ดังต่อไปนี้
รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 47,546 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 34
รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 4,438 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 56
รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 133 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 14
รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,302 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 19
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 150,779 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2565 ร้อยละ 15.94 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 12.68 โดยแบ่งเป็น
รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 150,770 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 71
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 9 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 25
ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 464,550 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 5.45 โดยแบ่งเป็น
รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 381,453 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 78
รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 35,781 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 1,605.48
รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,454 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 54
รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 45,862 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 02
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,144,760 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 10.03 โดยแบ่งเป็น
รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 1,143,722 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 02
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 818 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 11
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 220 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100
การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนกรกฎาคม 2566 ส่งออกได้ 108,052 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 21.64 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 30.05 เพราะประเทศคู่ค้ายังนำเข้ารถยนต์เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่เติบโต จึงส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดอเมริกาเหนือที่ลดลง มูลค่าการส่งออก 67,587.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 30.01
เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 4,570.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 09
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 15,822.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 20
อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,051.67 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 60
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 90,032.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 21.32
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 636,868 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 19.55 มีมูลค่าการส่งออก 396,769.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 24.52 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 21,012.48 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 56
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 102,141.14 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 15
อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 13,460.51 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 70
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 533,383.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 11.13
รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2566 มีจำนวนส่งออก 64,238 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 1.72 และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 19.12 โดยมีมูลค่า 5,690.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรก ฎาคม 2565 ร้อยละ 29.75
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 1.13
อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 31 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 13.93
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนกรกฎาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,180.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 26.08
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 491,872 คัน (รวม CBU+CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 15.32 มีมูลค่า 41,552.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8.29
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,823.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 48
อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,254.71 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 37
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 44,630.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 8.43
เดือนกรกฎาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 96,212.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 21.61
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 578,013.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 10.91
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนกรกฎาคม 2566
เดือนกรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,904 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 373.20 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,081 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 65
รถยนต์นั่ง จำนวน 5,057 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 20 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 2 คัน
-รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 9 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 350
-รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง มีทั้งสิ้น 47 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 82
รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 44 คัน
รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 3 คัน
-รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 1,716 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม2565 ร้อยละ23
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1,696 คัน
รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 20 คัน
-รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 34 คัน ซึ่งเดือนกรกฎาคม 2565 ยังมีการจดทะเบียน
-รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 17 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ67
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 49,949 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 469.61 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 36,729 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 27
รถยนต์นั่ง จำนวน 36,574 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 144 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 4 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 7 คัน
-รถกระบะ รถแวน มีทั้งสิ้น 64 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 82
-รถยนต์ 3 ล้อ มีทั้งสิ้น 212 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 88
รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ จำนวน 200 คัน
รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล จำนวน 12 คัน
-รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 11,613 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 99
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 11,561 คัน
รถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 52 คัน
-รถโดยสาร มีทั้งสิ้น 1,126 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราค-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 2,197.96
-รถบรรทุก มีทั้งสิ้น 205 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 6,33
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนกรกฎาคม 2566
เดือนกรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 5,950 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 30.86 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 5,917 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 61
รถยนต์นั่ง จำนวน 5,905 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 1 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 6 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจร จำนวน 5 คัน
-รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 33 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 29
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 33 คัน
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 52,090 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 39.78 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 51,720 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 70
รถยนต์นั่ง จำนวน 51,666 คัน
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน จำนวน 14 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 11 คัน
รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน 29 คัน
-รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 370 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 89
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 370 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนกรกฎาคม 2566
เดือนกรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่ มีจำนวน 977 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 26.06 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 977 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 06
รถยนต์นั่ง จำนวน 975 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 2 คัน
เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 7,249 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคมปีที่แล้วร้อยละ 7.84 โดยแบ่งเป็น
-รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,249 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2565 ร้อยละ 84
รถยนต์นั่ง จำนวน 7,243 คัน
รถยนต์บริการธุรกิจ จำนวน 6 คัน
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566
ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 81,863 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 307.54 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 50,429 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 26
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 50,010 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 98
รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน มีจำนวน 301 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 80
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 19 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 280
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 15 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 84 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
-รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 123 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 18
-รถยนต์ 3 ล้อ มีจำนวนทั้งสิ้น 699 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 63
รถยนต์ 3 ล้อส่วนบุคคล มีจำนวน 74 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 45
รถยนต์รับจ้าง 3 ล้อ มีจำนวน 625 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 06
-รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 28,042 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 97
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 27,920 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 40
รถจักรยานยนต์สาธารณะ มีจำนวน 122 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 83
-อื่นๆ
รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2,338 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 35
รถบรรทุก มีจำนวนทั้งสิ้น 232 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,060
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566
ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 311,150 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.33 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-รถยนต์นั่ง และรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 302,041 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 52
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 301,328 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 57
รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 480 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 25
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 39 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ50
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 109 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ42
รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์มีจำนวน 82 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
-รถกระบะ และรถแวน มีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
-รถจักรยานยนต์ มีจำนวนทั้งสิ้น 9,106 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 15
รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล มีจำนวน 9,106 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 15
อื่นๆ
รถโดยสาร มีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 100
ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566
ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 49,587 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.04 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้
-รถยนต์นั่ง และรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 49,587 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 04
รถยนต์นั่ง มีจำนวน 49,525 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 09
รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 39 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 50
รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 16 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 81
รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 50
รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ มีจำนวน 4 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการจดทะเบียน
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/463481