Honda ปฏิรูปไลน์การผลิตที่พระนครศรีอยุธยา ยุติผลิตรถยนต์ เหลือผลิตชิ้นส่วนอะไหล่

Honda (ฮอนดา) ปรับกลยุทธ์โครงสร้าง "ปฏิรูปสายการผลิตรถยนต์" โดยทำการยุติการผลิตรถยนต์ที่นิคมอุตสาหกรรม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในปี 2025 เน้นไปผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่โรงงานจังหวัดปราจีนบุรี

ยุติการผลิตรถยนต์ที่พระนครศรีอยุธยา

โรงงาน Honda ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะหยุดการผลิตรถยนต์ และหันมาพัฒนาเป็นฐานการผลิต และส่งออกชิ้นส่วน โดยใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีการผลิต และห่วงโซ่อุปทานที่พัฒนา และมีการเก็บรวบรวมเป็นเวลาหลายปี ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะแห่งนี้ 

ส่วนโรงงาน Honda ที่จังหวัดปราจีนบุรีจะปรับเปลี่ยนไปพัฒนาเป็นฐานการผลิต และส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป หรือ CBU ที่สมบูรณ์มากขึ้น รองรับการผลิตรถยนต์อย่างครบวงจร  แต่จะลดกำลังการผลิตในปัจจุบันของโรงงานปราจีนบุรี เหลือ 120,000 คัน/ปี ตั้งแต่รุ่น Civic (ซีวิค),City (ซิที), City Hatchback (ซิที แฮทช์แบค) และ e:N1 (อี:เอน 1) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของ Honda ซึ่งเหล่านี้ทำให้แสดงถึงศักยภาพ และผสมผสานเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความสามารถในการรองรับธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น    

เปลี่ยนไลน์ผลิต เน้น EV เพิ่มมากขึ้น 

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป โดยในกลุ่มที่เป็นกำลังการผลิตสำคัญในกลุ่มรถยนต์ไฮบริด หรือ e:HEV ในปี 2567 นี้ Honda ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 32 % เป็น 70 % เพื่อตอกย้ำว่ากระแสรถยนต์พลังงานทางเลือก หรือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ xEV มีความก้าวหน้าในการผลิตต่อไปในอนาคต 

การรวมไลน์ผลิตรถยนต์ไว้ที่โรงงานเดียวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนโดยรวม ซึ่งจากสภาพตลาดรถยนต์ที่หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 ความเป็นไปได้ที่จะรวมการผลิตไว้ในแห่งเดียวเพื่อบริหารต้นทุนคล่องตัว และคาดการณ์ว่ายอดขายจะไม่ฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้ การตัดสินใจยุติการผลิตครั้งนี้เป็นการปฏิรูปไลน์การผลิตรถยนต์ที่พร้อมรองรับนวัตกรรมใหม่ อีกทั้งที่ปราจีนบุรีเป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า และยังมีศูนย์วิจัย และพัฒนา รวมถึงสนามทดสอบในพื้นที่แถบเดียวกัน 

ไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตจากไทย

ส่วนสถานการณ์ที่มีผลกระทบจากแบรนด์ผู้ผลิตจากประเทศจีนอย่าง BYD (บีวายดี), GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) หรือ AION ที่ได้เร่งการเติบโตในการสร้างโรงงานเป็นฐานการผลิตของรถยนต์ไฟฟ้านั้น อาจเป็นสัญญาณให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นได้เตรียมกลยุทธ์ และแนวทางการพัฒนาในรูปแบบอื่น เพื่อคงส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น และรักษาฐานลูกค้าต่อไป

Honda Thailand ยังคงเดินหน้าส่งออกรถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานในไทย ไปยังตลาดอื่นๆ ในอาเซียน อย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศ ซึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ อาจต้องเจอปรับเปลี่ยนการผลิตมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าเป็นวงกว้างในอนาคต