ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า General Motors เพิ่มเงินลงทุนที่ฐานการผลิตแบทเตอรี Spring Hill ในเทนเนสซี จะทำให้ราคาของแบทเตอรี Ultium ของ GM ถูกลง เนื่องจากแบทเตอรี ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีราคาสูง แต่เมื่อใช้โรงงานผลิตในสหรัฐฯ ทำให้มีราคาต้นทุนต่ำกว่าการนำเข้าซึ่งจะโดนกำแพงภาษีนำเข้าด้วย
GM ร่วมทุนกับบริษ้ท LG Energy Solution และทุมเงินลงทุนเป็นยอดเงินถึง 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อขยายโรงงานผลิตแบทเตอรี Ultium ใน Spring Hill สำหรับผลิตเซลล์แบทเตอรีลิเธียม ไอรอน ฟอสเฟส (LFP) แบบใหม่ คาดว่าจะผลิตในเชิงพานิชย์ได้ในช่วงปลายปี 2570
เซลล์แบทเตอรี Ultium ในปัจจุบันใช้ฐานการผลิตที่โรงงานวอร์เรน รัฐโอไฮโอ และสปริงฮิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยใช้สารเคมีประกอบอลูมิเนียม นิคเคิล-แมงกานีส-โคบอลท์ (NMC) ได้รับการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตามเซลล์แบทเตอรี NMC มีปัญหาแหล่งของโคบอลท์, วัตถุดิบนิคเคิลมีต้นทุนสูง ทำให้ราคาต้นทุนของแบทเตอรีสูง แม้จะผลิตในระดับมวลจนมีราคาต่ำลงมาแล้ว
ทางเลือกใหม่ คือ แบทเตอรี LFP ที่มีข้อดีในหลายด้าน มีต้นทุนวัตถุดิบต่ำกว่า ทั้งเหล็ก หรือฟอสเฟทที่มีราคาถูก ขณะที่นิคเคิลมีราคาสูงกว่า และโคบอลท์ยิ่งมีราคาสูงมาก แต่แบทเตอรี LFP มีความหนาแน่นพลังงานน้อยกว่าแบทเตอรีนิคเคืล-แมงกานีส-โคบอลท์ (NMC) ทั้งยังมีอัตราชาร์จ และคายประจุช้ากว่า ถ้าต้องการใช้พลังงานมากต้องเพิ่มขนาดแบทเตอรี ซึ่งจะทำให้รถมีน้ำหนักสูงขึ้น
แบทเตอรี LFP มีข้อเสียหลายประการ แต่เมื่อแลกด้วยราคาต้นทุนวัตถุดิบต่ำกว่า อาจทำให้สามารถมองข้ามจุดอ่อนไปได้ โดยเฉพาะในรถไฟฟ้ามีราคาถูกลง จนผู้ใช้รถไม่ได้ให้ความสำคัญกับระบบชาร์จเร็ว หรือระยะเดินทางที่สั้นกว่า อีกไม่นาน GM คงจะเปิดเผยรายละเอียดแบทเตอรีใหม่เพิ่มเติมในอนาคต