ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Mercedes-AMG GT 63 S E Performance รุ่นปี 2568 ซูเพอร์คาร์พลัง รุ่นใหม่จากค่ายดาวสามแฉก มาพร้อมกับขุมพลังไฮบริดให้กำลังสุทธิ 805 แรงม้า
Mercedes-AMG GT 63 S E Performance ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. ผ่านระบบเกียร์ 2 จังหวะ ส่งกำลังไปยังเฟืองท้าย ทำงานร่วมกับระบบถ่ายทอดกำลัง 4 ล้อ AMG “4MATIC+” โดยสามารถส่งพลังขับเคลื่อนของมอเตอร์ไฟฟ้าไปยังล้อหน้าทันที หากพบการลื่นไถลที่ล้อหลัง
ชุดแบทเตอรี 400 โวลท์ ขนาด 6.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ติดตั้งบริเวณเหนือเพลาท้ายเพื่อช่วยการกระจายน้ำหนัก และใช้นวัตกรรมการระบายความร้อนแบบใหม่ โดยใช้ของเหลวไม่นำกระแสไฟฟ้าไหลผ่านทุกเซลล์ของแบทเตอรี แทนการระบายความร้อนด้วยอากาศ หรือการระบายความร้อนแบบอื่น เทคโนโลยีแบทเตอรีเป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่งสูตร 1
กระแสไฟฟ้าจากแบทเตอรีให้พลังขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 201 แรงม้า หรือให้พลังขับเคลื่อน 94 แรงม้าต่อเนื่อง ด้วยระบบพลัก-อิน ไฮบริดจึงต้องจอดรับการชาร์จกระแสไฟฟ้า และมีระยะเดินทางไม่มากนัก หากใช้แบทเตอรีอย่างเดียว จะมีระยะเดินทางเท่ากับรุ่น 4 ประตู โดยมีระยะเดินทาง 7 ไมล์ (ประมาณ 11.26 กม.)
สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงใช้บลอค วี 8 สูบ เทอรโบคู่ ความจุ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 603 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 86.7 กก.-ม. เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าจะมีกำลังสุทธิ 805 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 144.8 กก.-ม. ถือว่ามีพละกำลังสูงสุดที่เคยผลิตมา โดยมีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 2.7 วินาที และความเร็วสูงสุด 199 ไมล์/ชม. (ประมาณ 320 กม./ชม.)
Mercedes-AMG GT 63 S E Performance มีโหมดการขับขี่ให้เลือก คือ Comfort , Slippery, Sport, Sport+, Race, Individual และ Electric หรือใช้ไฟฟ้าล้วน กับ Battery Hold หรือไม่ใช้ไฟฟ้า
Mercedes-AMG GT 63 S E Performance เหมือนซูเพอร์คาร์ขุมพลังไฮบริดทั่วไป เพราะจะไม่ปลุกเพื่อนบ้านด้วยเสียงคำรามของขุมพลัง สามารถขับเข้า-ออก บ้านแบบเงียบๆ แต่หากเผลอกดเท้าขวาอย่างแรงก็จะปลุกการทำงานของขุมพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้ทำงานร่วมกันส่งพลังปีศาจทะลักทลายออกมาทันที