บทบรรณาธิการ
โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่
หลังงานเปิดตัวได้ไม่นาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เชิญสื่อมวลชน ไปสัมผัสและทดลองขับ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ ทันที และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ได้สัมผัส โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ อย่างจริงจัง โดยใช้เส้นทางจากภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี ทั้งบนถนนเรียบ และในสนามทดลองขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จำลองขึ้นมาในพื้นที่โชว์รูมโตโยต้า เพิร์ล ภูเก็ต ฯ
แต่ก่อนที่จะได้ทดลองขับ ต้องเข้าห้องเรียนเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ กันก่อน โดยหน้าที่นี้ อจ. มนัส ดาวมณี ที่ปรึกษาอาวุโส ฝ่ายบริการด้านเทคนิค เป็นผู้บรรยายสรุปจุดดี-จุดเด่นให้ฟังแบบร่ายยาว ตั้งแต่จุดเริ่มต้นในการออกแบบที่วางคอนเซพท์ QDR หรือ QUALITY, DURABILITY และ RELIABILITY ทั้ง 3 หัวข้อนี้ คือ ประเด็นหลักในการพัฒนารถของ โตโยตา
QUALITY คือ คุณภาพหลักในด้านเซฟที ที่วิศวกร โตโยตา เน้นทั้ง ACTIVE และ PASSVIE SAFETY ซึ่งรวมถึงสมรรถนะการขับขี่ คุณภาพของอะไหล่ และการบริการหลังการขาย ส่วน DURABILITY คือ ดีไซจ์นของตัวรถ ที่เน้นความแกร่ง ทนทาน และ RELIABILITY คือ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
เรียกว่านอกจากหน้าตาจะโดดเด่น หรูหรา ดูภูมิฐานแล้ว ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างจาก ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นเดิม ตรงขุมพลัง ที่ครั้งนี้ โตโยตา พัฒนาขึ้นมาใหม่ วางเครื่องยนต์ รหัส 1GD-FTV ความจุ 2.8 ลิตร และ 2GD-FTV ความจุ 2.4 ลิตร ซึ่งเป็นจุดขายหลัก โดยเครื่องยนต์ใหม่ ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องยนต์ตระกูล KD ประมาณ 10 % พัฒนาน้ำหนักของชิ้นส่วนให้ลดลง และมีแรงบิดคงที่ที่รอบเครื่องยนต์ช่วงหนึ่ง (FLAT TORQUE) ทำให้ได้สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น และที่สำคัญเสียงของเครื่องยนต์เงียบลงจากเดิมเยอะมาก ส่วนเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันนั้น ทำได้ดี ประหยัดมากขึ้น เพราะเปลี่ยนปั๊มแรงดันสูงแบบใหม่ ช่วยให้การนอคของเครื่องยนต์น้อยลง และจำนวนรูหัวฉีดของรางคอมมอนเรลปรับใหม่ โดยเครื่องยนต์รหัส 1GD-FTV มี 9 รู และรหัส 2GD-FTV มี 8 รู ส่วนระบบเกียร์นั้น มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ ตระกูล AC60E (F) เป็นเกียร์ ECT 6 จังหวะที่ทำงานได้ใกล้เคียงเกียร์ CVT และโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SIGMA4 ประกอบด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ H2 ที่ขับเคลื่อน 2 ล้อในสภาพถนนปกติ หรือบนถนนเรียบ ส่วนแบบ H4 เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เมื่อต้องการกำลังการยึดเกาะที่สูงกว่าปกติ และแบบ L4 เป็นโหมดการขับขี่ที่เน้นใช้พละกำลัง ส่วนใหญ่จะใช้ในเส้นทางวิบาก หลุม บ่อโคลน หรืออื่นๆ
นอกจากนี้ ยังมีตัวช่วยต่างๆ มากมาย ที่เด่นๆ ก็มีระบบ A-TRC ทแรคชันคอนทโรล ที่คอยตรวจจับว่าเมื่อล้อข้างใดข้างหนึ่งสูญเสียกำลัง ระบบจะเพิ่มแรงเบรคในล้อที่ลื่นไถลและกระจายแรงขับไปยังล้อที่มีทแรคชันที่ดีกว่า เพื่อการควบคุมรถที่ง่ายกว่า รวมถึงมีระบบ DAC, HAC ตัวช่วยสำคัญ ที่จะมาช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยและสนุกยิ่งขึ้น
สำหรับการทดลองขับในวันแรก เราได้ลองพละกำลังของ ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ ในสนามทดลองขับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ ขึ้นมา ให้มีความยากง่ายต่างกัน รวมถึงได้ลองระบบตัวช่วยทั้ง A-TRC, DAC, HAC และอื่นๆ ทำให้รู้ว่า สมรรถนะในการลุยของ ฟอร์ทูเนอร์ ใหม่ ยังคงมีครบถ้วน ที่เหลือก็แค่เจ้าของรถ กล้าลุยหรือเปล่า ?
ส่วนบนทางเรียบ เราได้ลองขับบนเส้นทางภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 323.8 กม. ผ่านเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นใจกลางเมืองภูเก็ต ไปจนถึงเส้นคดเคี้ยวตามภูมิประเทศของภาคใต้ บนทางเรียบอัตราเร่งแซงดี ทันใจ พวงมาลัยกระชับ เข้าโค้งแม่นมาก ช่วงล่างแน่น เกาะถนน เสียงรบกวนที่เข้าห้องโดยสารน้อยมาก และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วน น่าเสียดายที่ค่าตัวสูงไปนิด รุ่น 2.4G เกียร์ธรรมดา ราคา 1,199,000 บาท ส่วนรุ่นทอพ 2.8V 4WD AT ราคา 1,599,000 บาท แต่เชื่อว่าแฟนพันธุ์แท้ โตโยตา คงไม่หวั่น...
ABOUT THE AUTHOR
ล
ลิขิต น้าประเสริฐ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2558
คอลัมน์ Online : บทบรรณาธิการ(4wheels)