ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Renault ผลิตรถทดสอบ Filante Record 2025 เพื่อทดสอบแนวคิดรถไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงสุด ในรูปทรงแบบรถไฟฟ้าที่นั่งเดี่ยว พร้อมแพคแบทเตอรีความจุ 87 กิโลวัตต์ชั่วโมง พัฒนาขึ้นในรูปแบบรถประหยัดพลังงาน และมีระยะเดินทางไกล
รูปทรงภายนอกสไตล์แบทโมบิล ใช้พื้นฐานการออกแบบจากรถสร้างสถิติความเร็วสูงบนบกของ Renault (เรอโนลต์) ในอดีต 3 คัน ตั้งแต่ชุดไฟหน้าทรงกลมของ 40 CV des Records ในทศวรรษ 1920, ล้อยื่นแบบรถแข่งล้อเปิดของ 1934 Nervasport des Records (2477), ส่วนโค้งของตัวรถจากรถเครื่องยนต์กังหันแกส 1956 Etoile Filante (2499)
ด้วยความยาวถึง 5.12 เมตร (201.5 นิ้ว) แต่มีน้ำหนัก 1,000 กก. (2,204 ปอนด์) เฉพาะแบทเตอรีอย่างเดียวมีน้ำหนัก 600 กก. (1,322 ปอนด์) ถ้าเทียบกับรถไฟฟ้าทั่วไปไม่ถือว่ามาก โดยเฉพาะถ้าเทียบกับ GMC Hummer EV ที่มีแพคแบทเตอรีขนาด 205 กิโลวัตต์ชั่วโมง และมีน้ำหนักถึง 1,278 กก. ซึ่งหนักกว่ารถยุโรปขนาดคอมแพคบางคัน
รูปทรงของ Filante Record 2025 ค่อนข้างยาว แต่มีความกว้างเพียง 1.71 ม. (67.3 นิ้ว) และความสูง 1.19 ม. (46.8 นิ้ว) รูปทรงตัวรถค่อนข้างปราดเปรียว เพื่อประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์สูงสุด และเดินทางได้ไกลสุด Renault จะเริ่มการทดสอบภายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ คาดว่าใช้แบทเตอรีขนาด 87 กิโลวัตต์ชั่วโมงจาก Scenic E-Tech รถครอสส์โอเวอร์ไซซ์คอมแพคของ Renault
เฉพาะตัวรถของรถทดสอบไม่รวมแบทเตอรีมีน้ำหนักเพียง 400 กก. หรือ 882 ปอนด์ โดย Renault สร้างแชสซีส์ด้วยการเลือกโลหะหลายชนิด ทั้งอลูมิเนียม, คาร์บอน และเหล็กอัลลอย ใช้เครื่องพิมพ์สามมิติสำหรับการสร้างชิ้นส่วนอลูมิเนียมความแข็งแกร่งสูง ประกอบกับการผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับซอฟท์แวร์จำลองโครงสร้าง เพื่อให้โครงสร้างแข็งแกร่ง และเบาที่สุด
เซลล์แบทเตอรีถูกบรรจุลงในแพคแบทเตอรี (ไม่มีโมดูลแบทเตอรี) ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในโครงบอดีขนาดกระทัดรัดได้พอดี Renault ให้ความสำคัญกับยางที่มีผลกระทบต่อการทำระยะเดินทางถึง 20 % จึงเลือกใช้ยางขนาด 19 นิ้ว ซึ่งผลิตพิเศษโดย Michelin เพื่อเน้นลดการสูญเสียพลังงาน และมีหน้าสัมผัสเรียบ
จากสถิติเดิมที่รถแนวคิด Mercedes Vision EQXX ทำค่าความสิ้นเปลืองได้ 13.5 กม. (8.4 ไมล์) ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง คาดว่ารถประหยัดพลังงานของ Renault ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ที่มีน้ำหนักเบา น่าจะทำระยะทางมากกว่าอย่างแน่นอน
บทความแนะนำ