ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Alpine ผู้ผลิตรถจากฝรั่งเศส เตรียมเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาในปี 2569 ในขณะที่ Renault บริษัทแม่กำลังทุ่มทุนพัฒนารถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ขณะที่เครื่องยนต์สันดาปภายในยังเป็นที่ต้องการ จึงหาทางออกด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลแบบเดิม
Antony Villain หัวหน้าแผนกออกแบบ ให้สัมภาษณ์ว่า Alpenglow เป็นรถต้นแบบที่พัฒนาเพื่อจะผลิตเป็นรถใช้งานบนถนนสาธารณะได้ จากรถแนวคิดคันแรกที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 340 แรงม้า และในอนาคตจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ วี 6 สูบ ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งอีกไม่นานจะสามารถใช้งานในถนนสาธารณะได้
Alpenglow เครื่องยนต์สันดาปเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ถูกพัฒนาเคียงข้างการผลิตรถไฟฟ้า และจะมีการพัฒนาการขึ้นไปอีกระดับเป็นรถต้นแบบคันที่ 3 ก่อนการผลิตเป็นพโรดัคชันคาร์ โดยมีจำนวนการผลิตไม่มากนัก
รถต้นแบบ Alpenglow พลาดการวิ่งทดสอบครั้งแรกที่สนาม Spa-Francorchamps ประเทศเบลเยียม จากปัญหาที่ระบบไฟฟ้า โดยรถต้นแบบ Alpenglow คันที่ 2 เปลี่ยนมาใช้แชสซีส์ รถแข่ง Ligier แทนการปรับปรุงจากแชสซีส์เดิมของรถต้นแบบคันแรก จากนั้นจะติดตั้งเครื่องยนต์ วี 6 สูบ แทนที่เครื่องยนต์ 4 สูบเดิม
ในการประชุมประจำปีของ Renault ซีอีโอของบริษัท Luca de Meo ประกาศจะนำ Alpenglow เข้าสู่สายการผลิต ทั้งจะยุติการผลิต A110 จากนั้นจะปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยการขยายการผลิตรถออกไปเป็น 7 รุ่น ให้เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด และจะมีขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปภายในเชื้อเพลิงไฮโรเจนบางรุ่น
สำหรับตลาดสหรัฐฯ Renault มีแผนจะส่ง A110 เข้าไปขายในปี 2569 แต่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์แบบวางกลางลำ มีบอดีให้เลือก ทั้งคูเปและโรดสเตอร์ ส่วนในปี 2570 จะเปิดตัวครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี จากนั้นจะเปิดตัวรุ่น A310 รถ 4 ประตู สไตล์โฉบเฉี่ยวในปีถัดไป