ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงอยู่ไปอีกนาน แม้แต่บริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Toyota ยังทุ่มเงินลงทุนจำนวนมหาศาลในการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินต่อไป ขณะเดียวกัน Avadi บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ในสหรัฐฯ ได้ออกแบบเครื่องยนต์ที่มีความยั่งยืนสำหรับอนาคต โดยเครื่องยนต์ต้นแบบเป็นเครื่องยนต์เสื้อสูบหมุน ต่างจากการทำงานของเครื่องยนต์ลูกสูบหมุนแบบโรตารี
เครื่องยนต์สูบเดียว 4 จังหวะ ความจุ 250 ซีซี ก้านสูบคู่ต่อกับข้อเหวี่ยงพร้อมตุ้มน้ำหนักสองชุด ปลายเพลาข้อเหวี่ยงมีเฟืองข้างละชุด เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ก้านสูบทั้งสองจะเคลื่อนตัวสวนทางกันเหมือนกรรไกร เพลาข้อเหวี่ยงหมุนสวนทิศทางกัน เฟืองปลายเพลาข้อเหวี่ยงจึงหมุนไปบนเฟืองแหวนที่ติดกับเสื้อเครื่องชิ้นนอก (เสื้อเครื่องยึดกับตัวรถ ส่วนเสื้อสูบด้านในหมุนด้วยเฟืองทั้งสองฝั่งหมุนไปบนชุดเฟืองวงแหวนรอบเครื่อง) เครื่องยนต์ใหม่มีชิ้นส่วนน้อยลง จึงมีน้ำหนักน้อยกว่า กำลังมากกว่า มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหวเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ทั่วไป
Avadi เชื่อว่าเครื่องยนต์ออกแบบใหม่ สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใช้ในรถยนต์นั่ง แต่ยังไม่มั่นใจกับความสิ้นเปลือง ในอนาคต Avadi มีแผนจะผลิตเครื่องยนต์หลายขนาด เพื่อเป็นเครื่องชาร์จกระแสไฟให้รถไฟฟ้า ด้วยเครื่องยนต์ต้นแบบที่มีความยาว 12 นิ้ว (ประมาณ 30.5 ซม.), สูง 10 นิ้ว (ประมาณ 25 ซม.) และกว้าง 8 นิ้ว (ประมาณ 20 ซม.) มีน้ำหนัก 23.6 ปอนด์ (ประมาณ 10.7 กก.) ให้กำลังสุทธิ 11.6 กิโลวัตต์/15.8 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.4 นิวทันเมตร/3.1 กก.ม. แม้ไม่สามารถสร้างกระแสไฟได้เพียงพอสำหรับรถไฟฟ้า แต่อย่างน้อยก็เป็นก้าวที่สำคัญ
จากสถานการณ์ยอดขายรถไฟฟ้าลดลง บริษัทผู้ผลิตเลือกเปิดตัวรถไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์สร้างกระแสไฟป้อนแบทเตอรี อย่าง Mazda MX-30 และ Ram 1500 Ramcharger โดย Mazda ใช้เครื่องยนต์โรตารี ความจุ 830 ซีซี ให้กำลัง 54 กิโลวัตต์/74 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นไฟ ส่วน Ram กระบะ EREV โดยใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ความจุ 3.6 ลิตร ให้กำลัง 128 กิโลวัตต์/174 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นไฟ
ด้วยความสำเร็จจากเครื่องยนต์ต้นแบบของ Avadi อีกไม่นานบริษัทอาจผลิตเครื่องยนต์จำหน่าย แม้ไปไม่ถึงรถยนต์นั่ง แต่อาจใช้กับจักรยานยนต์, ATV, ดโรน, เครื่องตัดหญ้า, รถเพื่อการสันทนาการ และอีกหลากหลายแนวทาง