บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) หรือ GAC AION ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลกสัญชาติจีน เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกนอกประเทศจีน ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC บนพื้นที่ 85,000 ตารางเมตร มีความพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงตามมาตรฐานระดับโลก เพื่อมุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทั้งผลิตและจำหน่ายในประเทศรวมถึงส่งออกไปยังประเทศที่ใช้รถพวงมาลัยขวาทั่วโลก เพื่อสร้างการเติบโตทั้งด้านแบรนด์และยอดจำหน่าย ตลอดจนถึงผลักดันเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคให้เติบโตร่วมกัน
การเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยของ GAC AION (จีเอซี ไอออน) ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาด้านการขาย การจัดจำหน่าย และการส่งเสริมศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีคุณภาพ และมาตรฐานการผลิตเช่นเดียวกับโรงงานในประเทศจีน โดยวางกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ มีคุณภาพสูง และเป็นมาตรฐานในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม โดย AION ได้ปรับปรุงแผนพัฒนาทั้งหมด 6 แนวทาง ซึ่งรวมถึง การเพิ่มความสามารถในการผลิต การขยายสายผลิตภัณฑ์ และการกำหนดแนวทางของตลาดในเรื่องฐานการผลิตและจำหน่ายทั่วประเทศ
โดย AION เป็นบริษัทแนวหน้าของกลุ่มค่ายยานยนต์ GAC ในการพัฒนาของรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะสู่ตลาดโลก ที่ได้สร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มีความล้ำหน้า และเป็นเอกลักษณ์ โดยเป็นแบรนด์ที่มียอดขายครบ 1 ล้านคัน ด้วยระยะเวลาที่ “เร็วที่สุดในโลก” เพียง 4 ปี 8 เดือน และ GAC AION ยังคงอยู่ในสามอันดับแรกของยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลก ทั้งนี้ GAC AION มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการก้าวสู่โลกเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต โดยได้ค้นคว้าวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีอัจฉริยะ รวมถึงการเชื่อมต่อเครือข่ายอัจฉริยะและยานพาหนะพลังงานใหม่ โดยมีโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีเทคโนโลยี แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (AEP Platform) และเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ทำให้ GAC AION ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนารถยนต์พลังงานใหม่ในประเทศจีน
ในการเปิดตัวโรงงานครั้งนี้ GAC AION ยังได้นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า AION V (ไอออน วี) รุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการเผยโฉม AION V รุ่นล่าสุดในประเทศจีนอีกด้วย เพื่อตอกย้ำความสำคัญของตลาดในประเทศไทย รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัย และทันสมัยที่สุดสู่ตลาดโลก โดยผลิตขึ้นตามหลักการ 8 จุดเด่นหลัก ได้แก่ ดีไซจ์นที่โดดเด่น, พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง, เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยว, ระบบขับขี่อัจฉริยะระดับโลก, เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ, มีระยะทางวิ่งไกล และทนทานต่อสภาพอากาศ, เทคโนโลยีชาร์จเร็วอัจฉริยะ, แบทเตอรีมีความปลอดภัยสูง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของ GAC AION V รุ่นล่าสุด ตัวถังแบบเอสยูวี เน้นเหลี่ยมสัน รองรับการใช้งานอเนกประสงค์เต็มพิกัด ขนาดตัวถังค่อนข้างใหญ่เกินคาด ทางผู้ผลิตระบุระยะทำการสูงสุดถึง 750 กม. พร้อมทางเลือกของมอเตอร์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในนั้นคาดว่าจะใช้มอเตอร์กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ชุดเดียวกับที่ใช้งานใน AION Y Plus (ไอออน วาย พลัส) แต่มีการพัฒนาประสิทธิภาพการชาร์จไฟฟ้าให้สูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ล้ำสมัย ส่วนการออกแบบห้องโดยสาร เน้นความกว้างขวาง และอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย เบาะสามารถพับได้ราบ (รองรับการปูเบาะเป่าลมทรงยาว) คอนโซลหน้ามีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าร่วมค่ายอย่าง AION Y Plus รวมถึงรูปทรงของพวงมาลัย และจอภาพ โดยกำหนดทำตลาดของ AION V ในบ้านเราจะมีขึ้นไม่เกินช่วงปลายปีนี้ โดยจะเป็นผลผลิตจากโรงงานในประเทศไทยของ GAC AION และเตรียมส่งไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ตามแนวคิดของรถยนต์รุ่นนี้ คือ “AION’s First Golbal Strategic Model” กับการทำตลาดภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกจากโรงงานของประเทศไทย ส่วนราคาของ AION V รุ่นล่าสุด คาดว่าจะอยู่ในระดับเดียวกับ AION Y Plus นั่นคือ ประมาณ 9แสนบาทปลายๆ – 1 ล้านบาทต้นๆ (ราคาโดยรวมอาจสูงกว่าเล็กน้อย ตามเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าของ AION V )
นอกจากนี้ การเปิดตัวโรงงานในประเทศไทยครั้งนี้ เป็นกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการขยายตลาด ที่มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ในระดับสากล สร้างการผลิต และผลักดันให้เกิดการจำหน่าย รวมถึงกระจายความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปสู่ระดับท้องถิ่น ซึ่ง AION ได้นำเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดเข้ามาในประเทศไทย พร้อมกับวางแผนสายงานอย่างครบวงจรทั้งหมด ทั้งระบบนิเวศพลังงาน วางรากฐานการฝึกอบรมพนักงาน และสร้างระบบอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก เพื่อช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ยิ่งไปกว่านั้น การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ GAC AION ในประเทศไทย ถือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพทางการแข่งขันของแบรนด์ทั้งในประเทศไทย และในระดับสากล ด้วยการเป็นฐานการผลิตรถยนต์แห่งแรกในต่างประเทศของ GAC AION ซึ่งปัจจุบันมีโรงงานผลิต 2 แห่งในประเทศจีน มีกำลังการผลิต 500,000 คันต่อปี และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 120% ทั้งยังมียอดการผลิต และจำหน่ายอยู่ในสามอันดับแรกของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ เมื่อเปิดโรงงานแห่งนี้ขึ้นอีกหนึ่งแห่ง จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับบริษัทฯ ในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานทางเลือกที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และยังมีแผนสร้างฐานการผลิตและการจำหน่ายใน 7 พื้นที่ทั่วโลก
ความสำเร็จจากการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จะแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างจีน และไทยในด้านพลังงานใหม่ และเกิดเป็นการพัฒนาร่วมกันต่อไปในระยะยาว เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “การแบ่งปันเทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์” ซึ่งสนับสนุนนโยบายในการเปลี่ยนแปลงพลังงานรถยนต์ให้เป็นพลังงานสีเขียว โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่ออยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
สำหรับโรงงานในประเทศไทยจะใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับชั้นนำของโลก และควบคุมคุณภาพการผลิตด้วยเทคโนโลยี AI ที่ทรงพลัง การผลิตอัจฉริยะไร้คาร์บอนระดับแถวหน้าของโลก รวมถึงการเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานสะอาด จาก GAC AION ประเทศจีน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นโรงงานประกอบรถยนต์พลังงานใหม่ Lighthouse Factory แห่งแรก และแห่งเดียวในโลก โดยรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นโดย World Economic Forum ที่ได้ร่วมมือกับองค์กรชั้นนำอย่าง McKinsey & Company ในการคัดเลือกโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าเกณฑ์เทคโนโลยีอุตสาหกรรม 4.0 ที่มุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะ ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ เป็นการตอกย้ำว่า GAC AION มุ่งมั่นเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาดให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ GAC AION ยังได้มอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2 คัน ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ตามโครงการความร่วมมือระหว่าง GAC AION และสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สำหรับใช้ในการศึกษาและเรียนรู้ ของนิสิตนักศึกษารวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนด้านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในอนาคตต่อไป
สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า AION รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก สามารถเข้าไปทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการ AION ทั่วประเทศ และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.aionauto.com
Facebook : https://www.facebook.com/AIONthailand
Instagram : https://www.instagram.com/aion_thailand
X (Twitter) : https://x.com/AION_TH
Tiktok : https://www.tiktok.com/@aion_thailand