ข่าวจากเนเธอร์แลนด์ ระบุว่า Fiat (เฟียต) ในประเทศบราซิล เปิดตัวเทคโนโลยีไบโอไฮบริด (Bio-Hybrid Technology) โดยนำมาใช้กับ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่ได้รับความนิยมสูง นั่นคือ Pulse และ Fastback โดยเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการใช้เอทานอล เพื่อเป็นการลดมลพิษจากคาร์บอน ทั้งเป็นระบบเครื่องยนต์ที่ก้าวหน้า และสามารถเข้าถึงได้
Fiat เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงในบราซิล ทั้งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาครั้งนี้ โดยก่อตั้งศูนย์วิจัย Bio-Hybrid ระดับโลกที่โรงงาน Betim ของ Stellantis และแสดงถึงความมุ่งมั่น โดยการเปิดตัว ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ขุมพลังไบโอไฮบริด ที่ยั่งยืน และราคาไม่สูง ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่บริษัท เพื่อการเป็นผู้นำด้านการเดินทางแห่งอนาคต
ระบบ T200 ไฮบริด ที่ใช้ใน Fiat Pulse และ Fastback ถือเป็นเทคโนโลยีที่เพียบพร้อม ทั้งสมรรถนะ และประสิทธิภาพ ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ซีวีที 7 จังหวะ และเครื่องยนต์ Turbo Flex ความจุ 1.0 ลิตร ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังที่มีกำลังสูงสุดในเซกเมนท์ที่ 95 กิโลวัตต์/130 แรงม้า และแรงบิด 200 นิวทันเมตร/20.4 กก.ม. พร้อมเทคโนโลยีระบบไฮบริด ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์อย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังลดความสิ้นเปลืองในเมือง โดยในรุ่น Fastback ลดได้ 11.5 % และรุ่น Pulse ลดได้ 10.7 % เมื่อเทียบกับรุ่นไม่มีระบบไฮบริด จึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าระบบไฮบริด T200 เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ และความคุ้มทุน
ระบบไฮบริดของ Fiat ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ามัลทิฟังค์ชัน แทนการใช้อุปกรณ์อัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) และสตาร์เตอร์ (Starter) ทำงานร่วมกับแบทเตอรี 2 ชุด ทั้งแบทเตอรีตะกั่วกรด 12 โวลท์ขนาด 68 แอมพ์ชั่วโมง ที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์ และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 11 แอมพ์ชั่วโมง ที่อยู่ใต้เบาะนั่งคนขับ กระแสไฟจากแบทเตอรีจ่ายพลังให้มอเตอร์ถึง 3 กิโลวัตต์ เพื่อเสริมแรงบิดให้เครื่องยนต์ และมอเตอร์สามารถชาร์จกระแสไฟกลับไปยังแบทเตอรี ซึ่งช่วยลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้น้อยลง
ระบบ T200 ทำหน้าที่ถึง 4 โหมดเพื่อการสร้างประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์
บทความแนะนำ