“พฤติกรรมการขับขี่ระดับปานกลาง” ช่วยยืดอายุแบทเตอรี

ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า สมาคมยานยนต์เยอรมนี (ADAC) ได้เผยแพร่ผลการทดสอบการใช้งานรถ Volkswagen ID.3 Pro S Tour เป็นเวลา 4 ปี รถทดสอบใช้แพคแบทเตอรีขนาด 77 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับโดยนักทดสอบหลายคนเป็นระยะทางร่วม 100,000 ไมล์ (ประมาณ 160,000 กม.)

รถทดสอบไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทุกครั้งหลังการทดสอบแบทเตอรีจะถูกชาร์จจนเต็ม 100 % เพื่อความพร้อมสำหรับนักทดสอบคนต่อไป ซึ่งรถทดสอบมีระยะเดินทางประมาณ 250 ไมล์ หรือ 402 กม. แม้ว่ารถรุ่นนี้มีระยะเดินทางมาตรฐาน WLTP ที่ 326 ไมล์ (525 กม.) มีหลายครั้งที่รถทดสอบถูกชาร์จจนเต็ม แล้วจอดไว้เป็นเวลานานกว่าจะนำออกไปทดสอบอีกครั้ง จึงเป็นการทำลายความเชื่อเดิม ที่เชื่อว่าการชาร์จแบทเตอรีเต็มแล้วจอดไว้เป็นเวลานาน จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

ปกติบริษัท Volkswagen รับประกันแบทเตอรี 8 ปี หรือ 160,000 กม. หากมีค่า SoH (State of Health) ลดต่ำกว่า 70 % จากความจุเดิม บริษัทฯ จะเปลี่ยนชุดแบทเตอรีให้ใหม่

ตลอดเวลาการใช้งานรถทดสอบได้รับการอัพเดทซอฟท์แวร์หลายครั้ง ได้รับการแก้ bug และปรับเพิ่มกระแสชาร์จเร็วเป็น 170 กิโลวัตต์ ซึ่ง Volkswagen ให้ความสำคัญกับซอฟท์แวร์มาก ซึ่งทำให้ค่าความสิ้นเปลืองพลังงานลดลง โดยเฉพาะในการเดินทางระยะใกล้ หรือขับในฤดูหนาวที่อุณหภูมิระหว่าง 0-5 องศาเซลเซียส

รถทดสอบได้รับการตรวจสอบความจุแบทเตอรีอย่างสม่ำเสมอ โดยศูนย์ทดสอบ และเทคโนโลยีบาวาเรียน ซึ่งเป็นศูนย์ทดสอบอิสระ โดยบันทึกค่า SoH ได้ 96 % ที่ระยะ 13,500 ไมล์ (21,726 กม.), 94 % ที่ระยะ 52,000 ไมล์ (83,685 กม.) และ 91 % ที่ระยะ 90,000 ไมล์ (144,840 กม.) ซึ่งเป็นไปตามคาด

จากการทดสอบครั้งนี้ ทั้ง Volkswaagen และ ADAC ได้แนะนำให้ผู้ใช้รถไฟฟ้าควรอัพเดทซอฟท์แวร์อย่างสม่ำเสมอ เพราะการใช้งานจริงจะมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าค่ามาตรฐานจากห้องทดลอง ซึ่งทดสอบด้วยระดับความเร็วสม่ำเสมอ และ “พฤติกรรมการขับขี่ระดับปานกลาง” สามารถช่วยลดความสิ้นเปลืองการใช้พลังงานถึง 10 % ตลอดอายุการใช้งานของแบทเตอรี