GAC Aion ขนทัพรถยนต์ไฟฟ้า Aion Y Plus และ Aion ES เข้าร่วมงาน มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 พร้อมเปิดตัว Hyper HT เอสยูวีไฟฟ้าลักชัวรีระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ นำเสนอทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับผู้บริโภคชาวไทย ด้วยความหรูหราระดับพรีเมียม ดีไซจ์นล้ำสมัย พร้อมเทคโนโลยี และนวัตกรรมอัจฉริยะ
Ocean Ma กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า GAC Aion ถือเป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์รายแรกๆ ในโลกที่ประสบความสำเร็จในการวิจัยเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า และระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Connected Vehicles: ICV) อย่างเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันเป็นที่ทราบกันดีว่า GAC Aion สามารถคิดค้น วิจัย และผลิตชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจหลักของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ทั้ง 3 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบทเตอรี, มอเตอร์, แผงควบคุมระบบไฟฟ้า หรือ ECU ทำให้ GAC Aion กลายเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของโลก
สำหรับประเทศไทย GAC Aion ได้นำ Aion Y Plus เข้ามาทำตลาดเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีของชาวไทยมาโดยตลอด สะท้อนจากยอดจองรถยนต์เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,568 คัน และมียอดจองรถยนต์เป็นอันดับ 4 จากแบรนด์รถยนต์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด และยังมียอดจองเป็นอันดับที่ 2 ในแบรนด์รถไฟฟ้าภายในงาน Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการทำตลาดในประเทศไทยของ GAC Aion
ในปี 2023 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ GAC Aion เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 480,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 77 % ครองตำแหน่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 2 ของประเทศจีน และอันดับที่ 3 ของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของโลก และในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา GAC Aion สร้างสถิติผลิต และขายรถยนต์ได้ครบ 1 ล้านคันเร็วที่สุดในโลกเป็นประวัติการณ์ โดยใช้เวลาเพียง 4 ปี 8 เดือน การันตีถึงความสามารถและความเหนือชั้นของ GAC Aion ทั้งในแง่ของกระบวนการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการตลาดอันแข็ง แกร่ง ปัจจุบัน GAC Aion มีแบรนด์รถยนต์ภายในเครือทั้งหมด 2 แบรนด์ ได้แก่ Aion แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า ดีไซจ์นภายนอก และภายในที่ทันสมัย พร้อมด้วยเทคโนโลยี และฟีเจอร์อัจฉริยะ และ Hyper แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ (Hi-End) ที่มาพร้อมกับความหรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูงสุด
ในปี 2024 นี้ GAC Aion กำลังสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในช่วงเดือนสิงหาคมของปีนี้ ในขณะเดียวกันยังมีการสร้างศูนย์วิจัย และพัฒนา (R&D) ในประเทศไทยอีกด้วย คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนปีนี้เช่นกัน
เพื่อสานต่อความสำเร็จ และนำเสนอทางเลือกใหม่ที่เหนือกว่า ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ล่าสุด GAC Aion ได้เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 หรือ Motor Show 2024 ที่จัดขึ้นในวันพุธที่ 27 มีค.-วันอาทิตย์ที่ 7 เมย. 2567 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี โดยความพิเศษภายในงาน ได้มีการแนะนำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ Hyper อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว Hyper HT รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าลักชัวรีระดับไฮเอนด์ที่หลายคนรอคอย
Hyper เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับ Hi-End ของ GAC Aion ที่ตอบสนองความต้องการในกลุ่มลูกค้าผู้หลง ใหลความเป็นที่สุด ทั้งความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะขั้นสูง สะท้อนภาพลักษณ์ และรสนิยมอย่างเหนือชั้น โดยได้คิดค้นนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้ในรถยนต์หลากหลายรุ่นของ Hyper โลโกของแบรนด์สื่อถึงธนู AI Arrow เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยแนวคิดในการพัฒนาหลัก 4 ประการ คือ "ก้าวล้ำ (Advance) ทันสมัย (Trendy) สนุกสนาน (Fun) และ คุณภาพสูง (High-Grade)” ซึ่งสร้างความสมบูรณ์แบบ ทั้งนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ ผสมผสานในการผลิตรถยนต์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้งานได้รับ "ประสิทธิภาพสูงสุดที่มาพร้อมประสบการณ์ความหรู หรา และการบริการในระดับทอพคลาสส์"
ปัจจุบันแบรนด์ Hyper ของ GAC Aion มีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้
- Hyper HT รถเอสยูวีไฟฟ้าระดับพรีเมียม มอบความสะดวกสบายสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ตัวรถมีขนาดใหญ่นั่งสบาย พร้อมฟังค์ชัน และฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์ โดดเด่นด้วยประตูแบบปีกนก หรือ Gullwing Doors เปิด/ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
- Hyper GT รถสปอร์ทซีดานไฟฟ้า มาพร้อมดีไซจ์นที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมการตกแต่งภายในที่ดูหรูหรา โดดเด่นด้วยประตูแบบปีกผีเสื้อ (Butterfly Doors) และออพชันระดับไฮเอนด์
- Hyper SSR ไฮเพอร์คาร์ไฟฟ้า 100 % รุ่นแรกในประเทศไทย มาพร้อมตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา มอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ให้พละกำลังรวมสูงสุด 1,224 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วสูงสุดภายใน 1.9 วินาที และมีแรงกระชากในระดับ 1.7G
โลโกของแบรนด์ Hyper เป็นสัญลักษณ์ ลูกศร AI สื่อถึงภูมิปัญญา และความรัก ที่สุดแห่งเทคโนโลยี และความโรแมนติก มุ่งเน้นอัจฉริยภาพ ความหรูหรา ศิลปะ และรสนิยม รังสรรค์ศิลปกรรมทางเทคโนโลยี ปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนาขีดความสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลกใน 6 มิติ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การผลิตอัจฉริยะ ห่วงโซ่อุตสาหกรรม การบริการด้านการตลาด วัฒนธรรมองค์กร และความเป็นสากล โดยวันนี้ เราได้นำรถรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ Hyper ที่พร้อมผลิตเพื่อส่งมอบสู่ตลาด “Hyper HT”
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Hyper HT ถือเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าที่มาพร้อมกับความหรูหรา และเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก เหนือระดับด้วยดีไซจ์นภายนอกแบบโค้งมนที่เป็นเอกลักษณ์ (Liquid Curved Body) โดดเด่นด้วยประตูคู่หลังแบบปีกนก (Gullwing Doors) พร้อมเปิด/ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สะกดทุกสายตาที่ได้พบเห็น ภาย ในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพิ่มความหรูหราระดับพรีเมียม รวมถึงฟังค์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เบาะนวดไฟฟ้า ปรับระดับการนวดได้หลายรูปแบบ, เบาะหนังคุณ ภาพสูงให้สัมผัสการนั่งที่ดีเยี่ยมพร้อมฟังค์ชันระบายอากาศ และอุ่นเบาะ เพิ่มความผ่อนคลายตลอดการเดินทาง เบาะที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนได้ถึง 143 องศา มากที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกัน, ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูง และฟีเจอร์อื่นๆ มากมาย
จุดเด่นอันเหนือระดับของ Hyper HT มาพร้อมกับที่พักเท้าด้านหลังแบบพับได้ เพิ่มพื้นที่ยืดขาโอ่อ่าขั้นสูงสุด และโต๊ะวางของอเนกประสงค์ สำหรับวางสิ่งของต่างๆ ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยกระจกกันเสียงแบบลามิเนท 2 ชั้น และพื้นที่สัมภาระขนาดใหญ่พิเศษ ความจุขนาด 670 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถใช้พื้นที่ได้ถึง 1,802 ลิตร สามารถเก็บถุงกอล์ฟใบใหญ่ 2 ใบได้สบายๆ
Hyper HT ถูกพัฒนาด้วยแนวคิดหลัก 4 ประการได้แก่
· Hyper Design-ที่สุดแห่งการออกแบบเหนือระดับ เปรียบเสมือนงานศิลปะแห่งโลกยานยนต์ สะกดทุกสาย ตาด้วยประตูแบบปีกนก (Gullwing Doors), ไฟหน้าแบบ Diamond Cut และไฟท้ายแบบ Horizon
· Hyper Space-มอบความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่มากกว่า ด้วยพื้นที่ภายในสุดหรูหรา ตกแต่งด้วย วัสดุระดับพรีเมียม มอบประสบการณ์ในการขับขี่ และการโดยสารระดับ “เฟิร์สต์คลาสส์” ด้วยฟังค์ชันเบาะนวด 10 จุด และเบาะโดยสารด้านหลังที่สามารถปรับเอนได้ถึง 143 องศา
· Hyper Energy-ไปได้ไกลและรวดเร็วยิ่งกว่า ด้วยเทคโนโลยี Magazine Battery เจเนอเรชันที่ 2 พร้อมระ บบ Fast Charge ชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถวิ่งได้ไกล 400 กม. และหากชาร์จเต็มจะสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กม.
· Hyper Network-โครงข่ายสถานีชาร์จ Hyper Premium Charging Network เอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้า Hyper โดยในปี 2024 จะมีการสร้างสถานีชาร์จจำนวน 15 แห่ง ครอบคลุมรัศมี 15 กม. ในกรุงเทพฯ และในปี 2028 จะมีการขยายโครงข่ายสถานีชาร์จเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ