ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า ระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนรุ่นที่ 3 ของ Toyota (โตโยตา) จะมีพลังมากเป็นสองเท่า และเพิ่มประสิทธิภาพอีก 20 % ด้วยขนาดเท่าเดิม โดยเทียบกับระบบส่งกำลังของ Mirai (มิราอิ) รุ่นปัจจุบันที่มีกำลังสุทธิ 128 กิโลวัตต์/174 แรงม้า โดยระบบเซลล์เชื้อเพลิงใหม่พร้อมเปิดตัวปี 2570
ระบบเซลล์เชื้อเพลิงใหม่เน้นการใช้งานกับรถใช้งานหนักอย่างรถขุด และยังให้ความสำคัญกับรถยนต์นั่งส่วนตัวด้วย โดยบริษัทจะเปิดตัว Mirai เจเนอเรชันที่ 3 ในเวลาเดียวกัน
ค่าย Toyota ได้จำหน่ายรถยนต์นั่งเชื้อเพลิงไฮโดรเจนไปแล้วประมาณ 28,000 คัน ตั้งแต่การผลิตรุ่นแรกเมื่อ 11 ปีก่อน ระบบเซลล์เชื้อเพลิงใหม่ จะมีความทนทานมากขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยมีความทนทานระด้บเดียวกับเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนั้นระบบเซลล์เชื่อเพลิงไฮโดรเจนใหม่ ยังมีราคาต้นทุนการผลิตต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้แจ้งรายละเอียดโดยการเทียบกับ Mirai รุ่นปัจจุบัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Toyota เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ทุ่มเทกับการพัฒนาระบบส่งกำลังทางเลือกเชื้อเพลิงไฮโดรเจนมากที่สุด ด้วยแนวคิดรถพลังเชลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งมีน้ำหนักตัวรถน้อยกว่ารถไฟฟ้า (BEV) โดยให้ความสำคัญกับรถเพื่อการพาณิชย์ เพื่อสามารถเดินทางได้ไกลขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
ถึงแม้ Toyota Mirai ยังไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยปัจจัยพื้นฐานสถานีบริการแกสไฮโดรเจน แม้แต่รถเพื่อการพาณิชย์ก็ยังประสบกับปัญหาเกี่ยวกับเชื้อเพลิง แต่บริษัทยังมุ่งมั่นใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงกับรถใช้งานหนัก ซึ่งจะผลักดันให้มีสถานีบริการแกสไฮโดรเจนมากขึ้นในที่สุด
นอกจาก Toyota ยังมีบริษัทผู้ผลิตรถรายอื่น เช่น Hyundai (ฮันเด) ที่กำลังพัฒนา Nexo (เนกโซ) รถพลังเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนรุ่นที่ 2 ซึ่งประสบปัญหาเรื่องของสถานีบริการเชื้อเพลิงเช่นเดียวกัน
BMW (บีเอมดับเบิลยู) เป็นอีกบริษัทที่มีแผนจะเปิดตัวรถพลังเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ด้วย X5 (เอกซ์ 5) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นใหม่ โดยใช้ระบบเซลล์เชื้อเพลิงของ Toyota แทนการออกแบบเอง