ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Porsche 911 Dakar (โพร์เช 911 ดาการ์) ถูกผลิตจำนวนจำกัด 2,500 คัน และพิเศษสุดสำหรับคันสุดท้ายโดยการพ่นสีแบบพิเศษ จากผลงานของ Sonderwunsch แผนกปรับแต่งของ Porsche
911 Dakar ผลิตออกมาเป็นรถรุ่นปี 2566 ออกแบบใหม่เป็นเวอร์ชันยกสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ สามารถทำความเร็วได้ทุกสภาพพื้นผิว และผลิตจำนวนจำกัด ทั้งมีราคาสูงที่สุดในอนุกรม 911 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 223,450 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.77 ล้านบาท) รวมค่าขนส่ง
คันนี้พิเศษสุดด้วยเวอร์ชัน Sonderwunsch ซึ่งจะส่งให้ลูกค้าในอิตาลี ทำให้มีค่าตัวสูงกว่าราคาเริ่มต้นไม่น้อย ภายนอกถูกพ่นแบบสามโทนสี (three-tone) เป็นลายเดียวกับตัวแข่ง Rothmans 911 ที่ชนะรายการแข่งขันดาการ์แรลลีในปี 2527 แต่ใช้สีเหลืองแทนสีขาวเดิม
ส่วนของสีเหลือง และสีน้ำเงินเข้ม ถูกแทรกด้วยแถบสีน้ำเงินสดใสสำหรับคันนี้โดยเฉพาะ โดยเรียกว่าสี Lampedusablue ซึ่งเป็นชื่อของเกาะของอิตาลี อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทั้งยังใช้บนขอบล้อ และขอบโคมไฟหน้า
ทีมงาน Sonderwunsch เป็นผู้ทำการตกแต่งทั้งหมด และเป็นงานแบบทำมือ โดยมีลูกค้าติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลด้านเทคนิคไม่ต่างไปจาก 911 Dakar นอกจากเพิ่มการติดตั้งชุดยก 2.0 นิ้วให้กับ Porsche 911 Carrera (โพร์เช 911 คาร์เรรา), พร้อมระบบยกไฮดรอลิค ปรับเพิ่มระยะสูงได้อีก 1.2 นิ้ว, ท้ายรถมีสปอยเลอร์แบบตายตัว, ซุ้มล้อขนาดใหญ่, พร้อมยางแบบ all terrain พร้อมลุยทางฝุ่น, ขุมพลังให้กำลังสุทธิ 473 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ 6 สูบนอนยัน ขนาด 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก Carrera 4 GTS (คาร์เรรา 4 จีทีเอส)
Porsche ยังไม่มีแนวคิดว่าจะผลิต 911 Dakar เพิ่มอีกเวอร์ชันหรือไม่ แม้ในอดีตจะเคยนำรถรุ่นพิเศษกลับมาเพิ่มเป็นอีกรุ่นของบริษัทอยู่เสมอ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงสำหรับ 911 Dakar นอกจากนั้นเมื่อปี 2565 Oliver Blume บอสส์ของ Porsche เคยให้สัมภาษณ์ว่าในอนาคตอาจมี 911 เวอร์ชันจอมลุย เหมือนกับที่นำรถแข่งทางเรียบมาผลิตเป็นอีกเวอร์ชันด้วยชื่อรุ่น GT